รีวิว “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” 10/10

ตั้งแต่ผมเริ่มเขียนรีวิวหนังมา ผมขอบอกเลยว่า ผมจะดูหนังตัวอย่าง และอ่านข่าวที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งมาก่อน หรือไม่ก็ถามน้องนักข่าวที่ส่งไปดูรอบสื่อ ก่อนที่จะตัดสินใจไปดูทุกครั้ง

เพราะไม่อยากจะเสียเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เพื่อไปดูหนังอะไรก็ไม่รู้ และมาให้คะแนนแค่ 4 หรือ 5 จะดูทั้งทีต้องเป็นหนังที่ได้ 9 หรือ 10 คะแนนเท่านั้น

โดยเฉพาะหนังไทย ที่ต้องลุ้นเกือบทุกเรื่องว่าจะรอดหรือไม่รอด

แต่สำหรับหนังเรื่อง “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” ครั้งแรกที่ผมได้รับข่าวประชาสัมพันธ์หนังมานั้น ผมก็ยังเฉยๆ แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปดู เพราะได้ติดตามผลงานของ “โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล” มาโดยตลอด จึงอยากรู้ว่ากว่าจะมาเป็นมือหนึ่งของโลกนั้นมีความเป็นมาอย่างไร

แล้ววันหนึ่งพอผมได้เห็นตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมา ก็ทำให้ผมตัดสินใจว่าพอหนังเข้าโรงแล้วต้องมาดูให้เร็วที่สุด

หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องราวของ “ครอบครัวจุฑานุกาล” ที่ “คุณพ่อ” ต้องการสร้าง “ลูก” สาวทั้ง 2 คน ให้นักกอล์ฟระดับโลกให้ได้ โดยเฉพาะของ “โปรเม” ที่มีเรื่องราวของความยากลำบาก ความทุ่มเทในการฝึกซ้อม และช่วงชีวิตที่ตกต่ำ ได้รับการบาดเจ็บ แต่เธอก็ไม่ท้อ สู้กับปัญหาต่างๆ จนได้กลายเป็นมือ 1 ของโลกในที่สุด

ผมไม่ได้สปอยล์นะครับ แต่หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวนี้ ซึ่งก็สามารถหาอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว

แต่พอนำมาสร้างเป็นหนังก็อาจจะมีการเสริมเติมแต่งให้ดราม่าบ้าง อะไรบ้างตามหลักของการสร้างหนัง เพื่อให้เกิดมิติของหนัง จะได้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น

พอได้ไปดูมาแล้วผมขอชื่นชมหนังเรื่อง “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” ตั้งแต่โครงเรื่องเลยครับ เพราะนานๆ ทีจะมีการนำเอาประวัติของนักกีฬามาสร้างเป็นหนังสักเรื่อง ซึ่งก็ทำให้แตกต่างจากหนังไทยที่ผ่านมา

เรื่องบทที่เขียนก็ดูแล้วไม่โอเวอร์จนเกินไป มีการสอดแทรกความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆ มากมาย ดูแล้วก็ลุ้นตาม ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ค่อยๆ ปูเรื่องไปจนถึงจุดพีค และก็สรุปลงอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างทางก็ไม่นอกเรื่อง ไม่แทรกบทตลกพร่ำเพรื่อ อาจจะมีประเด็นค้างคาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่สาระอะไร สามารถปล่อยผ่านได้

นักแสดงหลักของเรื่องที่มีอยู่ 4 คนคือ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์, หัทยา วงษ์กระจ่าง เเละ 2 นักเเสดงดาวรุ่ง คริสซี่-กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์ และปริม-อัจฉรียา โพธิพิพิธธนากร 

ซึ่งทั้งหมดก็แสดงได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ “ธเนศ วรากุลนุเคราะห์” ที่แสดงเป็นคุณพ่อที่เฮี๊ยบ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ที่แบบว่า “ต้องแลกอะไรบ้างเพื่อความฝัน” และคริสซี่-กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์ ที่แสดงเป็นโปรเมตอนโต ที่สามารถสื่ออารมณ์ของความเหนื่อย ความไม่ย่อท้อ ความมุ่งมั่น และอีกมากมาย ที่ผมอยากไห้ไปดูเอาเองในโรงครับ

ผมไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้ลงทุนไปเท่าไหร่นะครับ แต่ผมชอบในการเก็บรายละเอียดของฉากมากๆ เลยครับ โดยเฉพาะฉากตอนแข่งขันรายการต่างๆ ที่ทำเหมือนการแข่งจริงมากๆ มีฝรั่งยืนดู มีธง มีป้าย มีอัฒจันทร์ และพร็อบต่างๆ เหมือนกับที่ใช้ในการแข่งขันจริงๆ กันเลยทีเดียว

ส่วนที่สำคัญที่สุดของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้ผมให้คะแนนเต็ม 10 เลยก็คือ การที่ดูแล้วได้ข้อคิดหลายๆ อย่าง ในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรักที่พ่อคนหนึ่งจะมีให้ลูก หรือความรักของลูกที่มีต่อพ่อ ความเข้มงวด ความมีวินัย ในการทำในสิ่งที่มุ่งเข้าสู่จุดมุ่งหมาย ที่ไม่ควรจะตึงหรือหย่อนจนเกินไป

รวมไปถึง “แรงบันดาลใจ” ในการสร้างเป้าหมายของชีวิตและก็ทำมันไปให้ถึง มันอาจจะมีขรุขระบ้าง สวยหรูบ้าง ก็ต้องฝ่าฟันกันไป

ผมเชื่อว่า “อัจฉริยะ” นั้นมีอยู่ใกล้ตัวในทุกๆ ครอบครัวครับ เพียงแต่อยู่ที่ว่าเราจะสร้างพวกเขาเหล่านั้นยังไง ไปในทิศทางไหน และจะพยายามดันเขาไปให้ “สุด” ได้แค่ไหน แต่ก่อนอื่นเลยผมอยากให้ผู้อ่านทุกคนพาว่าที่อัจฉริยะของท่านไปดูหนังเรื่องนี้ครับ เพราะไม่แน่ว่าหนังเรื่อง “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแรงบันดาลใจของอัจฉริยะคนใหม่ก็เป็นได้

รีบๆ หน่อยนะครับอยากให้ไปดูกันเยอะๆ หนังไทยดีๆ แบบนี้ไม่ควรพลาด

ซูม จูเนียร์