ในที่สุด “บิ๊กตู่” ก็ตัดสินใจไม่ล็อกดาวน์ กทม. และจังหวัดเสี่ยงต่างๆที่กำลังเจอปัญหาโควิด-19 ระบาดหนัก…แต่หันมาใช้วิธีควบคุมพื้นที่ระบาดเป็นจุดๆ แทน เช่น ปิดแคมป์คนงาน ปิดกิจการเสี่ยงบางกิจการและบางส่วนใน กทม. และปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้
รายละเอียดต่างๆ ว่าจะปิดจะคุยอะไรอีกบ้างนอกจากยุติการก่อสร้างและปิดแคมป์คนงาน…โปรดติดตามอ่านจากข่าวหน้า 1 นะครับ …ป่านฉะนี้คงออกมาครบถ้วนแล้วละ
ส่วนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่? คงต้องลุ้นกันต่อไป เพราะถ้าเราประมวลความเห็นของผู้ที่อยู่ใน “สมรภูมิ” จะเห็นว่าแบ่งออกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่ายอย่างแจ้งชัด
ฝ่ายบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งมีหน้าที่หลักในการช่วยชีวิตประชาชนที่โชคร้ายเจอโรคระบาดกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่ากำลังจะเอาไม่อยู่แล้ว ตึงมือสุดๆ แล้ว
ห้องผู้ป่วยอาการหนักสีแดงสีเหลืองใกล้เต็มเต็มที (ป่านนี้อาจเต็มแล้วด้วยซํ้า) บางโรงพยาบาลถึงขั้นคุณหมอต้องตัดสินใจกันแล้วว่าจะให้ใครอยู่? ใครไป?
ถ้าไม่ “ล็อกดาวน์” ปิดเมืองกันอย่างจริงๆ จังๆ ยอดผู้ป่วยใหม่จะไม่มีวันลด…ระบบสาธารณสุขทั้งระบบล้มครืนแน่นอน
ในขณะที่ฝ่ายเศรษฐกิจซึ่งติดตามตัวเลขต่างๆ อยู่ทุกวันก็คงจะตระหนักดีว่าเศรษฐกิจทรุดลงไปแค่ไหน? และเราเหลือเค้าที่จะรับภาระความเสี่ยงในการ “ล็อกดาวน์” ได้มากน้อยเพียงใด?
จากข้อมูลที่คำนวณออกมาของสถาบันต่างๆ บวกด้วยข้อเท็จจริงที่หลายๆ คนประสบ…น่าจะสรุปได้เป็นเอกฉันท์เช่นกันว่า “หนักมาก” และอาจจะหนักถึงขั้นว่าระบบเศรษฐกิจของเราก็จะรับมือการ “ล็อกดาวน์” (โดยเฉพาะเมืองหลวงหรือ กทม.+ปริมณฑล) ไม่ได้แล้วด้วยซํ้า
“บิ๊กตู่” ซึ่งยืนอยู่ตรงกลางท่านคงชั่งนํ้าหนักแล้วว่าเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งคงไม่ได้แน่ๆ…ในที่สุดท่านจึง “ออกกลาง” ไม่หัวไม่ก้อยด้วยประการฉะนี้
โดย ทฤษฎี และข้อเท็จจริงจากทั่วโลกการ “ล็อกดาวน์” ได้ผลในการหยุดการระบาดได้ชัดเจนที่สุด…แต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจก็หนักสุดเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อบิ๊กตู่ “ออกกลาง” จึงแปลว่าการแก้ปัญหาโรคระบาดจะไม่ชะงัดร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน โดยเฉพาะอัตราป่วยอัตราตายน่าจะยังเพิ่มอยู่ในระยะแรกๆ
ซึ่งคงเป็นทางเลือกที่บิ๊กตู่เลือกแล้ว เพื่อแลกกับการต่อลมหายใจให้แก่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งก็ล้มป่วยและก็อาจต้องการ “เครื่องช่วยหายใจ” เช่นเดียวกับคนไข้หนักในห้องไอซียูขณะนี้
จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร? อีก 1 เดือนมาดูผลอีกทีอย่างที่ท่านว่า…แต่ระหว่างนี้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายคงต้องทำงานหนักและเครียดกันต่อไป
ผมขอส่งกำลังใจและความขอบคุณอย่างยิ่งมาถึงบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งนะครับ
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องกำกับควบคุมพื้นที่ระบาดตลอดจนการปิดแคมป์คนงานห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ด้วยความเข้มข้นและเอาจริงเอาจังอย่าให้เป็นการ “หยุดงาน” ที่เปล่าประโยชน์โดยเด็ดขาด
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนต่อไปอย่างทั่วถึงและอย่าขาดช่วงขาดตอนแม้แต่วันเดียวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็วที่สุด
ส่วนประชาชนอย่างเราๆ ก็ขอให้ร่วมมือกับ “คุณหมอ” ทั้งหลายอย่างเต็มที่ แม้ “บิ๊กตู่” จะไม่ประกาศล็อกดาวน์ แต่เราก็ควรจะล็อกดาวน์ตัวเองให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้
“อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ” ยังเป็นคาถาที่ควรท่องและควรปฏิบัติตามอยู่เหมือนเดิมครับ สำหรับสถานการณ์ที่ยังหนักหนาสาหัสเช่นทุกวันนี้.
“ซูม”