ย้อนตำนาน “ศูนย์ฯสิริกิติ์” จาก “อาภัสรา” ถึง“น้าชาติ”

เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงข่าวการเปิดตัว “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” โฉมใหม่ ที่ผู้สื่อข่าวซึ่งไปดูไปชมมาแล้วยกนิ้วให้ว่า “อลังการ” เหลือเกิน และพร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นสถานที่สำหรับจัดการประชุม “เอเปก” ระหว่าง 13-18 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

วันนี้ขออนุญาตเขียนต่อ เพราะย้อนหลังกลับไปสู่ “การเกิด” ครั้งแรกของศูนย์การประชุมแห่งนี้แล้ว ก็อยากจะขอบคุณรัฐบาลไทยและนายกรัฐมนตรีไทยสักท่านหนึ่ง เพื่อให้ผู้คนรุ่นหลังได้รับทราบไว้

พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ หรือ “น้าชาติ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของไทยแลนด์นั่นแหละครับ

เมื่อครั้งที่พลเอกชาติชายรับมติจากสภาผู้แทนราษฎร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก “ป๋าเปรม” เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2531 นั้น เศรษฐกิจของประเทศไทยถือว่าอยู่ในขั้น “โชติช่วงชัชวาล” เต็มที่ อันเป็นผลพวงที่ “ป๋าเปรม” สร้างรากฐานไว้

ประกอบกับประเทศไทย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ควบกับการประชุม ธนาคารโลก ครั้งที่ 45 ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2534 ด้วย ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยค่อนข้างจะเป็นที่กล่าวขวัญถึงในระดับอินเตอร์ในฉับพลัน

ผลงานการไป “ล็อบบี้” ขอเป็นเจ้าภาพการประชุมอันยิ่งใหญ่ที่ว่านี้น่าจะเริ่มตั้งแต่สมัยรัฐบาลป๋าเปรมแล้วละ โดยกระทรวงการคลังยุคดังกล่าวพร้อมด้วยภาคเอกชนไทย อันได้แก่ ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล ได้แท็กทีมกันไปขอคะแนนเสียงจากมวลสมาชิกถึงกรุงวอชิงตัน ในการประชุมประจำปี…ปีหนึ่ง…ของที่นั่น

เหตุที่เชิญเซ็นทรัลไปด้วย และเซ็นทรัลก็ส่งผู้แทนที่สวยที่สุดในจักรวาล คุณอาภัสรา หงสกุล ซึ่งใน พ.ศ.นั้นยังเป็นดองอยู่กับเซ็นทรัล และช่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ไปด้วยนั้นก็เพราะรัฐบาลไทย ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ห้องประชุม บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ที่อยู่ ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งเป็นห้องประชุมใหญ่ที่สุดในขณะนั้นจัดประชุม

แหล่งข่าวย้อนยุคเล่าว่า ในงานเลี้ยงสมาชิกไอเอ็มเอฟและกระทรวงการคลังทั่วโลก ในคํ่าคืนกาลาดินเนอร์ ณ กรุงวอชิงตันนั้น…ทีมจากประเทศไทยโดดเด่นอย่างยิ่ง จะเดินเหินไปทางไหนก็มีแต่คนหันมามองความสง่างามของอาภัสรา

ประกอบกับทีมงานกระทรวงการคลังของไทย ก็ทำงานอย่างเข้มแข็งมีการล็อบบี้ล่วงหน้าเอาไว้แล้ว จึงไม่แปลกอะไรที่ประเทศไทยของเราจะได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในท่ีสุด

แต่แล้วไม่นานนักก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า รัฐบาลกับเซ็นทรัล แตกคอกันเสียแล้ว เมื่อกระทรวงการคลัง ตัดสินใจที่จะไม่ใช้ห้องบางกอกคอนเวนชั่นของเซ็นทรัลลาดพร้าวเป็นที่ประชุม

เนื่องเพราะรัฐบาลรับไม่ได้กับเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เซ็นทรัลลาดพร้าวนำเสนอมาด้วยในภายหลัง ทำให้รัฐบาลตัดสินใจที่จะสร้างหอประชุมขึ้นเอง ที่บริเวณโรงงานยาสูบของกระทรวงการคลัง

ขณะนั้นเหลือเวลาประมาณ 2 ปี ยากที่จะก่อสร้างได้ทัน เพราะในการดำเนินการของทางราชการ จะต้องใช้ระเบียบที่เข้มงวด และจะต้องมีการประมูล มีการประกวดราคากันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

แต่กระทรวงการคลังก็ยืนยันว่า “ทัน” แน่นอนหาก ครม.อนุมัติให้ใช้วิธีพิเศษ ยกเว้นระเบียบต่างๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกครหานินทาว่าคอร์รัปชันอยู่บ้าง

น้าชาติจึงประกาศว่า ถ้างั้นผมเอาเกียรติผมเป็นประกัน อนุมัติให้ใช้วิธีพิเศษ และให้ท่านรัฐมนตรีคลัง ประมวล สภาวสุ เป็นผู้กำกับดูแลพร้อมผู้ทรงคุณวุฒิคณะหนึ่ง เพื่อป้องกันข้อกล่าวหาที่อาจมีขึ้น

ปรากฏว่าใช้เวลา 20 เดือนเท่านั้น เสร็จเรียบร้อย แถมยังประหยัดเงินจากงบประมาณที่ตั้งไว้ได้อีกก้อนใหญ่

พระเอกของตำนานนี้จึง ได้แก่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หรือ “น้าชาติ” นั่นเอง ที่ทุบโต๊ะตัดสินใจ

ผู้ช่วยพระเอกก็ “ลุงมวล” นั่นแหละครับ รัฐมนตรีคลัง ที่ไม่ได้จบวิชาเศรษฐศาสตร์ หรือการคลังเลย แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็น รมว.คลัง ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งของประเทศไทย

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือที่มาที่ไปของ “ศูนย์สิริกิติ์ 1” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ “ศูนย์สิริกิติ์ 2” ที่มีข่าวว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก และรอเป็นเจ้าภาพการประชุม “เอเปก” ในอีก 2 เดือนเศษๆ ที่จะถึงนี้

ขอให้ประสบความสำเร็จเหมือนตอนเป็นเจ้าภาพจัดประชุมธนาคารโลกเมื่อ 31 ปีที่แล้วนะครับ…ไม่ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ณ นาทีนั้นก็ตาม.

“ซูม”

ข่าว, ศูนย์สิริกิติ์, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, ประชุม, เอเปก, ซูมซอกแซก