“เที่ยวทิพย์” ย้อนอดีตสถานที่ท่องเที่ยวในความทรงจำที่ประทับใจหัวหน้าทีมซอกแซกสูงสุด เรียงตามลำดับมาเรื่อยๆ รวม 7 อันดับแล้วนะครับ…สัปดาห์นี้จะเป็นอันดับที่ 8 เหลือแค่อีก 2 อันดับเท่านั้นจะครบ “ท็อปสิบ” หรือ “ท็อปเทน” ตามที่ตั้งใจไว้

สำหรับอันดับที่ 8 นั้น เป็นความทรงจำที่ประทับใจร่วมกันทั้งในตัวจังหวัดนั้นเอง และกิจกรรมที่จังหวัดจัดขึ้นจนเป็นผลให้มีผู้คนไปร่วมกิจกรรมกับจังหวัดนี้ปีละหลายแสนคน นับตั้งแต่มีการริเริ่มจัดกิจกรรมขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2520 หรือ 44 ปีที่แล้ว

จังหวัด “สุโขทัย” กับประเพณี “เผาเทียนเล่นไฟ” ในเทศกาล “ลอยกระทง” นั่นแหละครับ…ซึ่งเมื่อเอ่ยขึ้นมาแล้วท่านผู้อ่านคงจะนึกภาพออกว่างานวันเพ็ญเดือนสิบสองของจังหวัดสุโขทัยนั้นยิ่งใหญ่อลังการเหนือคำบรรยายจริงๆ

จังหวัดสุโขทัยเป็นจังหวัดขนาดกลางๆ ค่อนข้างไปทางเล็ก มีพื้นที่ประมาณ 6,600 ตารางกิโลเมตร (อันดับ 30 ของประเทศ) และมีประชากรเฉียดๆ 600,000 คน (อันดับที่ 42 ของประเทศ) แต่ก็เป็นจังหวัดที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียง ระดับโลก เพราะได้รับเกียรติจากองค์การยูเนสโก ให้ลงทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายใต้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” มาตั้งแต่ พ.ศ.2534

นำความภาคภูมิใจมาสู่พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศและทำให้จังหวัดสุโขทัยกลายเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวโลกตั้งเป็นหมุดหมายที่จะมาเยือนนับตั้งแต่นั้น

หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสเดินทางไปสุโขทัยหลายครั้งหลายหน…และจะแวะอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเพื่อกราบพระพุทธรูปสำคัญๆ เช่น พระประธานองค์ใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางพระอุโบสถที่เหลือแต่เสาของวัดพระศรีมหาธาตุ จากนั้นก็จะแวะวัดศรีชุมเพื่อกราบ พระอจนะ พระพุทธรูปปางมารวิชัยอันยิ่งใหญ่และงดงามมากแทบทุกครั้งที่เดินทางขึ้นสำรวจภาคเหนือ

สำหรับงานประเพณีลอยกระทงของจังหวัดสุโขทัยนั้น หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสแวะไปเที่ยวชมงานเมื่อ พ.ศ.2525 หรือ 5 ปี หลังจากการจัดครั้งแรก ยังจำได้ดีถึงความยิ่งใหญ่อลังการ ตลอดจนความงดงามของการจุดพลุและการเผาเทียนเล่นไฟต่างๆ

แม้หัวหน้าทีมจะยืนดูยืนชมอยู่ในระยะไกลเพราะไม่สามารถจะฝ่าฝูงชนนับหมื่นเข้าไปใกล้ๆ ได้ แต่ก็ยังมองเห็นและสัมผัสถึงความอลังการที่เกิดขึ้นรอบๆ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จนสามารถจดจำได้ติดต่อกันอีกหลายปีและแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่หัวหน้าทีมซอกแซกประทับใจที่สุด พร้อมกับยกให้มหกรรม “เผาเทียนเล่นไฟ” ของจังหวัดสุโขทัยเป็นการแสดงหรือกิจกรรมทาง วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ

สืบเนื่องมาจากหัวหน้าทีมได้มีโอกาสร่วมไปกับคณะพนักงานอาวุโสของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐกลุ่มใหญ่ ภายใต้การนำของคุณหญิง ประณีตศิลป์ วัชรพล ในการเดินทางไปทัศนศึกษาจังหวัดสุโขทัยเมื่อปี 2555

คุณหญิงประณีตศิลป์มอบหมายให้อาจารย์ เผ่าทอง ทองเจือ เป็นผู้จัดรายการทัวร์พิเศษในครั้งนั้น ซึ่งนอกจากท่านอาจารย์จะเป็นมัคคุเทศก์ นำเที่ยวและบรรยายด้วยตนเองแล้ว…ในภาคคํ่าคืนท่านอาจารย์ยังติดต่อกับทางจังหวัดให้จัดงาน “ลอยกระทง” และ “เผาเทียนเล่นไฟ” ขนาดย่อส่วนที่จำลองแบบมาจากงานใหญ่ของจังหวัดให้คณะของเราได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศอีกด้วย

อาจารย์เผ่าทองเล่าว่าปกติจะมีการจัดในลักษณะนี้ปีละหลายครั้ง นอกเทศกาลลอยกระทงเพื่อต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวต่างประเทศคณะใหญ่ๆ ที่มีความประสงค์จะชมการแสดงและได้ติดต่อมาเป็นการล่วงหน้าพร้อมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จำนวนหนึ่ง

ยังจำได้ถึงความสวยสดงดงาม ความยิ่งใหญ่อลังการของการเผาเทียนเล่นไฟจำลองรอบๆ บริเวณสระน้ำใหญ่สุโขทัย ตลอดจนขบวนแห่แหนอันอลังการได้จนถึงบัดนี้

ที่จำได้มากที่สุดก็คืออากาศที่หนาวเย็นของเดือนธันวาคมในปีดังกล่าว ทำให้ระหว่างที่นั่งดูชม ทางจังหวัดต้องจัด “ฮีตเตอร์” พิเศษมาตั้งไว้ข้างๆ ที่นั่งของพวกเราด้วย…นั่นก็คือ “เตาอั้งโล่” ถ่านคุโชนแบบไทยๆ มาช่วยทำให้อุณหภูมิอบอุ่นขึ้นจนสามารถติดตามการแสดงได้อย่างมีความสุขจนจบรายการ

ขนาดการแสดง “จำลอง” ยังยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า บรรยากาศในวันจริงๆ จะต้องยิ่งใหญ่และประทับใจขึ้นอีกหลายเท่า และจากรายงานของหอการค้าจังหวัดสุโขทัยพบว่าในการจัดงาน 10 วัน 10 คืน เมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 จะมาเยือน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนงานลอยกระทงสุโขทัยถึง 300,000 กว่าคน และในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศถึง 200,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในจังหวัดสุโขทัย และใกล้เคียงไม่ตํ่ากว่า 400 ล้านบาท

เมื่อปีที่แล้ว พ.ศ.2563 แม้ประเทศไทยของเราจะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิดมาตั้งแต่ต้นปี แต่สถานการณ์ก็ดีขึ้น เพราะเราควบคุมได้ดีมาก จนสามารถจัดงานลอยกระทงได้ทั่วประเทศในช่วงปลายเดือนตุลาคม จนถึงต้นพฤศจิกายน รวมทั้งลอยกระทงสุโขทัย ก็ยังมีตามปกติและมีผู้คนไปร่วมในจำนวนพอสมควร แม้จะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาก็ตาม

สำหรับปีนี้ 2564 ดูจากสถานการณ์โควิด-19 ณ ช่วงนี้โอกาสจัดงานอะไรก็ตามคงยาก แต่ก็คงต้องลุ้นดูก่อน เพราะวันลอยกระทงปีนี้ คือ 19 พฤศจิกายน ยังมีเวลาอีก 5 เดือนเศษ

เอาเถอะ สมมติว่าปีนี้จัดไม่ได้ แต่ปีหน้าปีโน้น โลกคงเอาชนะโควิด-19 ได้ละน่า โอกาสที่งานลอยกระทงทั้งหลายจะกลับมาย่อมมีแน่นอน เพียงแต่เมื่อไรเท่านั้นเอง

และหากมีการจัดขึ้นต้องหาโอกาสไปร่วมงานลอยกระทงสุโขทัยให้ได้นะครับ.

“ซูม”