เพิ่งจะเขียนถึงนักร้องระดับโลก 2 ราย อันเดรอา โบเชลลี กับ ลลิษา มโนบาล หรือน้องลิซ่า ที่มีข่าวว่ารัฐบาลไทยจะเชิญมาโปรโมตงาน “เคาต์ดาวน์” ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้…อย่างไม่ค่อย เห็นด้วยนัก (เพราะอาจต้องใช้เงินถึง 600 ล้านบาท) ไปเมื่อวานนี้
วันนี้คงต้องเขียนถึงนักร้องอีกรายละครับ เพราะเมื่อวันหยุดที่ผ่านมานี่เอง ข่าวการเสียชีวิตของ พรศักดิ์ ส่องแสง นักร้องระดับขุนพล “เพลงอีสาน” ได้ปรากฏขึ้นบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
พร้อมกับรายละเอียดว่านักร้องลูกทุ่งหมอลำเจ้าของเพลง “สาวจันทร์กั้งโกบ” วูบล้มลงหมดสติในห้องนํ้าด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
ผมเป็นแฟนเพลงและติดตามผลงานของ พรศักดิ์ ส่องแสง มากว่า 30 ปีแล้วครับ จากเพลง “สาวจันทร์กั้งโกบ” ที่ฮิตมากเมื่อปี 2529 ในยุคที่ผมเองต้องออกเดินสายไปตามหมู่บ้านชนบทแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์
ไปถึงจังหวัดไหน อำเภอไหน และตำบลหมู่บ้านไหน ในทุกๆ ภาคของประเทศไทยจะได้ยินแต่เสียงร้องของพรศักดิ์ ในท่อนที่ว่า “ไม่อยากจะคิดสงสาร…ไม่อยากจะคิดสงสาร เมื่อเห็นสาวจันทร์นั่งซึม มีแฟนแล้วเขาก็ลืม เขายืมร่างกายสาวจันทร์เชยชม…” ดังกระหึ่ม
ยุคนั้นยังพอมีตู้เพลงตั้งอยู่ตามร้านกาแฟอยู่บ้างแถวๆ ท่ารถต่างจังหวัด และทุกครั้งที่มีใครหยอดเหรียญเปิดเพลงนี้จะมีคนลุกไปยืนเต้นส่ายเอวตามจังหวะเพลง “เต้ย” อีสานจากเสียงร้องของพรศักดิ์อยู่เสมอๆ
ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “กั้งโกบ” แปลว่าอะไร? และเนื้อร้องในท่อนที่ 2 ซึ่งเป็นภาษาอีสานเกือบทั้งท่อนมีความหมายว่าอย่างไร?
แต่ผมก็ชอบเพลงนี้ครับ…จะร้องตามเฉพาะช่วงที่ร้องได้ และก็ขยับตัวไปมาตามจังหวะในท่อนที่เป็นภาษาอีสานสลับไปสลับมาอยู่อย่างนี้จนจบเพลง
ข่าวของ พรศักดิ์ ส่องแสง ที่โด่งดังที่สุด พาดหัวหน้าบันเทิงทุกฉบับ ได้แก่การขึ้นเวทีที่สนาม เวโลโดรม หัวหมาก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2530 ในคอนเสิร์ตที่ชื่อว่า “สองคนสองคม” ปะทะกับ “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ แบบตัวต่อตัว
ปี 2529 ก่อนหน้านี้ 1 ปี เป็นปีที่เพลง “สาวจันทร์กั้งโกบ” ดังสนั่นวงการ “ลูกทุ่ง” …ขณะเดียวกัน อัลบั้มแรกของเบิร์ด “หาดทราย สายลม สองเรา” ก็ออกมาครองใจแฟนเพลงลูกกรุงทั่วประเทศเช่นกัน
การประชันของ 2 นักร้องที่มีแฟนเพลงคนละกลุ่มคู่นี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของการหล่อหลอมเพลงลูกกรุงกับเพลงลูกทุ่งเข้าด้วยกันอย่าง งดงามที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย
จาก พ.ศ.2530 ถึง พ.ศ.นี้ 2564 เป็นเวลา 34 ปีเต็มๆ พรศักดิ์ ปล่อยเพลงทั้งที่เป็นเนื้ออีสานแท้ๆ และเพลงลูกทุ่งออกมาขับกล่อมแฟนเพลงอีกหลายสิบเพลง
เพลงแบบลูกทุ่งท่วงทำนองภาคกลางที่ฮิตมาก ได้แก่ “มีเมียเด็ก”, “ผู้แพ้รัก”, “รักป๋าพาไปยันฮี”, “รักแท้แพ้ทุนนิยม”, “ใบฟาง” ฯลฯ
ที่มีเนื้อร้องภาษาอีสานผสมผสานด้วย ได้แก่ “เต้ยมักสาวสํ่าน้อย” และ “ลำแพน ยายงก อกหัก” ฯลฯ เป็นต้น
กล่าวได้ว่า ณ นาทีนี้ เพลงลูกทุ่งอีสานทุกสไตล์ ทั้งเนื้อร้องที่คนภาคอื่นเข้าใจและอีสานแท้ๆ คนภาคอื่นฟังไม่เข้าใจแต่สนุก ได้เข้ามายึดวงการเพลงลูกทุ่งแล้วแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
เข้าไปดูอันดับเพลงยอดนิยมลูกทุ่งในยูทูบวันนี้เถอะ จะพบว่ามีแต่ “เพลงอีสาน” ทั้งธรรมดา และ “อินดี้” ทั้งสิ้น
กว่าจะมาถึงวันนี้นักร้องลูกทุ่งอีสานใช้เวลาไม่น้อยกว่ากึ่งศตวรรษ หรือ 50 ปี ในการเดินทาง และ 1 ในขุนพลเพลงอีสานที่นำทัพเข้ายึดครองวงการเพลงลูกทุ่งไทยไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ก็คือ พรศักดิ์ ส่องแสง นี่เอง
ต้องปรบมือและขอบคุณ พรศักดิ์ ส่องแสง อีกครั้งที่นำเพลงอีสานมาให้ความสุขแก่คนไทยทั่วประเทศได้อย่างประทับใจ
ป.ล. ก่อนส่งต้นฉบับไปขึ้นแท่น มีข่าวด่วนแจ้งว่านักร้องและศิลปินเพลงอีก 2 ท่านได้จากไปในเวลาใกล้เคียงกันด้วยโรคมะเร็ง ได้แก่ อ๊อด คีรีบูน และอาจารย์ บรูซ แกสตัน ฝรั่งหัวใจไทย ผู้ก่อตั้งวง “ฟองนํ้า” ที่เรารู้จักดี…ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไว้ ณ ที่นี้
ขอให้ดวงวิญญาณของ “พรศักดิ์ อ๊อด และอาจารย์บรูซ” จงไปสู่สรวงสวรรค์ทั้ง 3 ท่านนะครับ.
“ซูม”