บทเรียนอันมีค่าของชาติบันทึกเพิ่มเติมจากระยอง

ผมขออนุญาตท่านผู้อ่านเขียนถึงเรื่อง “ทหารอียิปต์” ที่ติดเชื้อโควิด-19 แตกแถวหนีเที่ยวที่จังหวัดระยอง จนเป็นเหตุให้ชาวระยองอกสั่นขวัญแขวนไปทั้งเมือง และแสดงความไม่พอใจต่อการให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลบางกลุ่ม โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน จนเป็นสาเหตุของความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น

ที่ต้องเขียนซ้ำก็เพราะนายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกของ ศบค. ท่านออกมาแถลงเพิ่มเติมในวันรุ่งขึ้น ทำให้ทราบถึงการปฏิบัติงานอย่างถึงลูกถึงคนของทีมสอบสวนโรค กระทรวงสาธารณสุข

มีการเช็กข้อมูลอย่างละเอียดยิบตั้งแต่โรงแรมที่พักไปจนถึงห้าง 2 แห่งที่ไปเที่ยว จนสามารถจำแนกได้ว่ามีผู้เสี่ยงสูงกี่คนและต่ำกี่คน

ที่ตามตัวเจอแล้วก็ให้มีการตรวจเชื้อและขอให้กักตัว 14 วันเอาไว้ก่อน ที่ยังตามตัวไม่เจอโดยเฉพาะที่ไปเดินในห้างเวลาเดียวกันเป็นพันคน ท่านก็แจ้งให้ทราบและให้มาตรวจเชื้อได้ หรือกักตัวเองได้

นี่คือเหตุการณ์ที่ระยอง ซึ่งท่านแถลงยาวเหยียดมาก ฟังแล้วก็เห็นภาพความโกลาหลอลหม่านต่างๆ ขณะเดียวกันก็เห็นความสามารถของทีมสอบสวนโรคของฝ่ายไทยเรา

สำหรับเหตุการณ์ของเด็กหญิงลูกสาวอุปทูตซูดานที่ไม่กักตัว 14 วัน ในสถานกักตัวของรัฐ เพราะได้รับยกเว้นในฐานะบุคคลในคณะทูต แต่ก็ต้องไปกักตัวในสถานที่อันควรนั้น ปรากฏว่าแม่หนูไปอยู่คอนโดกับพ่อแม่ เมื่อติดเชื้อก็เลยวุ่นไปทั้งคอนโด

แต่ล่าสุดก็มีการสอบสวนโรค จนพอจะรู้ว่าใครเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำอย่างไร และต้องจัดการอะไรบ้างในคอนโดที่ว่านี้ ซึ่งก็มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก

ท่านโฆษกแถลงด้วยว่า คงจะต้องทบทวนวิธีการปฏิบัติสำหรับกรณีข้อยกเว้นต่อไป อย่างกรณีของทหารอียิปต์ที่ตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่ายังจะมีเข้ามาอีก 2-3 เที่ยวบิน ก็เสนอให้ระงับไปก่อน

ส่วนในกรณีของบุคคลในคณะทูต อาจจะเสนอให้เข้ากักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ เพื่อความสบายใจของประชาชนในโอกาสต่อไป

ในช่วงท้ายๆ ท่านโฆษกได้ขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ศบค. ต้องเป็นผู้รับผิดชอบแน่นอน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า

“ในนามของ ศบค.คงปฏิเสธการรับผิดชอบไม่ได้ เรารับทราบและมองเห็นว่าหลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ หลายเรื่องคาดไม่ถึง ไม่นึกว่าจะมีรายละเอียดมากมายเช่นนี้”

“ที่เกิดขึ้นมาก็ดำเนินการปรับปรุงกันเรื่อยๆ ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ผมในฐานะตัวแทน ศบค. ฝากขออภัย ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือกัน”

คนเราเมื่อพลาดแล้วขออภัยเช่นนี้ ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยก็คงให้อภัยละครับ แต่ก็คงต้องขอระบายบ้าง เพราะอย่างที่ว่า ท่านมาขอให้เรายกการ์ดสูง แต่ทางฝ่ายท่านกลับทำการ์ดตกเสียเอง

แต่ก็ถือว่าการ์ดตกแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และบางกรณีอย่างทหารอียิปต์นั้นไม่ใช่ความผิดของท่านเลย…เหตุเกิดขึ้นเพราะเขาไม่มีวินัยหนีเที่ยว ไม่ทำตามกฎกติกาเท่านั้น

ส่วนข้อยกเว้นนั้น ถ้าเลิกได้ก็จะดี แต่ผมก็เข้าใจดีว่าแต่ละประเทศก็คงต้องมีข้อยกเว้นไว้บ้างเพื่อความสะดวกในการดำเนินกิจการที่มีประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต่อไปคงต้องระมัดระวังมากขึ้น

อะไรมีปัญหาเราก็แก้กันไปและต่อไปก็อย่าให้เกิดอีกละกัน

เรายังจะต้องต่อสู้กับเจ้าโควิด-19 อีกหลายยกครับ เพราะมองระดับโลกแล้วยังไม่มีทางที่จะหยุดระบาดได้ง่ายๆ

ก็ขอให้ ศบค.ปรับปรุงวิธีการทำงาน และทำให้ดีที่สุดต่อไป ส่วน พวกเราประชาชนก็พร้อมจะให้ความร่วมมือต่อไป เพื่อให้การศึกของเราประสบความสำเร็จในที่สุด

ยังไงๆ วันนี้ (ขณะที่เขียน) เราก็ปลอดเชื้อภายในประเทศของเราเป็นวันที่ 50 แล้วละ ถ้าไม่มีเหตุการณ์เรื่องที่เชื้อจากต่างประเทศเข้ามาจนเป็นเหตุให้วุ่นวายทั้ง 2 กรณีนี้ เราจะมีความสุขกันอย่างมาก

แต่เอาเถอะมีปัญหาครั้งนี้ก็ดีไปอย่าง ทำให้ผมเชื่อมือทีมสอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุขขึ้นมาอีกเยอะเลย รู้แม้กระทั่งว่าทหารอียิปต์คนไหนสวมหน้ากาก ไม่สวมหน้ากากละเอียดจริงๆ

ในฐานะผู้ที่ร่วมตำหนิความผิดพลาดด้วยคนหนึ่งไปเมื่อวานนี้ …วันนี้ขอชมเชยทีมสอบสวนโรคเป็นการชดเชยนะครับ.

“ซูม”

ทหารอียิปต์, โควิด-19, จังหวัดระยอง, ซูดาน, ซูมซอกแซก