“รีเทิร์น” ทู “บ้านกรูด” “ฟีลกู๊ด” ทุกครั้ง “ที่ไป”

เมื่อวันหยุดก่อนเปิดเทอมใหญ่ 2565 ที่ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ หัวหน้าทีมซอกแซกตัดสินใจชวนสมาชิกครอบครัวขึ้นรถตู้ นั่งยาวกว่า 5 ชั่วโมงไปที่ชายหาดบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อีกครั้ง

ที่ต้องใช้คำว่า “อีกครั้ง” เพราะไปมาแล้ว 3 หรือ 4 ครั้ง ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนคอลัมน์ซอกแซกคงจะพอจำได้ เพราะไปทุกครั้งจะมีเรื่องประทับใจจากบ้านกรูดมาเขียนถึงอยู่เสมอๆ

ข่าว, ท่องเที่ยว, บ้านกรูด, บางสะพาน, ประจวบคีรีขันธ์, ทะเล, หาดทรายแก้วรีสอร์ต, โควิด 19, ซูมซอกแซก

รวมทั้งครั้งนี้ด้วยก็มีเรื่องประทับใจและสนุกสนาน (ระคนตื่นเต้นเล็กน้อย) มาฝากเช่นกันแต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น มาว่าถึงเหตุและผลที่ตัดสินใจไปบ้านกรูด “อีกครั้ง” กันซะก่อนดีกว่า

ข้อแรกเลยก็คือในฐานะครอบครัวซอกแซกพวกเราอึดอัดมากที่ต้องโดนขังอยู่ที่บ้านมานานเกือบจะ 2 ปีได้แล้วกระมัง

หัวหน้าทีมต้องทำงานที่บ้านลูกทีมบางคนที่มีธุรกิจส่วนตัวก็แวะไปดูกิจการบ้าง แต่ก็มักรีบไปรีบกลับบ้าน และไม่กล้าแวะที่ไหนเลย เพราะกลัวโควิดลนลานไปหมด

หลานๆ ที่ลี้ภัยมาอาศัยด้วยก็ไปไหนไม่ได้เช่นกัน แถมต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง นึกอยากเรียนก็เรียน เวลาไม่อยากเรียนก็วิ่งหนีครู จนความรู้น่าจะถดถอยไปพอสมควรอย่างที่กระทรวงศึกษาธิการท่านประเมินไว้

ด้วยความอึดอัดที่ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้านมายาวนานเช่นนี้–เมื่อโอกาสเปิดให้ รัฐบาลบอกว่าเชื้อโควิด-19 เบาแล้ว เราฉีดวัคซีนได้เยอะแล้ว มาเปิดประเทศกันเถอะ รวมทั้งมาเปิดโรงเรียน เรียนแบบ “ออนไซต์” กันเถอะ ฯลฯ

พวกเราก็ตัดสินใจกันว่า…ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะออกจากบ้านไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ฉลองนโยบายรัฐบาลซะก็แล้วกัน

เราฉีดวัคซีนกันตามเงื่อนไขแล้ว และระหว่างเที่ยวหากเราจะสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอด และพกขวดแอลกอฮอล์จิ๋ว หมั่นฉีดใส่มืออยู่ตลอดเวลา ความเสี่ยงในการท่องเที่ยวน่าจะน้อยลง

ไป “บ้านกรูด” กันดีกว่า ไปพักที่ “หาดทรายแก้วรีสอร์ต” ของคุณ ประกิต อภิสารธนรักษ์ ประธานบริษัทโฆษณาประกิต FCB และประธานเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่นหัวหน้าทีมนั่นแหละ นอกจากบริเวณบ้านพักจะวิวสวย หาดสวยแล้ว ออกไปบริเวณรอบๆในเขตบ้านกรูดก็ยังมีอะไรสวยๆ ให้ดูให้ชมอีกเยอะ

คุ้มค่ากับที่เราไม่ได้ออกไปไหนกันเสียนาน จะมุ่งหน้าไปนอนค้างและตระเวนเที่ยวโน่นเที่ยวนี่อย่างแน่นอน

เมื่อตกลงเป็น “ครอบครัวมติ” เช่นนี้แล้ว เราก็ออกเดินทางในช่วงเช้าตรู่วันเสาร์จากบ้านพักย่านตะวันออกของ กทม. ขึ้นทางด่วนข้ามเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปลงสู่ถนนพระราม 2 ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ชะอำ หัวหิน ประจวบฯ เข้าสู่บ้านกรูดไปถึงในช่วงเย็นๆวันเดียวกัน

ระหว่างทางก็แวะเข้าประจวบฯ เพื่อดูชมบริเวณ 3 อ่าวที่สวยงาม และเยี่ยมบรรดาลิงต่างๆ ที่เขาช่องกระจกด้วยความคิดถึง จากนั้นก็แวะหาของอร่อยรองท้องจนอิ่มหนำสำราญค่อยขับรถเข้ากองบิน 5 สู่อ่าวมะนาว วนระลึกความหลังเสียหนึ่งรอบก่อนไปโผล่ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ตำบลคลองวาฬ ซึ่งจะแวะทุกครั้งเพราะเด็กๆ ชอบมาก

สถานที่ที่จะต้องชวนเด็กๆ แวะเข้าไปเยี่ยมชมให้ได้ก็คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ ซึ่งจะมีตู้สัตว์น้ำประเภทปลาทะเล ปลาน้ำจืดต่างๆ ให้ดูชมมากมาย…สวยงามละลานตา ได้ทั้งความรู้ ความเพลิดเพลินควบคู่กันไป

ก็พอดีเขากลับมาเปิดใหม่อีกหนหลังโควิด พร้อมมีมาตรการป้องกันตามระเบียบของสาธารณสุข… คณะของเราจึงมีโอกาสได้เข้าไปดูชมอีกครั้ง

จากหว้ากออีกพักเดียวก็ไปถึงบ้านกรูด ซึ่งจะมีทางแยกจากถนนเพชรเกษมเข้าสู่ชายหาดในหลายๆจุด…ของทีมงานมุ่งหน้าไปสู่ หาดทรายแก้วรีสอร์ต ซึ่งอยู่ในส่วนที่เรียกว่า “หาดบ้านกรูดเหนือ” เปิดกูเกิลไปด้วย รับรองไม่มีหลง

ก็เป็นอันได้กลับมาเห็นชายหาดและทะเลบ้านกรูดอีกครั้ง หลังจากห่างเหินไปเสีย 3 ปีเต็มๆ สมาชิกของเราจึงแยกกันไปทั้งลงทะเลและลงสระน้ำตามอัธยาศัย ก่อนจะขึ้นมารับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารของรีสอร์ตนั่นเอง–โดยเฉพาะอาหารทะเลทั้งสดและอร่อยถูกปาก สามารถฝากท้องได้และที่สำคัญราคาไม่แพง

ในค่ำคืนนั้นเอง เราก็มีโอกาสพบและสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่อีกประสบการณ์หนึ่งคือ ฝนตกหนักและลมแรงมาก…ก่อนออกเดินทางเราอ่านพยากรณ์อากาศอยู่แล้วว่า ฝนจะตก 60-70 เปอร์เซ็นต์ และหนักในบางแห่ง แต่ไม่นึกว่าจะหนักอย่างที่เจอในคืนแรกที่นอนค้างบ้านกรูด

ทั้งเสียงฝน เสียงฟ้าร้อง และเสียงคลื่นทะเลดังอื้ออึงไปหมด…จนทำให้รู้สึกว่า นี่เราอยู่ริมทะเลยังขนาดนี้…มิน่าล่ะเวลาออกเรือไปเจอคลื่นเจอลมพายุกลางทะเล เขาจึงร่ำลือกันว่าน่ากลัวหนักหนา

แต่ของเราก็โชคดีไปอย่าง ฝนตกหนักเสียงคลื่นแรงเฉพาะกลางคืนและกลางดึกเท่านั้น พอตื่นเช้าขึ้นมาทุกอย่างก็เหมือนเดิม…พระอาทิตย์ขึ้นที่บ้านกรูดยังสวยเหมือนเดิม

พอสายๆ ต่อมา ออกไปเที่ยวหลายที่โดยเฉพาะขับรถลัดเลาะถนนริมหาดไปสู่ “บ้านกรูดใต้” ซึ่งมีโรงแรม รีสอร์ต และร้านอาหาร เกิดขึ้นมากกว่าด้านเหนือ และทุกแห่งเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวกันแล้ว รวมทั้งร้านอาหารที่มีข่าวว่าปิดมานาน ต่างก็เริ่มทยอยกันเปิดอย่างคึกคัก

เนื่องจากช่วงบ่ายฝนทำท่ากลับมาตกอีกเราจึงไม่กล้าไปไหนไกล แต่ก็ไม่ลืมที่จะแวะไปที่อำเภอบางสะพาน ไปทักทาย “โรงพยาบาล” ที่ “พี่ตูน” บอดี้สแลม เคยมาวิ่งเก็บเงินสร้างให้พร้อมกับแวะไปกินกาแฟที่ “หลิ่มโป๊ โกปิ๊” ร้านกาแฟโบราณหน้าโรงพยาบาลบางสะพานที่กำลังดังมาก…ใครมาบางสะพานแล้วไม่เช็กอิน ถือว่ายังมาไม่ถึง เป็นเหตุให้ทีมงานซอกแซกต้องรีบไปเช็กอินด้วยประการฉะนี้

ครับ! ก็เป็นสิ่งละอันพันละน้อยจากการกลับไป “บ้านกรูด” ซึ่งไปทีไรก็ “ฟีลกู๊ด” หรือรู้สึกดีๆ กลับมาทุกครั้งอย่างที่พาดหัวไว้…

กลับ กทม.มาได้สิบวันแล้วละ ตรวจ ATK หลายหน ไม่มีสมาชิกคนไหนเป็นอะไร… แปลว่าไปบ้านกรูดงวดนี้ นอกจาก “ฟีลกู๊ด” แล้วยัง “ฟีลเซฟ” คือ ปลอดภัยกลับมาด้วยจ้า.

“ซูม”