หน้าข่าวเศรษฐกิจของไทยรัฐฉบับเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 10 ตุลาคม) พาดหัวตัวใหญ่เอาไว้ว่า “เตรียมรับเศรษฐกิจโลกถดถอย…กอบศักดิ์ชี้ไทยเผชิญปัญหาหนักหน่วง” พร้อมกับลงบทสัมภาษณ์ของ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เต็มหน้า 8

ท่านผู้อ่านที่ยังไม่ได้อ่านผมอยากให้กลับไปอ่านโดยด่วน…อ่านช้าๆ สัก 2-3 เที่ยว เพื่อที่จะจดจำข้อมูลและข้อแนะนำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด

หรือจะให้ดีก็ทำแบบผมเลยครับ ที่บ้านมีกระดาน “ไวท์บอร์ด” อยู่ด้วย…จึงใช้วิธีตัดแปะไว้บนกระดานเพื่อให้เห็นชัดเจนจะได้เดินไปอ่านบ่อยๆ หรือในยามที่มีความประสงค์จะทบทวนความทรงจำ

ในวันที่ ทีมข่าวเศรษฐกิจไทยรัฐ เชิญ ดร.กอบศักดิ์มานั่งสัมภาษณ์ที่ห้องรับแขกของเรานั้น…ผมมีโอกาสไปร่วมรับฟังอยู่ด้วย

ต้องขอชื่นชมว่าท่าน ดร.กอบศักดิ์ ท่านรู้ลึกรู้จริงและติดตามความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา

สมกับที่ร่ำลือกันในสื่อสังคมออนไลน์ว่า อดีตรัฐมนตรีประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี 1 ใน “4 กุมาร” ท่านนี้ ซึ่งประกาศล้างมือในอ่างทองคำทางการเมืองพันเปอร์เซ็นต์ เลือกมาปฏิบัติหน้าที่ใหม่ในฐานะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เต็มตัวนั้น

ได้กลายเป็น “กูรู” ทางเศรษฐกิจรายล่าสุดที่พุ่งแรงแซงขึ้นมาอยู่ “แถวหน้าๆ” เรียบร้อยในนาทีนี้

เพจ “Dr.KOB” ของท่านใน facebook มีผู้ติดตามกว่า 36,000 รายแล้ว (รวมผมด้วย) ณ นาทีนี้ และโดยเฉลี่ยทุกครั้งที่ Post แต่ละเรื่องจะมีคนกด Like โดยเฉลี่ยเกิน 1,000 ขึ้นไป

สำหรับบทสัมภาษณ์พิเศษของท่านในครั้งนี้ถือเป็นการรวบรวมบทความหรือข่าวสารตลอดจนข้อคิดเห็นของท่านที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กเป็นตอนๆ มาเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ ทำให้เราสามารถทราบสถานการณ์ล่าสุดของเศรษฐกิจโลก ณ ปัจจุบันได้ทั้งหมด

ท่านเริ่มจากคำเตือนของ นาง คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการ IMF ที่กล่าวเตือนไว้ก่อนการประชุมประจำปี IMF และธนาคารโลก ปีนี้ ที่กรุงวอชิงตัน…ในหลายๆ หัวข้อ

น่าห่วงใยมากใน 2 หัวข้อ…ข้อแรก ท่านเตือนว่า “โอกาสการถดถอยทางเศรษฐกิจของโลก” ดูเพิ่มขึ้นทุกขณะ ณ นาทีนี้

ข้อน่าห่วงใยข้อที่ 2 ท่านกรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟบอกว่า 1 ใน 4 ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เริ่มมีปัญหา และกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศที่มีรายได้ตํ่ากำลังอยู่ในระหว่างรอรับสัญญาณเตือนภัยก่อนเข้าสู่โซนอันตราย

ประเทศไหนจะล้มบ้าง? และใครจะล้มตามแบบโดมิโนบ้าง? จะเป็นสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดได้สูงมากในปีหน้า

“จะเห็นได้ว่าปีนี้ประเทศในตลาดเกิดใหม่ เช่น ศรีลังกา ปากีสถาน บังกลาเทศ อียิปต์ และอาร์เจนตินา ต่างทยอยเข้ารับการช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟเรียบร้อยแล้ว และเมื่อเศรษฐกิจโลกถดถอยเข้าจริงๆ ใครล่ะที่จะเป็นโดมิโนตัวต่อไป” กูรูกอบศักดิ์กล่าวเสริม

แม้จะมองว่าสถานการณ์ปีหน้าค่อนข้างวิกฤติ แต่ ดร.กอบศักดิ์ก็ยังเห็นว่าในวิกฤตินั้นมีโอกาสที่ประเทศไทยของเราจะฉกฉวยได้ หากเราเตรียมการให้ดีๆ

ท่านเสนอแนะว่าภาคท่องเที่ยวของเรากำลังฟื้นตัวและจะเป็นเสาหลักในการแก้วิกฤติ ท่านแนะให้รัฐบาลทุ่มเทเงินงบประมาณ ให้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปใช้จัดประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนมาเที่ยวประเทศไทยมากๆ…เพื่อดึงบางส่วนเข้ามาในช่วงนี้และให้เข้ามาเต็มที่ในช่วงฟื้นตัวปีหน้าปีโน้น

การลงทุนจากต่างประเทศก็สำคัญท่านเน้นว่าควรทุ่มไปที่ บีโอไอ จะมีอะไรลดแลกแจกแถมเพื่อดึงเงินลงทุนให้ได้มากๆ จะต้องคิดและเตรียมการขนานใหญ่

ผมชอบความคิดของ ดร.กอบ ตรงที่ท่านไม่ใช่คนสมอง “กระต่าย” ที่จะตื่นตูมและกลัวไปหมด…อีกทั้งไม่ใช่กุ้งที่อุจจาระมักขึ้นไปอยู่บนสมองเวลามีวิกฤติจนไม่กล้าทำโน่นทำนี่

ท่านยืนยันว่า “วิกฤติ” มีจริง แต่ถ้าเราเตรียมตัวดีก็จะเจอแค่หางวิกฤติ และขณะเดียวกันก็อาจจะใช้วิกฤติที่ว่านั้นเป็น “โอกาส” ได้

ก็คงต้องสรุปอีกทีว่าไปหาหน้า 8 ไทยรัฐ ฉบับเมื่อวานอ่านกันให้ดีนะครับ เพื่อความ “อยู่รอด” และ “รุ่งเรือง” ของประเทศไทยเรา และของตัวเราเอง.

“ซูม”