ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับ วันนี้ช่วงเวลาประมาณบ่าย 4 โมงเศษๆ ของวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายนนั้น ตรงกับเวลาตี 4 เศษๆ ของช่วงเช้าตรู่ วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ พอดิบพอดี…ยังไม่สามารถสรุปได้เลยครับว่าผลการชกมวยคู่หยุดโลกระหว่างแชมป์เก่า โดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้ท้าชิง โจ ไบเดน…ใครเป็นผู้ชนะ? ไม่มีสำนักข่าวดังยี่ห้อไหนสรุปฟันธงแม้จะไม่เป็นทางการก็เถอะ ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งผ่านกว่า 3 วันแล้ว

ได้แต่ใช้คำว่าคุณ โจ ไบเดน มีโอกาสสูงมาก…หรือไม่ ก็ตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ใกล้มือ โจ ไบเดน แล้วเป็นส่วนใหญ่

แม้แต่ถ้อยแถลงล่าสุดของผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตกับประชาชนชาวสหรัฐฯ และผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังใช้คำว่า “ชัยชนะกำลังจะเป็นของเรา” ณ นาทีที่ผมเขียน สำนักข่าวเอพียกคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งให้ คุณโจ ไบเดน ไปแล้ว 264 เสียง และ คุณ ทรัมป์ 214 เสียง มากกว่า ซีเอ็นเอ็น ที่ยังให้ โจ ไบเดน 253 เสียง และ คุณ ทรัมป์ 214 เสียง รวมทั้ง บีบีซี ก็ยังอยู่ที่ โจ ไบเดน 253 และคุณ ทรัมป์ 214 เสียงเช่นกัน

ทุกสำนักรายงานตรงกันว่า โจ ไบเดน คะแนนนำอยู่ถึง 3 รัฐ ใน 4 รัฐ “สมรภูมิ” ที่ยังนับไม่เสร็จ แต่เนื่องจากเป็นการนำที่สูสีมาก จึงไม่มีใครกล้าฟันธงยกให้คุณโจเป็นผู้ชนะ

อย่างรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 22 เสียง ก็เป็น 1 ในรัฐที่ โจ ไบเดน นำอยู่และนับมาแล้วถึง 99 เปอร์เซ็นต์
แต่เป็นการนำที่สูสีมาก เนื่องจากนับคะแนนไปแล้วกว่า 6 ล้าน 6 แสนคะแนน คุณโจ นำอยู่เพียง 28,877 คะแนน
ทุกสำนักข่าว จึงมีความเห็นตรงกันว่ารอให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือให้แน่ใจว่าคะแนนของคุณโจ นำคุณทรัมป์ชนิดขาดลอยจริงๆ ต่อให้ยกคะแนนที่เหลือทั้งหมดเป็นของทรัมป์ก็ยังแซงไม่ได้ค่อยสรุปดีกว่า

รวมทั้งอีก 2 รัฐ คือจอร์เจีย กับเนวาดา ที่คุณโจ นำอยู่ด้วยเช่นกัน

โดยเฉพาะที่จอร์เจียนับไป 99 เปอร์เซ็นต์ คุณ ไบเดน นำที่ 4,395 คะแนน ทำให้ทางรัฐออกมาประกาศแล้วว่าจะนับคะแนนใหม่

ที่สำคัญแชมป์เก่า คุณทรัมป์ ยังไม่ยอมแพ้ครับ ประกาศว่าการดำเนินการทางกฎหมายกำลังจะเริ่มต้น ขอให้อีกฝ่ายอย่าชะล่าใจถึงขั้นประกาศชัยชนะเด็ดขาด

ทางด้านกองเชียร์ของคุณทรัมป์ก็ออกมากล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้งในบางรัฐ จึงประท้วงด้วยการออกมาเดินขบวนและเตรียมการยื่นเรื่องต่อศาล ซึ่งอาจจะทำให้ผลอย่างเป็นทางการยึดเยื้อต่อไปอีก

แต่ถ้าเราดูเงื่อนเวลาที่รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กำหนดไว้และถือเป็นกรอบเวลาที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก็คือต้องนับคะแนนให้เสร็จสิ้นครบถ้วนในวันที่ 17 พฤศจิกายน

พร้อมกับต้องประกาศว่าใครคือผู้ที่จะได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งของแต่ละรัฐในเวลาไม่เกิน 5 สัปดาห์ นับจากวันเลือกตั้งซึ่งก็คือวันที่ 8 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

หลังจากนั้น วันที่ 14 ธันวาคม คณะผู้เลือกตั้งของแต่ละรัฐต้องมาลงมติรับรองคะแนนให้แก่ผู้ชนะเลือกตั้งในรัฐของตนให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการ

เพื่อเตรียมเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ศกหน้า

ก็ได้แต่หวังว่าเรื่องราวต่างๆ น่าจะจบได้ก่อนวันสำคัญๆ เหล่านี้โดยเฉพาะก่อนวันที่ 14 ธันวาคม ที่แต่ละรัฐจะต้องประกาศชัยชนะที่แน่นอน

แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะเกิดเรื่องยุ่งๆ หลายเรื่องที่ผมไม่สามารถสรุปได้หมดในคอลัมน์วันนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านกลับไปอ่าน “คอลัมน์ 7 วันรอบโลก” ใน ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. นะครับ

คุณวีรพจน์ อินทรพันธ์ สรุปถึงเหตุยุ่งๆ ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เอาไว้อย่างชัดเจน อ่านแล้วก็ปวดหัวชะมัด

ผมก็ได้แค่ภาวนาขอให้ทุกอย่างจบด้วยดี เมื่อมีการประกาศผลหลังนับคะแนนจบแล้ว และคุณทรัมป์แพ้อย่างแน่นอนแล้ว อย่าให้มีเรื่องวุ่นวายจนถึงขนาดวันที่ 20 มกราคม 2021…สหรัฐฯ ยังไม่มีประธานาธิบดีคนใหม่จากการเลือกตั้งมาสาบานตนก็แล้วกันครับ.

“ซูม”