กรรมาธิการฯ งบประมาณ “ฝันร้าย” ข้าราชการไทย

ในช่วงนี้ท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านข่าวการเมืองคงจะพบว่านอกจากข่าวที่เป็นประเด็นหลักในทางการเมืองทั่วๆ ไปแล้วก็จะมีข่าวผลการประชุมประจำวันของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 สอดแทรกอยู่ด้วยเสมอๆ

เพราะหลังจากร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ผ่านวาระแรกไปแล้วก็จะมีคณะกรรมาธิการวิสามัญที่สภาแต่งตั้งชุดหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณากลั่นกรองในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งก่อนจะนำเสนอกลับสู่สภาในวาระ 2 วาระ 3 ต่อไป

ในระหว่างการพิจารณาก็จะมีการเชิญข้าราชการระดับสูงของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ มาชี้แจงรายละเอียดเป็นรายกระทรวง รายกรม เพื่อตอบปัญหาและคำซักถามของคณะกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณที่หน่วยงานแต่ละหน่วยขอตั้งเอาไว้

ถ้าเป็นในยุคปฏิวัติ ปฏิรูปคณะกรรมาธิการมักมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการประจำด้วยกันเวลาซัก เวลาถามก็จะว่ากันไปตามฟอร์มไม่หนักหนาสาหัสอะไรนัก

แต่ในยุคที่มีการเลือกตั้ง คณะกรรมาธิการฯมาจากท่าน ส.ส.เป็นส่วนใหญ่ก็จะมีรูปแบบการซักถามไปอีกแบบหนึ่ง คือจะมีทั้งลูกดุเด็ดเผ็ดมัน ทั้งทุบทั้งตีทั้งขอดทั้งค่อนทั้งแขวนเอาไว้ก่อนสารพัดรูปแบบ

ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการฝันร้ายของข้าราชการประจำที่จะต้องไปชี้แจงรายละเอียดคำของบประมาณของแต่ละกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะในช่วงที่เรียกกันว่า “สนทนาธรรม” ก่อน ที่การซักไซ้ในรายละเอียดจริงๆจะเริ่มขึ้น

กรรมาธิการระดับพระกาฬในอดีตที่ข้าราชการไทยกลัวเกรงกันมากก็เช่น ท่าน บุญชู โรจนเสถียร, คุณสมัคร สุนทรเวช, คุณ เฉลิม อยู่บำรุง, ปู่ชัย ชิดชอบ และอีกท่านหนึ่งตัวเล็กนิดเดียวแต่เสียงดังฟังชัด ข้าราชการกลัวที่สุดได้แก่ คุณ ปาน พึ่งสุจริต

ต่อให้เป็นท่านปลัดกระทรวง ท่านอธิบดี แน่มาจากไหนเดินเข้าไปในห้องกรรมาธิการแล้วนั่งโต๊ะผู้ชี้แจง 3 ตัวหน้าสุด เผชิญกับกรรมาธิการที่มีเหล่า พระกาฬ ที่เอ่ยถึงนั่งแซมเป็นจุดๆ รอบด้านละก็…จะต้องหัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มแทบทุกรายไป

คุณปาน พึ่งสุจริต คนตัวเล็กเสียงดัง หนึ่งในชื่อที่ผมเอ่ยถึงข้างต้น ท่านไม่ได้เป็น ส.ส.อะไรทั้งสิ้น เพราะแม้จะสังกัดพรรคการเมือง และลงสมัครหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้งสักครั้งเดียว ถ้าผมจำไม่ผิด

กระนั้นด้วยความสามารถในการอ่านงบประมาณ ชนิดจับไต๋ข้าราชการ ได้ทะลุปรุโปร่ง คุณปานท่านก็จะมาเป็นกรรมาธิการฯ แบบคนนอกในโควตาของพรรคการเมืองติดต่อกันมาหลายปี

ซึ่งในยุคนั้นจะมีคนนอกเข้ามาเป็นกรรมาธิการหลายคน แต่ไม่เคยมีใครถูกประท้วงว่าเข้ามาไม่ได้นะ โหวตไม่ได้นะ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความซะก่อนนะ อย่างในยุคปัจจุบันแต่อย่างใด

สำหรับ “พระกาฬ” หรือดาราในการชำแหละของยุคปัจจุบันจะเป็นใครบ้างผมไม่ทราบ เท่าที่มีข่าวออกมาส่วนใหญ่จะเป็นดาราดวงใหม่ ซึ่งจะดุดันหรือโหดเหมือนยุคเก่าหรือไม่ คงต้องติดตามข่าวกันต่อไป

เท่าที่ฟังหรืออ่านจากการให้สัมภาษณ์ ซึ่งมีการตั้งคำถามล่วงหน้าไปยังหน่วยงานต่างๆ ก็รู้สึกจะ “หนัก” ไม่แพ้รุ่นเก่าเหมือนกัน

ในฐานะข้าราชการเก่าและเคยไปขึ้นเขียง ให้กรรมาธิการฯงบประมาณรุมสับมาหลายปี ผมก็ขอเอาใจช่วยน้องๆ ข้าราชการรุ่นใหม่ขอให้ผ่านช่วงเวลาแห่งความโหดร้ายนี้ไปโดยไม่บอบชํ้าอะไรมากนัก

ท่องคาถาเอาไว้อย่างเดียว ไม่โต้ไม่เถียง ไม่ต่อความยาวสาวความยืด ชี้แจงเสร็จโดนโขกสับอย่างไรก็ปล่อยให้โขกไป เรารับฟังอย่างเดียว แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี

ช่วงพิจารณางบประมาณเป็นช่วงที่ฝ่ายการเมืองเขาจะแสดงพลัง เราฝ่ายประจำก็อย่าไปทำอะไรขัดแย้ง พอเขาแสดงพลังเสร็จเรื่องก็จบ

แต่ถ้าขืนไปต่อล้อต่อเถียง เรื่องอาจไม่จบง่ายๆ งบเราอาจถูกแขวน อาจถูกตัดและในอดีตก็เคยโดยกันมาแล้ว

ผมไม่ทราบว่ายุคนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือไม่ แต่ก็ขอฝากคาถาของคนรุ่นเก่าไว้ให้ข้าราชการประจำรุ่นใหม่ทั้งหลายรับไว้พิจารณา เผื่อจะช่วยให้ฝันร้ายกลายเป็นฝันดีได้รับงบประมาณกลับกรมกองครบทุกบาททุกสตางค์โดยทั่วกันเทอญ.

“ซูม”