ข่าวการแต่งตั้งคุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ แทนคุณปรีดี ดาวฉาย ที่ลาออกเมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้กระทรวงการคลังเป็นข่าวหน้า 1 อยู่หลายวัน

ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า กระทรวงการคลังในขณะนี้ นอกจากจะมีรัฐมนตรีว่าการที่เพิ่งมีการประกาศชื่อสดๆ ร้อนๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีรัฐมนตรีช่วยว่าการอยู่อีกท่านหนึ่ง

ได้แก่ คุณ สันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีรัฐมนตรีตัวจริง ท่านในฐานะรัฐมนตรีช่วยฯ ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่แทนมาโดยตลอด

อีกทั้งยังเคยกล่าวเป็นนัยๆ ไว้ด้วยว่า ท่านพร้อมเหมือนนามสกุลของท่านนี่แหละที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง…ถ้านายกรัฐมนตรีเลือกท่าน

เหตุผลที่คุณสันติมีความเชื่อมั่นว่าท่านสามารถจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้นั้น อาจเป็นเพราะท่านเป็นนักการเมืองเก่าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอื่นๆ มาแล้วหลายกระทรวง

เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาแล้วเหมือนกัน นอกจากนี้ยังเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาแล้วด้วย ประกอบกับมานั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังอยู่ระยะหนึ่งและยังรักษาการอยู่อีกระยะหนึ่ง คงจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ท่านเชื่อมั่นว่า ท่านพร้อมจะเป็นรัฐมนตรีคลังตัวจริง

ซึ่งก็ต้องขอบคุณบิ๊กตู่ที่มองว่ากระทรวงการคลังเป็นกระทรวงที่จำเป็นจะต้องมีรัฐมนตรีที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการคลังหรือการเงินอย่างดียิ่ง จึงได้ตัดสินใจเลือก คุณ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ครบถ้วน

และก็อย่างที่เราทราบทันทีที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แก่ คุณอาคม ก็มีเสียงตอบรับที่ดีมาก ทั้งจากสื่อมวลชนและนักธุรกิจภาคเอกชนต่างๆ อย่างกว้างขวาง

ผมก็หวังว่า คุณ สันติ พร้อมพัฒน์ ที่มิได้รับการเลือกในครั้งนี้ จะไม่รู้สึกเสียอกเสียใจหรือเสียดายแต่อย่างใดนะครับ

เพราะยังมีงานสำคัญอีกมากมายหลายกรมในกระทรวงการคลังที่ท่านรัฐมนตรีจะสามารถแบ่งมาให้คุณสันติควบคุมดูแลได้

ซึ่งผมก็เชื่อว่า ท่านรัฐมนตรีใหม่ก็คงจะเลือกแบ่งให้ตามความเหมาะสมต่อไป

ขณะเดียวกัน ผมก็คาดหวังว่า การทำงานของทั้ง 2 ท่าน จะเข้าขาเข้าแขนกันอย่างดียิ่ง เป็นผลให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นกระทรวงหลักในการกอบกู้เศรษฐกิจ หลังโควิด-19 สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมศักดิ์ศรีแห่งความเป็นกระทรวงการคลัง

ภาคเอกชนและนักลงทุนต่างๆ เขาจับตาที่กระทรวงนี้เป็นพิเศษและฝากความหวังไว้กับกระทรวงนี้มากกว่ากระทรวงอื่นๆ…ถ้าเกิดอะไรไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะการทำงานที่ไม่เข้าขาเข้าแขนกันของรัฐมนตรี ทั้ง 2 ท่านละก็…ความไว้เนื้อเชื่อใจจะหมดไปทันที และการลงทุนต่างๆ จากภาคเอกชนก็จะสะดุดในทันที

ขอฝากทั้ง 2 ท่านไว้ด้วยครับ และต้องขออนุญาตฝากท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการไว้มากหน่อย เนื่องจากผมไม่รู้จักท่านมาก่อนเลย จึงไม่แน่ใจว่าอุปนิสัยใจคอของท่านจะเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับคุณอาคมนั้น ผมเรียนแล้วว่า แม้จะไม่รู้จักถึงขั้นสนิทสนม แต่ก็ติดตามผลงานและอุปนิสัยของท่านมาตลอด สมัยที่ผมอยู่สภาพัฒน์ ทราบว่าท่านเป็นคนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดียิ่ง พร้อมจะร่วมทำงานกับคนอื่นๆ และประสานงานกับหน่วยงานอื่นได้อย่างดีมาตลอด

นะครับ ขอฝากทั้ง 2 ท่านไว้ ขอให้ทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยแก้ปัญหาของชาติครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปให้จงได้

เขียนมาถึงบรรทัดนี้ ผมก็นึกถึง “คู่หู ดูโอ้” ท่านรองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล กับ ท่านรัฐมนตรีช่วย สาธิต ปิตุเตชะ น่ะครับ ท่านมาจากคนละพรรค แต่สามารถทำงานร่วมกันได้ราวปี่กับขลุ่ย ดังที่คนโบราณเขากล่าวไว้

ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุข เป็นกระทรวงที่มีผลงานโดดเด่น เป็นทัพหน้าในการทำสงครามกับโควิด-19 จนได้ชัยชนะอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้

อย่าให้แพ้กระทรวงสาธารณสุขนะครับ “ดูโอ้” คู่ใหม่… ท่านรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง!

“ซูม”