อาราธนา “พระรัตนตรัย” บันดาล “ประเทศ” พ้นวิกฤติ

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2564 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 หลัง หรือเดือน 8 หนที่ 2 ของปีนี้ตามปฏิทินจันทรคติของไทย…ตรงกับวัน “อาสาฬหบูชา” วันพระใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งสำหรับพุทธศาสนิกชน

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า “วันอาสาฬหบูชา” นั้น ย่อมาจาก “อาสาฬหปูรณมีบูชา” แปลว่า “การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ” อันเป็นเดือนที่ 4 ตามปฏิทินของประเทศอินเดีย ตรงกับวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งหากปีใดมีเดือน 8 สองหน ก็ให้เลื่อนไปเป็นวันเพ็ญของเดือน 8 หนที่สอง หรือเดือน 8 หลัง…ดังเช่นปีนี้

ถามว่า “วันอาสาฬหบูชา” มีความสำคัญอย่างไร? คำตอบก็คือ… วันนี้เมื่อ 45 ปีก่อนพุทธศักราช…องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงบรรลุโพธิญาณตรัสรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ได้เสด็จไปทรงแสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” แก่ ปัญจวัคคีย์ หรือนักบวช ทั้ง 5 ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี

ถือเป็นวันประกาศ “หลักธรรม” แห่งพระพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกนั่นเอง

ปรากฏว่าเมื่อทรงเทศนาจบแล้ว พระ โกณฑัญญะ 1 ใน 5 ของปัญจวัคคีย์ เกิดความเลื่อมใสดวงตาเห็นธรรมบรรลุเป็นพระอริยบุคคลระดับโสดาบัน จึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุรูปแรกของโลก

ส่งผลให้พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบครบ 3 ประการ หรือ “แก้ว 3 ประการ” ที่เรียกว่า “พระรัตนตรัย” อันได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้เช่นเดียวกัน

หากเราย้อนกลับไปดู “เงื่อนเวลา” หรือที่สมัยนี้เรียกกันว่า “ไทม์ไลน์” ก็จะพบว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้เมื่อวันเพ็ญเดือน 6 และทรงใช้เวลาถึง 2 เดือนในการพิจารณาไตร่ตรองว่าจะเผยแผ่พระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้ได้นี้ด้วยวิธีใด จึงจะเหมาะสมที่สุด?

ในส่วนของตำนานหรือคำสอนพระพุทธประวัติในยุคก่อนๆ นั้นเล่าไว้ว่า พระองค์ทรงท้อถอยเกรงว่าผู้คนจะไม่เข้าใจหลักธรรมลึกซึ้งของพระองค์ท่านจนถึงขั้นจะเก็บไว้เอง ไม่เผยแผ่ต่ออาจจะดีกว่า

ทำให้ ท้าว สหัมบดีพรหม ซึ่งหวั่นเกรงว่าความชั่วกำลังจะครอบงำมนุษย์ในยุคโน้นอย่างมาก เสด็จจากพรหมโลกมาขอเฝ้าและอาราธนาให้พระองค์ท่านตัดสินพระทัยเผยแผ่ในสิ่งที่ทรงค้นพบต่อไป

พระองค์ท่านจึงทรงรับปากกับท้าวสหัมบดีพรหมและทรงหาวิธีเทศนาโดยจัดแบ่งกลุ่มมนุษย์ออกเป็น 3 กลุ่ม เหมือนดอกบัวในสระมีทั้งบัวพ้นน้ำ, บัวปริ่มน้ำ และบัวใต้น้ำ และทรงเลือกที่จะเทศนาแก่กลุ่มแรก ซึ่งก็คือกลุ่มของปัญจวัคคีย์ดังกล่าว

จากตำนานหรือคำบอกเล่าเหล่านี้ หากนำมาเทียบกับหลักวิชาการสมัยใหม่ก็คือ ทรงแบ่ง “กลุ่มเป้าหมาย” และทรงเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะเทศนาโปรดกลุ่มแรกนั่นเอง…ซึ่งได้ทรงใช้เวลาถึง 2 เดือนเต็มๆ ในการวิเคราะห์และหาแนวทางที่จะให้การเผยแผ่พระศาสนา โดยเฉพาะการเทศนาครั้งแรกนั้นประสบความสำเร็จสูงสุด

ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปดังที่พระองค์ทรงวินิจฉัยล่วงหน้าไว้ทุกประการ จาก 1 คือ พระ โกณฑัญญะ กลายเป็น 2-3-4-5 คือ ปัญจวัคคีย์ ทั้งหมด และจากนั้นก็แตกลูกโซ่ออกไปเป็นแสนเป็นล้าน หลายสิบล้านและกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกแล้วในปัจจุบัน

ครับ! ทั้งหมดนี้ก็คือความสำคัญของวันนี้ วันประกาศหลักธรรมวันแรก, วันที่มีพระรัตนตรัยครบถ้วนวันแรก ทำให้สามารถขับเคลื่อนกงล้อธรรมได้อย่างเป็นรูปธรรมเรื่อยมากว่า 2564 ปีนับถึงบัดนี้

ผมจึงขอเชิญชวนท่านผู้อ่านทำจิตใจให้สงบก้มลงกราบพระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ สวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาให้แก่สัตว์โลกทั้งหลายอันรวมถึงสัตว์อันประเสริฐคือ มนุษย์ร่วมโลกของเราด้วย

โดยเฉพาะมนุษย์ชาวไทยด้วยกัน ที่ทุกวันนี้แตกแยกความคิดความเห็นออกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งทะเลาะเบาะแว้ง ทั้งต่อสู้ ทั้งด่าทอสบถและใช้ผรุสวาจา วันละหลายๆ ครั้งหลายเวลา ทั้งก่อนหลังอาหาร 3 มื้อ และก่อนนอนเสียด้วยซ้ำ

ทุกข์ภัยจากโรคระบาดก็รุนแรงหนักหนาอยู่แล้ว อย่ามาก่อทุกข์ก่อเวรก่อความอาฆาตมาดร้ายกันอีกเลยครับ…คนไทยด้วยกันแท้ๆ

ขอพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ได้โปรดคุ้มครองประเทศไทย และประชาชนไทย จงประสบโชคประสบชัยผ่านวิกฤติอันใหญ่หลวงทั้ง “วิกฤติโควิด–19” และ “วิกฤติทางความคิด” ในครั้งนี้ไปได้ด้วยดีด้วยเทอญ.

“ซูม”

ข่าว, วันอาสาฬหบูชา, พระรัตนตรัย, พระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์, ซูมซอกแซก