8 นักกีฬา “เกียรติยศ” งาน “สยามกีฬา อวอร์ดส์”

เผลอหน่อยเดียว งาน “สยามกีฬา อวอร์ดส์” ของหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดมอบรางวัลยอดเยี่ยมและดีเด่นให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาต่างๆ ก็จะมาถึงครั้งที่ 14 ในวันที่ 6 มีนาคมนี้แล้วครับ

เมื่อตอนที่หนังสือพิมพ์ สยามกีฬารายวัน ตัดสินใจจะแจกรางวัลนี้ในปีแรก มีคนถามคุณ ระวิ โหลทอง ประธานที่ปรึกษา บริษัทสยามสปอร์ตฯ ว่า จะไม่เป็นการซ้ำซ้อนกับรางวัลอื่นๆ หรอกหรือ

เพราะมีทั้งรางวัลของสมาคมผู้สื่อข่าว ทั้งของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทำท่าจะเป็นเหมือนวงการมวยโลกซึ่งมีหลายๆ สถาบัน ทำให้ต้องมาเทียบศักดิ์ศรีว่าสถาบันไหนของจริง สถาบันไหนของปลอมกันอยู่เสมอๆ

คุณระวิตอบว่า รางวัลยอดเยี่ยมสำหรับนักกีฬาไม่เหมือนกับสถาบันมวย ยิ่งแจกหลายๆ สถาบัน หลายๆ สมาคมยิ่งดี เพราะจะทำให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจดีขึ้น

ยิ่งของเรานอกจากมอบโล่หรือเหรียญแล้ว จะมีเงินรางวัลมอบให้ด้วย ยิ่งจะทำให้ขวัญและกำลังใจของนักกีฬาเพิ่มมากอีกเป็นทวีคูณ

จริงอย่างที่คุณระวิให้เหตุผลไว้ แม้จะมาทีหลังแต่รางวัล “สยามกีฬา อวอร์ดส์” เป็นอีกรางวัลหนึ่งที่นักกีฬาทุกคนรอคอย เพราะนอกจากจะได้รับเกียรติยศเมื่อได้รับรางวัลแล้ว ยังจะได้เงินสดติดเหรียญติดโล่ไปด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

เพราะฉะนั้นพอมีข่าวว่า ปีนี้งาน “สยามกีฬาอวอร์ดส์ ครั้งที่ 14” จะเริ่มขึ้นในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ณโรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ ถนนรางน้ำ นักกีฬาที่มีผลงานและมีสิทธิ์ลุ้นต่างก็กระตือรือร้นไปตามๆกัน

ใครจะได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในประเภทไหนกันบ้าง อย่าลืมลุ้นกันด้วยนะครับ

สำหรับ “จ่าแฉ่ง” เองนั้นมีอยู่รางวัลหนึ่งที่ชื่นชมมาก จะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อหยิบมาเขียนให้กำลังใจอยู่เสมอ

นั่นก็คือรางวัล “หอเกียรติยศคนกีฬา” หรือ KBANK HALL OF FAME AWARDS ซึ่งสนับสนุนเงินรางวัลแก่นักกีฬาที่ได้รับรางวัลโดย ธนาคารกสิกรไทย

ที่ “จ่าแฉ่ง” ชื่นชมรางวัลนี้เพราะเป็นรางวัลย้อนอดีต มอบให้นักกีฬาในอดีตที่เคยสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ โดยการประกาศรายชื่อเข้าสู่ “หอเกียรติยศ” นั่นเอง

เป็นการยืนยันและเชิดชูให้โลกได้รู้ว่าพวกเราที่เป็นนักข่าวรวมทั้งคนไทยที่เคยมีความสุขในยุคก่อนๆ ไม่เคยลืมเขาเหล่านี้เลย

สำหรับปีนี้คณะกรรมการของ สยามกีฬา คัดเลือกมาทั้งสิ้น 8 ท่าน 8 รางวัล ได้แก่

พ.ต.อภิรักษ์ อารีย์มิตร อดีตนักรักบี้ฟุตบอลทีมชาติไทย ฉายา “เท้าทอง” เตะเปลี่ยนได้แม่นยำระดับดาราเอเชีย สำหรับวงการรักบี้, ดำรงค์ ศิริสาคร อดีตนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 8 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ, สุธาสินี ศิริกายะ นักเทนนิสเหรียญทองในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 8 เช่นกัน

แล้วก็มาถึงขวัญใจแฟนมวยในอดีต ซึ่งได้รับเลือก 2 ท่าน คือ อรชุนน้อย ฮ.มหาชัย หรือ “ไอ้เมี่ยง” ยอดมวยอาวุธรอบตัว และ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ เจ้าของฉายา “ขุนเข่าทะลุฟ้า” ที่ยังอยู่ในความทรงจำตราบเท่าทุกวันนี้

อีก 3 ท่าน ได้แก่ จินตนา ทองรัตน์ อดีตนักว่ายน้ำทีมชาติคนแรกที่ได้รับเหรียญทองเอเชียนเกมส์, เอกไชย สนธิขันธ์ อดีตนักเตะฟุตบอลทีมชาติไทย และ พล.ต.อำนาจ เฉลิม-ชวลิต อดีตนักฟุตบอลระดับกัปตันทีมชาติไทย เจ้าของฉายา “ผู้พันกระดูกเหล็ก” ซึ่งในที่สุดก็ได้เป็น “นายพล” สมใจแฟนกีฬา

ขอขอบคุณสำหรับผลงานที่ทุกๆ ท่าน สร้างไว้ให้แก่ประเทศไทยในอดีตอีกครั้ง และขอแสดงความยินดีกับทุกท่านด้วย ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ “หอเกียรติยศคนกีฬา” อันทรงเกียรติยิ่งในปีนี้นะครับ.

“จ่าแฉ่ง”