ทำข่าว “บอลโลก” ยุคแรก จาก “สีลม” ถึง “ศรีราชา”

คอลัมน์ “ซอกแซก” ของเราวันนี้จะลงตีพิมพ์ในไทยรัฐฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ครบ 7 วันของการเตะ “ฟุตบอลโลก 2022” พอดิบพอดีเป๊ะ

ตลอด 7 วันที่ผ่านมาสามารถสรุปได้โดยปราศจากข้อกังขาว่าบรรยากาศฟุตบอลโลกปีนี้ยังคงคึกคักและเป็นเรื่องสนทนาในวงข้าว วงเหล้า วงเพื่อนฝูง วงญาติพี่น้อง หรือแม้แต่ในวงสัมมนาวิชาการต่างๆ (ตอนพักเบรก) อยู่เหมือนเดิม

เหตุสำคัญเหตุหนึ่งที่ฟุตบอลโลกยังคงกุมหัวใจชาวโลกไว้ได้ แถมกุมเหนียวแน่นขึ้นเสียอีก เป็นเพราะยุคนี้สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกไปสู่ผู้ดูผู้ชมผ่านสื่อต่างๆ ได้สารพัดรูปแบบ โดยมีทางโทรทัศน์เป็นหลักใหญ่ เสร็จแล้วก็ส่งพ่วงไปทางออนไลน์อีกสารพัดแพลตฟอร์ม

ทำให้ผู้คนทั่วโลกซึ่งทุกวันนี้มี “มือถือ” เป็นปัจจัยที่ 5 แห่งชีวิตทุกชาติทุกภาษาแล้ว สามารถจะติดตามดูการถ่ายทอดสดควบคู่ไปกับการดูทางโทรทัศน์ได้อย่างสะดวกสบายเพราะดูได้ในทุกแห่งหนและทุกๆ ที่ที่ 4 จี 5 จีไปถึง

แต่ก็นั่นแหละครับ…ถ้าไม่มีอดีตก็ย่อมไม่มีปัจจุบันและอนาคต…โลกเราที่ก้าวหน้ามาจนถึงวันนี้ และจะก้าวต่อไปข้างหน้าล้วนเรียนรู้-พัฒนา-ศึกษา-สืบสานและต่อยอดมาจากวิทยาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตทั้งสิ้น

เจตนาของทีมงานซอกแซกในวันนี้จึงมีเพียงที่จะมาบันทึกเรื่องราวในอดีตว่าในยุคที่ สื่อสิ่งพิมพ์ ยังเป็นสื่อหลักและเป็นสื่อเดียวในการนำ “ข่าวสาร” และ “ผลการแข่งขัน” บอลโลกไปสู่พี่น้องชาวไทยในวันโน้น…นั้น…เราเริ่มกันมาอย่างไร? และทำงานกันอย่างไร? ไปหาข่าวบอลโลกที่ไหนว่างั้นเถอะ!

คงทราบกันแล้วว่าแม้ฟุตบอลโลกครั้งแรกจะจัดเตะขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1930 หรือ พ.ศ.2473 ที่อุรุกวัย แต่กว่าจะฮิตมาถึงเมืองไทยก็คือ ค.ศ.1970 หรือ พ.ศ.2513 ที่เม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ

ก่อนหน้านี้ข่าวฟุตบอลโลกเป็นเพียงข่าวเล็กในหน้ากีฬาเท่านั้น

จนกระทั่ง พ.ศ.2513 ที่เม็กซิโกดังกล่าว…ซึ่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ และ เดลินิวส์ ได้นําขึ้นมาพาดหัวหน้า 1 ตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน โดยพาดเป็นหัวยักษ์ 3 ชั้นด้วย ดังที่หัวหน้าทีมเล่าไว้แล้ว จึงกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการหนังสือพิมพ์ไทย

ทั้ง ไทยรัฐ และ เดลินิวส์ ขายดีอย่างเหลือเชื่อ พิมพ์เพิ่มเท่าไรๆ ก็ขายเกลี้ยง เพราะคนไทยมารอซื้อตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้า (ยุคโน้นกรอบล่วงหน้าจะมาวางขายราวๆ 8 โมงเศษ และจะมีรายละเอียดการแข่งขันบอลโลกครบครัน)

ส่งผลให้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต้องนำมาขึ้นพาดหัวด้วย จนกล่าวได้ว่าตลอด 1 เดือนของการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนั้น ลมหายใจของคนไทยทั่วประเทศมารวมกันอยู่ที่ข่าวฟุตบอลโลกโดยแทบไม่สนใจเรื่องอื่นๆ เลย

เป็นแรงกดดันให้รัฐบาลไทยต้องสั่งให้มีการถ่ายทอดสดวันชิงแชมป์ระหว่างทีมบราซิลกับทีมอิตาลี โดยช่อง 4 บางขุนพรหมในระบบ 625 เส้นรับชมได้ทั้งสีและขาวดำเป็นครั้งแรก

ผลบราซิลชนะ 4-1 และ เปเล่ (ในภาพ ประกอบ) ดาวซัลโวของบราซิลก็กลายเป็นขวัญใจคนไทยนับแต่นาทีนั้น

เนื่องจากการถ่ายทอดสดมีเพียงนัดเดียว คือนัดชนะเลิศ จึงมีคำถามว่า หนังสือพิมพ์ไทยไปเอารายละเอียดของข่าวบอลโลกมาจากไหน?

คำตอบก็คือ จาก สำนักข่าวต่างประเทศ ในประเทศไทยซึ่งมีอยู่ 3 สำนักได้แก่ เอพี ของสหรัฐฯ รอยเตอร์ ของอังกฤษ และ เอเอฟพี ของฝรั่งเศส ซึ่งสำนักงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ถนนสีลม

สำนักข่าวเหล่านี้จะมีเครื่อง โทรพิมพ์ รับข่าวที่ผู้สื่อข่าวของเขาทั่วโลกส่งมาให้ รวมทั้งข่าวบอลโลกด้วย…พวกเราพนักงานแปลข่าว จึงไปขอรายละเอียดข่าวที่สำนักเหล่านี้

จึงอาจกล่าวได้ว่า ย่านสีลม เมื่อ พ.ศ.2513 คือศูนย์รวมของข่าวฟุตบอลโลกในประเทศไทยนั่นเอง โดยเฉพาะที่สำนักข่าว เอเอฟพี ซึ่งรายงานได้ละเอียดกว่าสำนักอื่นๆ

สำหรับ 4 ปีถัดมาในบอลโลกปี 1974 หรือ 2517 ณ เยอรมันตะวันตก ซึ่งมีการถ่ายทอด 2 นัด คือเปิดสนามกับนัดชิงชนะเลิศ บรรดาโรงพิมพ์ต่างๆ เริ่มมีเครื่องโทรพิมพ์ของสำนักข่าวต่างประเทศที่เราบอกรับมาใช้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปที่สีลมอีก

แต่ฝ่ายจำหน่ายก็บอกพวกเราฝ่ายข่าวกีฬาว่า ต้องเขียนบรรยายรายละเอียดของการเตะนาทีต่อนาทีให้ยาวๆ หน่อย จะทำให้ขายดี เพราะแฟนๆ ชอบอ่าน

เราก็พบว่าที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานมานั้น ส่วนมากจะสั้นๆ เพราะในอดีตเราก็ต้องจินตนาการเสริมกันไปบ้าง หากได้มีโอกาสดูการเตะทั้งเกมจะสามารถเขียนได้ละเอียดกว่า

เมื่อเราสืบทราบว่ายุคนั้น “ศูนย์โทร คมนาคม” ที่ ศรีราชา (อาจเรียกชื่ออย่างอื่น ขออนุญาตใช้คำว่าศูนย์โทรคมนาคมไปพลางก่อน) สามารถดึงภาพจากดาวเทียมมาดูกันทุกคืนและเจ้าหน้าที่ก็นั่งดูอย่างสนุกสนาน

เราจึงไปขอความกรุณานั่งดูด้วยโดยให้ สัญญาว่าจะปิดเป็นความลับไม่บอกใคร…และบัดนี้เหตุการณ์ผ่านไปหลายปีแล้ว หมดอายุความแล้วจึงบอกได้ และขอขอบคุณศูนย์โทรคมนาคมย้อนหลังไว้ ณ ที่นี่

อีก 4 ปีต่อมา เราได้รับรายงานว่าพี่น้องชาวหาดใหญ่ของเราได้ดูบอลโลกทุกนัดทุกคืน เพราะ สถานีโทรทัศน์มาเลเซีย ซื้อลิขสิทธิ์ไว้ และสามารถดึงภาพมาดูได้ที่หาดใหญ่

เราจึงส่งผู้สื่อข่าวกีฬาไปทำข่าว และรายงานรายละเอียดนาทีต่อนาทีกันที่ หาดใหญ่ และรายงานครบทุกคู่เช่นกัน…ขอขอบคุณโทรทัศน์มาเลเซียย้อนหลังไว้ ณ ที่นี้ด้วยอีกทางหนึ่ง

ถัดมาอีก 4 ปี เราก็ทราบข่าวว่าสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งซื้อเครื่องรับสัญญาณจากดาวเทียมมาใช้สามารถดึงบอลโลกมาดูได้ทุกคู่เลย พวกเราก็ไปขอดูสดๆ พร้อมกับเขียนข่าวโดยละเอียดโดยไม่บอกให้ใครรู้

ก็ต้องขอบคุณโทรทัศน์ช่องใหญ่ช่องนี้ย้อนหลังไว้ด้วยเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเราจะได้ดูการถ่ายทอดสดครบทุกคู่ (จำไม่ได้แล้วว่าเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.ไหน) จึงไม่ต้องร่อนเร่ไปนั่งดูและเขียนรายงานนาทีต่อนาทีตามสถานที่ต่างๆอีก

รวมทั้งปีนี้ครับ แม้จะดราม่ามาก แต่ในที่สุดเราก็ได้ดูและได้เขียนที่หน้าจอครบทุกคู่ จึงต้องขอขอบคุณทุกๆฝ่ายที่ร่วมกันจ่ายค่าลิขสิทธิ์และช่วยวิ่งเต้นจนเราได้มีโอกาสดูอย่างทั่วถึงไว้ ณ ที่นี้.

“ซูม”

ข่าว,​ บอลโลก, ฟุตบอลโลก, สีลม,​ ศรีราชา, สำนักข่าว, หน้า 1, ซูมซอกแซก