ผ่าตัดใหญ่ “คลองแสนแสบ” 1 ใน “แผลเก่า” แห่งสยาม

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ “แผนพัฒนาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบระยะเวลา 11 ปี (พ.ศ.2564-2574)” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รวมโครงการย่อยในแผนงานใหญ่เพื่อคลองแสนแสบครั้งนี้ถึง 84 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 82,563 ล้านบาท…ตามข้อเสนอของ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

ทันทีที่ทีมงานโฆษกของรัฐบาลแถลงมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ดังขึ้นค่อนข้างกระหึ่มพอสมควร

ว่าเป็น “อภิโปรเจกต์” ใช้เงินสูงเกินไปบ้าง…จะตำน้ำพริกละลายคลองแสนแสบหรือไม่? บ้าง…จะกลายเป็นเหยื่อโอชะของนักการเมือง อีกโครงการหนึ่งหรือไม่หนอ? บ้าง

ซึ่งก็เป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ระคนความห่วงใยที่สมควรแก่การรับฟังและควรระมัดระวังมิให้เกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับผมเองในฐานะที่มีความรักความผูกพันอยู่กับคลองแสนแสบพอสมควร เพราะบ้านผมอยู่ห่างจากส่วนหนึ่งของคลองที่บางกะปิประมาณ 1 กิโลเมตรเศษๆ เท่านั้น

เมื่อปี 2554 ปีน้ำท่วมใหญ่…ผมเดินไปริมคลองแสนแสบทุกวัน เพื่อจะดูว่าระดับน้ำในคลองแสนแสบสูงมากน้อยแค่ไหน?

และจะอีกนานไหม? ที่มวลน้ำมหาศาลของปีดังกล่าวจะทะลักมาเข้าคลองแสนแสบและเอ่อท่วมคลองจั่นบ้านผม เหมือนที่ท่วมไปแล้วเกือบทั่วกรุงก่อนหน้านั้น

ปรากฏว่าโชคดีมวลน้ำมาไม่ถึงคลองแสนแสบทำให้แถวๆ บ้านผม รอดพ้นจากภาวะน้ำท่วมใหญ่ไปได้ อย่างหวุดหวิด

ด้วยความรักความผูกพันเช่นนี้ เมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลท่านจะมาช่วยพัฒนา ช่วยปรับปรุง และทำนุบำรุงคลองแสนแสบให้พ้นจากภาวะน้ำเน่า น้ำเสีย ที่เป็นปัญหาใหญ่ของคลองแสนแสบมากว่า 60 ปีแล้ว… ผมจึงมีใจโอนเอนไปในทางเห็นด้วย

ผมใช้คำว่าเป็นปัญหามากว่า 60 ปี ก็เพราะผมมีโอกาสไปนั่งเรือเลาะคลองแสนแสบครั้งแรกในชีวิตเมื่อ พ.ศ.2501 ปีแรกที่ผมเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา…พอสอบเสร็จระหว่างรอประกาศผลก็ถือโอกาสนั่งรถเมล์และนั่งเรือไปตามถนนหนทางและลำน้ำ ลำคลองต่างๆ เพื่อให้รู้จักและคุ้นเคยกับกรุงเทพฯ มากขึ้น

ผมได้ยินชื่อเสียงของคลองแสนแสบตั้งแต่เรียนหนังสือชั้นมัธยมที่นครสวรรค์ จากนวนิยายเรื่อง แผลเก่า ของ ไม้ เมืองเดิม ที่ผมอ่านทั้งหนังสือเล่มและดูจากภาพยนตร์ขาวดำ 16 มิลลิเมตร ยุคโน้น

นอกจากนั้นก็ยังไปอ่านเจอในหนังสือประวัติศาสตร์ที่ห้องสมุดประชาชนว่า ในหลวงรัชกาลที่ 3 ของเราเมื่อครั้งจะทำสงครามกับเวียดนาม ได้ทรงสั่งให้ขุดคลองแสนแสบเพื่อเป็นเส้นทางเดินทัพ

ทำให้ผมฝังใจและตัดสินใจแวะไปดูคลองแสนแสบทันทีที่มีเวลาว่าง หลังสอบเข้าเตรียมอุดมเสร็จดังกล่าว

ไปแล้วก็รู้สึกห่อเหี่ยวและสลดใจอย่างยิ่ง เพราะคลองแสนแสบที่ผมฝันถึงนั้นทั้งดำ ทั้งขุ่น และเต็มไปด้วยขยะที่ลอยเป็นฟ่อง

คลองแสนแสบนับเป็นอีกตัวอย่างของ “บาดแผล” แห่งการพัฒนา ที่ไม่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าตามหลักเศรษฐศาสตร์

เอาแต่ใช้อย่างสิ้นเปลืองอย่างไม่ปรานีปราศรัย จนลำคลองที่เคยสวยงามกลายเป็นลำคลองเน่าเหม็นและค่ามลพิษสูงในระดับเป็นอันตราย

ผมหวังว่าโครงการนี้จะเป็นเหมือนกับ “หมอเกาหลี” ที่จะมาช่วยผ่าตัดคลองแสนแสบที่เปรียบเสมือน “แผลเป็น” ทำให้ประเทศไทย หมองหมางมาเป็นเวลายาวนานกลับมาสวยงามอีกครั้งหนึ่ง

แต่ก็นั่นแหละตัวอย่างของการโกงกินในโครงการใหญ่ๆ ที่ผ่านมาทำไม่เสร็จบ้าง…ทำแล้วทิ้งบ้าง ส่งผลให้กลายเป็นโครงการร้างที่เกิดขึ้นบ่อยๆในอดีตก็ทำให้ผมอดห่วงใยมิได้เช่นกัน

ก็คงจะต้องฝาก “ศาลเพียงตา” ริมคลองแสนแสบที่ไอ้ขวัญ-อีเรียมไปไหว้ ในภาพยนตร์เรื่อง “แผลเก่า” ของ เชิด ทรงศรี ให้ช่วยดูแลด้วย ใครตั้งใจทำดีทำโครงการจนสำเร็จ ขอให้เจริญรุ่งเรืองไปตลอดชีวิต…ใครตั้งใจจะโกงทำให้โครงการเสียหายหรือไม่เสร็จกลายเป็นแผลใหญ่กว่าเก่าเสียอีก…ก็ขออย่าได้พบกับความเจริญใดๆ ทั้งสิ้น

ลูกช้างขอฝากโครงการนี้ไว้ด้วยนะครับ!

“ซูม”

ข่าว, คลองแสนแสบ, แผนพัฒนา, ฟื้นฟู, สภาพแวดล้อม, แผลเก่า, ซูมซอกแซก