โอริส รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ทราบถึงประดิษฐกรรมนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัด ด้วยการสร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับ Shanghai Animation Film Studio Co.

ประดิษฐกรรมนาฬิกา Sun Wukong Artist Edition โดดเด่นด้วยหน้าปัดเคลือบสีลงยาและกั้นขอบเส้นเงินเป็นลวดลายด้วยเทคนิคคลัวซอนเน่ (Cloisonné) ที่เป็นงานหัตถศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแสดงให้เห็นถึงวังบาดาลของราชามังกร ที่ซึ่งซุนหงอคง (หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ราชาวานร) พบอาวุธวิเศษ ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องยาวของจีนเรื่อง The Monkey King: Uproar in Heaven เมื่อปี 1961

นาฬิกาสุดพิเศษรุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัด มีเพียง 72 จำนวนหมายเลขประจำเรือน ซึ่งสะท้อนถึงจำนวนร่างที่ซุนหงอคงสามารถแปลงกายได้ โดยแต่ละเรือนถือเป็นผลงานศิลป์บนข้อมือที่ผสานความหลงใหลในศิลปะและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคอันสมบูรณ์ไว้ในหนึ่งเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่โอริสได้นำเสนอนาฬิกาที่มีหน้าปัดอีนาเมลด้วยเทคนิคคลัวซอนเน่ เทคนิคนี้เป็นงานศิลป์ที่รังสรรค์โดยช่างฝีมือ หรืองานหัตถศิลป์หายาก และโดยทั่วไปแล้วในการผลิตนาฬิกามักเกี่ยวข้องกับบริษัทนาฬิกาคลาสสิกระดับไฮเอนด์ การตัดสินใจนำเทคนิคนี้มาใช้กับนาฬิกาไดฟ์เวอร์รุ่น Aquis ที่แข็งแรงทนทาน บ่งบอกถึงความปรารถนาอย่างต่อเนื่องของโอริส ในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีลูกเล่นและน่าจดจำซึ่งทำให้ผู้คนยิ้มได้

เปิดตัวต่อเนื่องจากนาฬิการุ่น Sun Wukong Limited Edition จำนวน 2,000 เรือนที่เปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา ประกอบขึ้นบนฐานตัวเรือนรุ่น Aquis ซึ่งมีเข็มวินาทีสีแดงปลายสีทองจากจุดศูนย์กลาง และหน้าปัดสีน้ำเงินที่มีลายเส้นซ้ำๆ ให้เหมือนกับการเคลื่อนไหวของกระบองที่หมุนอย่างรวดเร็ว ซึ่งราชาวานรใช้เพื่อเอาชนะศัตรูของเขา

เรื่องราวของซุนหงอคงฝังอยู่ในวัฒนธรรมจีนและนานาชาติ ตัวละครในตำนานซึ่งเกิดจากหินและมีพลังศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏตัวครั้งแรกในนวนิยายคลาสสิก Journey to the West เมื่อปลายศตวรรษที่ 16 ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นในช่วงยุคทองที่สองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน เผยแพร่เรื่องราวโดยบอกเล่าวิธีที่ซุนหงอคงใช้พลังเหนือธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งกระบองวิเศษสีแดงปลายสีทอง จากวังของราชามังกรก่อนที่จะกบฏต่อสวรรค์

หน้าปัดอีนาเมลด้วยเทคนิคคลัวซอนเน่ทั้งหมดผลิตโดยศิลปินชาวสวิสที่มีทักษะขั้นสูง หน้าปัดหนึ่งอันใช้เวลาถึงสามวันจึงจะเสร็จสมบูรณ์ และแต่ละอันก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กระบวนการเริ่มต้นขึ้นเมื่อเส้นลวดเงินถูกขึ้นรูปเป็นโครงร่างบนแผ่นทองคำขาว สิ่งนี้จะสร้างลวดลายด้วย ‘การกั้นขอบ’ หรือช่องต่างๆ ซึ่งจะถูกเติมด้วยผงแก้วสี และนำไปเผาในเตาด้วยความร้อนสูงที่อุณหภูมิประมาณ 800°C จากนั้นการลงยาที่ผลิตขึ้นนี้จะถูกนำไปขัดเพื่อให้ขึ้นเงาเกิดประกายแวววาวและมีมนต์ขลัง

ในการเลือกกลไกสำหรับนาฬิกา มีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น นั่นคือกลไก Caliber 400 ระบบออโตเมติก ที่มีพลังงานสำรองห้าวันและทนทานต่อสนามแม่เหล็กระดับสูงของโอริส ที่เป็นกลไกมหัศจรรย์สำหรับเรื่องราวมหัศจรรย์