เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา “นิด้าโพล” ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของนิด้า หรือสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ ได้เผยแพร่ผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาสครั้งที่ 2 ปี 2565 กลายเป็นข่าวใหญ่อยู่หลายวัน

เหตุเพราะผู้ที่ได้คะแนนนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 25.28 ก็คือ น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร ที่เพิ่งประกาศตัวลงสนามการเมืองเมื่อไม่นานมานี้เอง

ตามมาด้วยอันดับที่ 2 ได้คะแนนร้อยละ 18.68 ได้แก่ คำตอบที่ว่า “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้”

ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้คะแนนร้อยละ 13.24

สำหรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้อันดับที่ 4 ด้วยคะแนนร้อยละ 11.68

จากนั้นจึงเป็นอันดับ 5 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (ร้อยละ 6.80), อันดับ 6 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (ร้อยละ 6.60), อันดับ 7 ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ร้อยละ 4.20), อันดับ 8 นายกรณ์ จาติกวณิช (ร้อยละ 3.76) และ ฯลฯ

เหตุที่เป็นข่าวฮือฮาก็เพราะ “นิด้าโพล” ได้ชื่อว่าเป็น “โพล” ที่แม่นมากในการทำนายผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ล่าสุด

ฟันธงว่า ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะได้แชมป์ตั้งแต่การสำรวจครั้งแรกๆ ล่วงหน้านานพอสมควร ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น

ดังนั้น เมื่อแถลงผลออกมาว่า น.ส.แพทองธาร นักการเมืองรุ่นใหม่จากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนนิยมสูงสุดแซงหน้านักการเมืองเก่าๆ กระจุย กระจายเช่นนี้ จะไม่ให้ประชาชนที่เห็นผลสำรวจฮือฮาได้อย่างไรล่ะ

เพราะกลัวว่า “นิด้าโพล” จะแม่นอีกว่างั้นเถอะ

สำหรับผมเองเมื่อเห็นผลการสำรวจแล้วก็ยังรู้สึกดีใจอยู่บ้างที่คำตอบว่า “ยังหาคนเหมาะสมไม่ได้” มาเป็นอันดับ 2

เพราะถ้าผลการเลือกตั้งครั้งหน้าออกมาอย่างที่โพลฟันธงไว้ว่า

อันดับ 1 คุณแพทองธาร อันดับ 3 คุณพิธา และอันดับ 4 ลุงตู่ ได้เป็นนายกฯ ขึ้นมาจริงๆ…ผมก็ห่วงว่าประเทศไทยของเราจะเกิดปัญหาน่ะซีครับ

เนื่องจาก 3 ท่านล้วนมีคนที่ไม่ชอบ…ตั้งแต่ไม่ชอบอย่างเบาไปจนถึงไม่ชอบอย่างมากด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป

คุณแพทองธารนั้นเป็นทายาทสายตรงของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบทั่วประเทศ

ขึ้นมาเป็นนายกฯ เมื่อไร ผู้คนจำนวนมหาศาลจากทั้ง 2 ฝ่ายก็จะกลับมาปะทะกันในวิถีต่างๆ ตั้งแต่เบาไปถึงหนักเช่นในอดีตที่ผ่านมา

คุณพิธามาจากพรรคการเมืองที่ได้ชื่อว่าสนับสนุน “กลุ่ม 3 นิ้ว” หรือเยาวชนรุ่นใหม่ที่ก้าวร้าวจนเกินกว่าคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่ยังยึดมั่นในวัฒนธรรมประเพณี ตลอดจนความเชื่อถือศรัทธาในสถาบันที่คนไทยเคารพบูชา…จะยอมรับได้ขึ้นมาเป็นนายกฯ วันแรกก็ยุ่งแล้ว

ในส่วนของ “บิ๊กตู่” นั้น แม้ในความเห็นของบุคคลบางกลุ่ม รวมทั้งผมเองจะให้คะแนนท่านไปในทางที่ค่อนข้างดีพอใช้

มองว่า 8 ปีที่ท่านเข้ามานั่งเก้าอี้นี้ ท่านก็ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของชาติ และวางรากฐานไว้สำหรับอนาคต

แต่มาถึงวันนี้ ผมเห็นด้วยกับหลายๆ ฝ่ายว่า ถ้าท่านกลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีก…ประเทศไทยจะวุ่นวายทันที เพราะกระแสความเบื่อหน่ายที่มากขึ้นและแรงขึ้น อันเป็นไปตามค่าเฉลี่ยความนิยมนายกรัฐมนตรีของคนไทยที่สูงสุดแค่เพียง 8 ปีเท่านั้น

แล้วบุคคลอื่นๆ เช่น คุณหญิงสุดารัตน์, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์, ดร.ชัชชาติ, คุณกรณ์, ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไปจนถึงคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ฯลฯ ในชื่อที่การสำรวจเอ่ยถึงล่ะ?

ผมก็เห็นว่าหลายๆ ท่านมีความรู้ความสามารถ แต่ยังขาด “บารมี” ได้เป็นนายกฯ สักพักหนึ่งก็คงจะยุ่งอยู่ดี

ผมจึงรู้สึกดีใจที่ยังมีคำตอบ “ข้อ 2” คือ “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” ด้วยประการฉะนี้

ซื้อเวลาไปอีกระยะหนึ่งว่างั้นเถอะครับ เผื่อว่าจะมีบุคคล

ที่เหมาะสมกว่ารายชื่อที่อยู่ในการสำรวจครั้งนี้มาให้คนไทยเรามีทางเลือกมากขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือ…เฮ้อ!จะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้ซี?

“ซูม”