30 ปี แห่งการรอคอย ในที่สุด “หงส์” ก็สมหวัง

นับตั้งแต่สมาคมฟุตบอลอังกฤษยกฐานะ “ดิวิชัน 1” ขึ้นเป็น “พรีเมียร์ลีก” เมื่อฤดูกาล 1992–1993 นับมาถึงปีนี้รวมเป็นเวลา 28 ปีเต็มๆ แล้วนั้น

ไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้วว่าทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำของอังกฤษที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์มามากที่สุดในประวัติศาสตร์ 104 ปี ของการแข่งขันที่ยังเรียกว่า “ดิวิชัน 1” นั้น

จะไม่เคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก เลย ในการแข่งขัน 27 ปีแรก!

เพิ่งจะมาพบกับความสำเร็จได้เป็นแชมป์ลีกสูงสุดยุคใหม่ของอังกฤษเป็นครั้งแรกในปีนี้เอง

จากการที่ทีมอันดับ 2 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปพลาดท่าเสียทีแพ้ให้กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 1-2 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เกมที่ 31 ของฤดูกาลนี้ เมื่อค่อนรุ่งวันศุกร์ที่ผ่านมา

ส่งผลให้เรือใบสีฟ้าคะแนนแพ้ขาดลอย หมดสิทธิ์จะเป็นแชมป์แน่นอนแล้ว หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ลิเวอร์พูล ก็ได้คะแนนมากพอจะเป็นแชมป์โดยไม่มีทีมใดสามารถไล่ทันแล้ว

นี่คือแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกของ หงส์แดง นับแต่ยกระดับจากดิวิชัน 1 มา 28 ปี พอดิบพอดี อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น

ทำให้สถิติชัยชนะในลีกสูงสุด ที่เรียกว่า Top Flight ของอังกฤษ (รวมดิวิชัน 1) ของลิเวอร์พูลกลายเป็นครั้งที่ 19 ด้วยประการฉะนี้

โดนคู่แข่งนิรันดร์กาลอย่างปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แซงหน้าไปในฐานะแชมป์ ท็อปไฟลท์ มากที่สุด รวม 20 ครั้ง อย่างน่าเจ็บใจ

ทั้งๆ ที่ในยุคสมัยดิวิชัน 1 ปิศาจแดงได้แชมป์แค่ 7 ครั้งเท่านั้น เป็นรองหงส์แดงที่ได้ถึง 18 ครั้งหลุดลุ่ย

เหตุเพราะ ปิศาจแดง มาได้แชมป์ในยุคพรีเมียร์ลีกถึง 13 ครั้ง มากกว่าทีมอื่นใด รวมแล้วจึงเป็น 20 ครั้งในท็อปไฟลท์ด้วยประการฉะนี้

แต่ก็เอาเหอะในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็ทำได้สำเร็จแล้วในปีที่ 28 ของพรีเมียร์ลีกนี้เอง

อย่างไรก็ตาม ที่ “จ่าแฉ่ง” พาดหัวเอาไว้ว่า 30 ปีที่รอคอย เพราะไปนับการเป็นแชมป์ดิวิชัน 1 ครั้งล่าสุดคือ ฤดูกาล 1989-1990 ก่อนเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีก 3 ปี เข้าไปด้วยนั่นเอง

30 ปีแห่งการรอคอย ลิเวอร์พูลมิได้อยู่นิ่งเฉยแต่ประการใด พยายามทุกอย่างแล้วแต่โชคยังไม่เข้าข้างเท่านั้น

สำนักข่าว BBC สรุปไว้ว่า หงส์แดง ต้องใช้นักเตะถึง 239 คน ใช้เงินถึง 1,470 ล้านปอนด์ (กี่บาทคูณยากเพราะบางยุคค่าเงินปอนด์ขึ้นไปถึงปอนด์ละ 60 บาทก็เคยมาแล้ว)

ต้องลงเล่นถึง 1,149 เกม นับแต่ฤดูกาล 1990-1991 คิดเป็นเวลาถึง 103,410 นาที (โดยไม่รวมทดเจ็บ) คว้าชัยชนะมา 595 ครั้ง (52 เปอร์เซ็นต์) และซัลโวประตูไป 1,968 ประตู ทำแต้มได้ทั้งหมด 2,079 คะแนน ก่อนจะได้ แชมป์ พรีเมียร์ลีกครั้งแรก

แต่ก็มาใกล้และเฉียดมากเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่แพ้ แมนฯ ซิ ไปอย่างฉิวเฉียด ทำได้ 97 แต้ม เป็นที่ 2 เพราะ แมนฯซิ ทำไว้ 98 มากกว่า 1 คะแนน

ทันทีที่รู้ตัวว่าเป็นแชมป์ยอดกุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ ผู้นำหงส์แดงสู่ความสำเร็จให้สัมภาษณ์โทรทัศน์สกายสปอร์ตอย่างตื่นเต้นว่า…

“ผมแทบพูดอะไรไม่ออกเลย มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เป็นสิ่งที่เกินกว่าที่ผมเคยคิดและคาดหวังการได้แชมป์กับทีมอันสุดยอดเช่นนี้เป็นสิ่งดีงามเกินกว่าที่ผมฝันไว้”

สำนักข่าวทุกสำนักยกความสำเร็จของลิเวอร์พูลให้แก่ผู้จัดการทีมจากเยอรมัน ที่มารับช่วงทำทีมเมื่อ 8 ตุลาคม ปี 2015 เกือบๆ 5 ปีที่แล้ว

เขาเคยพูดไว้ในวันแรกที่มาถึงแอนฟิลด์ว่า “เราจะต้องทำให้ผู้คนที่กังขาในทีมเรากลายเป็นคนที่เชื่อมั่นในทีมเรา”

ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ…ทำให้แฟนๆ ลิเวอร์พูลที่รอคอยมา 30 ปี จากการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายได้สมหวังกลับมาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้ง

เมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563 ตามเวลาประเทศไทย

ยินดีด้วยนะครับแฟนๆ หงส์แดง!

“จ่าแฉ่ง”