นิทรรศการ “ห้ามพลาด” “เจาะเวลา” หา “จิ๋นซี”

หัวหน้าทีมซอกแซกยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่จดลงสมุดบันทึกไว้ และตั้งใจจะเขียนถึงอยู่อีก 2-3 เรื่อง แต่เผอิญว่าสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง มีโอกาสแวะไปเดินชมนิทรรศการ “จิ๋นซีฮ่องเต้” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครด้วยความประทับใจอย่างยิ่ง

คงต้องขออนุญาตแซงคิวนำมาเขียนถึงเสียในสัปดาห์นี้เลย เพราะจากโปรแกรมที่เขาแจกให้สำหรับเป็นคู่มือในการเดินชมระบุว่า “จิ๋นซีฮ่องเต้” ท่านจะประทับอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของเราจนถึงวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคมเท่านั้น

นับจากนี้ไปก็เหลืออีกแค่ 21-22 วัน ไม่รีบเขียนบอกกล่าวท่านผู้อ่านเสียก่อนเดี๋ยวจะพลาดไปชมกันเสียเปล่าๆ

พลาดแล้วก็น่าเสียดายครับ เพราะเป็นนิทรรศการที่ลงทุนมหาศาลมาก แถมกว่าจะได้มาแสดงก็ยากแสนยาก เนื่องด้วยข้าวของเครื่องใช้รวมทั้งหุ่นรูปปั้นกองทัพทหารดินเผาที่นำมาแสดงในคราวนี้ ล้วนเป็นของจริงที่เคยอยู่ในหลุมฝังศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ทุกชิ้นเลยทีเดียว

แม้จะนำมาเพียง 86 รายการ จำนวน 133 ชิ้น แต่ทุกชิ้นล้วนมีความสำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะมีอายุไม่ต่ำกว่า 2,200 ปี กระจายเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของจีนถึง 14 แห่ง

ครั้นเมื่อนำมาถึงเมืองไทยก็มอบหมายให้ บริษัท รักลูก เอ็ดดูเท็กซ์ จำกัด บริษัทในเครือ รักลูก กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์ในการจัดทำและบริหารพิพิธภัณฑ์มากว่า 25 ปี เป็นผู้วางแผนและออกแบบการจัดนิทรรศการครั้งนี้

เนรมิตท้องพระโรงของ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ให้เป็นห้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

แบ่งการแสดงเป็น 4 ส่วน เริ่มส่วนที่ 1 ด้วย พัฒนาการก่อนการรวมชาติ ยุคราชวงศ์โจวตะวันออก ตามมาด้วยส่วนที่ 2 จี๋นซีฮ่องเต้ ผู้ผนวกโลกมนุษย์และสวรรค์ ว่าด้วยการแผ่พลานุภาพของจักรพรรดิจิ๋นซีในการรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียว

จากนั้นเป็นส่วนที่ 3 เน้นสุสาน จักรพรรดิ จิ๋นซี มหาอาณาจักรใต้พิภพ เป็นการเฉพาะแล้วก็จบลงด้วยส่วนที่ 4 ว่าด้วย ความรุ่งโรจน์ ยุคราชวงศ์ฮั่น ที่รับมรดกวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของจิ๋นซีฮ่องเต้เอาไว้ และสืบสานแผ่ขยายต่อยอดติดต่อกันไปหลายร้อยปี

มีการเล่าเรื่องโดยใช้ทั้งรูปภาพ และกราฟิก+ของเก่าขนานแท้อายุเกิน 2,000 ปี 133 ชิ้นที่ว่า และในบางห้วงก็จะใช้เทคโนโลยีทันสมัย ฉายวิดีโอขึ้นจอให้ดูเหมือนดูภาพยนตร์ประกอบไปด้วยทำให้เข้าใจเรื่องราวง่ายขึ้นอีกหลายเท่า

จุดเด่นของนิทรรศการก็คือ ส่วนที่ 3 ซึ่งอยู่ในท้องพระโรงกลาง ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีนั่นเอง โดยทางการจีนได้ส่ง “หุ่นทหาร” ตัวจริงเสียงจริงจากหลุมฝังพระศพขององค์จักรพรรดิมาให้ดู รวมทั้งสิ้น 4 หุ่นด้วยกัน

มีหุ่นทหารพลธนู หุ่นทหารทั่วไป 2 หุ่น และหุ่นทหารระดับแม่ทัพ 1 หุ่น

แม้จะมาเพียง 4 หุ่น แต่เมื่อเป็นของแท้พันเปอร์เซ็นต์ มีอายุกว่า 2,000 ปี เช่นนี้ได้เห็นเป็นบุญตาก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วแล้วครับ

เมื่อออกจากส่วนที่ 4 ซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายว่าด้วยการสืบทอดมรดกอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิจิ๋นซี โดยราชวงศ์ฮั่นแล้ว ประตูก็จะค่อยๆ เปิดออก

เผยให้เห็นหุ่นทหารจิ๋นซียืนตระหง่านรออยู่อีกหลายหุ่น รวมทั้ง 4 หุ่น จากตู้กระจกเมื่อสักครู่ก็มายืนอยู่ด้วย

เป็น “มุก” ส่งท้ายเล็กๆ น้อยๆ จากคณะผู้จัดเขาล่ะ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้มีโอกาสบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก ตามวัฒนธรรมยุคใหม่ใน พ.ศ.ปัจจุบัน ที่จะต้องมีการ “เช็กอิน” หรือ “เซลฟี่” เอาไว้ด้วย

การถ่ายภาพภายในห้องแสดงแม้เขาจะไม่ห้ามหวง แต่ก็ไม่สะดวกและภาพอาจไม่สวยหรือชัดเท่าไรนัก…มาถ่ายในจุดสุดท้ายเลยดีกว่า ได้ยืนใกล้ชิดหุ่นทหารจิ๋นซี (เทียม) คราวนี้จะโอบ จะกอดอย่างไรก็เชิญได้เลย

แม้จะเป็นการจัดนิทรรศการที่ต้องลงทุนสูงมาก คิดเป็นเงินหลายสิบล้านบาท เพราะจะต้องขนและดูแลสิ่งของอันประเมินค่ามิได้ถึง 133 ชิ้น ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง ต้องใช้เครื่องบินขนถึง 2 เที่ยว

แต่กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ผู้จัดนิทรรศการครั้งนี้ เก็บค่าผ่านประตูเพียง 30 บาท เก็บเป็นสัญลักษณ์ว่าต้องเก็บเท่านั้นเอง เพราะตั้งใจจะให้ประชาชนเข้าชมให้มากที่สุดอยู่แล้ว

ทีมงานซอกแซกได้รับรายงานว่าปกติจะมีคนไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร แค่วันละ 200 คนเท่านั้น แต่ในช่วงแสดงนิทรรศการจิ๋นซี มีผู้เข้าชมเฉลี่ยถึงวันละ 2,000 คน สัปดาห์แรกๆ เข้าคิวยาวมาก แม้วันที่ทีมงานซอกแซกไปชมการแสดงจะผ่านไปร่วม 2 เดือนแล้ว คิวก็ยังยาวพอสมควร

ขอย้ำอีกครั้งว่านิทรรศการจักรพรรดิจิ๋นซีจะแสดงถึง 15 ธันวาคมนี้เท่านั้นเอง ใครยังไม่ได้ไปชมอย่าลืมหาเวลาว่างไปชมกันสักรอบ เขาจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.00 น. ไปจนถึง 16.00 น. โดยเริ่มจากวันพุธไปถึงวันอาทิตย์และจะหยุดวันจันทร์กับวันอังคารและวันนักขัตฤกษ์ตามวิถีปฏิบัติของพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่

สำหรับหัวหน้าทีมซอกแซก หลังจากชมนิทรรศการจบแล้วพอกลับถึงบ้านก็รื้อตู้หนังสือค้นหานิยายกำลังภายในชุด “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” ของ “หวงอี้” แปลโดย น.นพรัตน์ จัดพิมพ์โดย สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย มาอ่านใหม่อีกรอบทั้งหมดมี 8 เล่ม

เพิ่งจบเล่มแรกเอง…เขียนคอลัมน์วันนี้เสร็จต้องไปอ่านเล่ม 2 เล่ม 3 ต่อละครับและตั้งใจจะอ่านให้จบสัปดาห์นี้แหละเพราะลืมไปแล้วว่า พระเอกนายทหารหน่วยรบพิเศษกองทัพจีนที่นั่งไทม์แมชชีนกลับไปสู่ยุคจิ๋นซีนั้นไซร้

จะได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิหรือไม่? และ จะได้เป็นทหารจิ๋นซีในยศชั้นใด?

“ซูม”