ท่านผู้อ่านคงทราบแล้วว่าหัวหน้าทีมซอกแซกได้แอบทิ้งลูกทีมหนีไปดูงานด้าน “พลังงานสะอาด” หรือ “พลังงานสีเขียว” ที่ฟินแลนด์กับเดนมาร์ก 2 ประเทศหลักและเอสโตเนียกับชายแดนสวีเดนอีก 2 ประเทศแถม เพราะได้เกริ่นเอาไว้ รวมทั้งเขียนไปบ้างแล้ว 2–3 วัน ในคอลัมน์ “เหะหะพาที”

ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทาง เวลาหัวหน้าทีมไปซอกแซกต่างแดน นั่นก็คือ ในคอลัมน์ประจำวันจันทร์ถึงศุกร์มักจะหนักไปในทางวิชาการ หรือความรู้ หรือข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ ส่วนเรื่องเที่ยวเตร่สรวลเสเฮฮาประเภทชมนกชมไม้ เราจะมาว่ากันในคอลัมน์วันอาทิตย์

ดังนั้น หลังจากเขียนถึงฟินแลนด์ และ เฮลซิงกิ เมืองหลวงของเขาในแง่มุมของเรื่องที่ควรรู้ไปถึง 2 วันแล้ว…วันนี้เรามาว่าถึง เฮลซิงกิ ในแง่ความรื่นเริงบันเทิงใจกันได้ละ

เฮลซิงกิ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ มีประชากรในตัวเมือง 600,000 คน และเมื่อรวมบริเวณเมืองข้างเคียงเข้าไปด้วย จะตกประมาณ 1 ล้าน 2 แสนคน หรือ 1 ใน 4 ของประชากรของประเทศฟินแลนด์ ซึ่งมีประมาณ 5 ล้านคนเท่านั้น

กล่าวได้ว่า ด้วยจำนวนประชากรเท่านี้ และขนาดของเมืองที่กว้างขวางพอสมควร ทำให้เฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงแบบสบายๆ ไม่แออัด ยัดเยียด แถมเป็นเมืองชายทะเลด้วย ลมโกรกตลอดเวลา ไปหน้าหนาวอาจจะหนาวหน่อย แต่ถ้าไปช่วงกรกฎาคม สิงหาคม อย่างที่หัวหน้าทีมซอกแซกไปคราวนี้ ซึ่งควรจะเป็นฤดูร้อนของยุโรป แต่เฮลซิงกิกลับเย็นฉ่ำ อากาศกลางคืนประมาณ 7-8 องศาเซลเซียส กลางวัน 13-14 องศาเซลเซียส เหมือนหน้าหนาวที่จังหวัดเชียงรายอย่างไรอย่างนั้น

แต่เดิมเมืองหลวงของฟินแลนด์อยู่ที่เมืองตรูกู ไม่แน่ใจแล้วว่าอยู่แถบไหนของประเทศ จนกระทั่งปี 1812 เรื่อยมา เฮลซิงกิจึงได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงนับมาถึงบัดนี้ก็ 207 ปีเข้าไปแล้ว แพ้กรุงเทพมหานครของเราเพียงไม่กี่ปี

โดยเหตุที่ฟินแลนด์เคยตกเป็นเมืองขึ้นทั้งของสวีเดนและอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย สลับกันบ่อยๆ ในอดีต ทำให้เฮลซิงกิได้รับวัฒนธรรมมาจาก 2 ชาตินี้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมต่างๆ จะมีริ้วรอยของรัสเซียอยู่พอสมควร

เฮลซิงกิได้รับฉายาว่า “ธิดาแห่งทะเล บอลติก” เนื่องเพราะเป็นเมืองที่สวยงามรายล้อมด้วยทะเลบอลติก และเกาะแก่งจำนวนมาก

ขณะเดียวกันเนื่องจาก ตัวเมืองชั้นในมีลักษณะเป็นเมืองเก่า แต่ออกไปนอกๆ หน่อยเดียวจะเป็นอาคารแบบใหม่ที่ออกแบบก่อสร้างทันสมัย แถมเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการไฮเทคมากมาย จึงได้ฉายาอีกอย่างหนึ่งว่า “The hightech city where culture meets nature” หรือเมืองไฮเทคที่มีศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติมาบรรจบพบกัน

ความสงบเงียบแต่สง่างามผสมผสานไฮเทคของเมืองนี้ จึงกลายเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ผู้นำโลก 2 ค่ายยุคปัจจุบันใช้เป็นที่ประชุมสุดยอดมาหลายครั้ง เช่น เมื่อเดือนกรกฎาคมปีกลาย (2018) นี้เอง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มาประชุมสุดยอดที่นี่เป็นคู่ล่าสุด

หลังจากที่ เลโอนิด เบรจเนฟ กับ เจอรัลด์ ฟอร์ด เคยมาพบกันเมื่อปี 1975 และ มิคาอิล กอร์บาชอฟ มาเจอกับ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 1990 แถมด้วย บอริส เยลต์ซิน กับ บิล คลินตัน ในปี 1997 แสดงว่าต้องมีมนต์เสน่ห์จริงๆ ทำให้ผู้นำของ 2 มหาอำนาจคู่แข่งเลือกมาเจอกันที่เมืองนี้ถึง 4 คู่ 4 ยุค 4 สมัยเลยทีเดียว

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปที่ควรแวะ ไปเช็กอินถ่ายภาพเป็นที่ระลึกว่ามาถึงเฮลซิงกิ แล้ว ก็มีอนุสาวรีย์น้ำพุ “ธิดาแห่งทะเล บอลติก” ที่เป็นรูปปั้นของสาวเปลือยอกที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเมือง และฐานด้านล่างจะเป็นสระน้ำขนาดเล็ก เปรียบเสมือนทะเล บอลติกที่รายล้อมเมืองนี้นั่นเอง

อีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะแวะไปถ่ายรูปกันมาก ได้แก่ บริเวณ จัตุรัสซีเนตหรือจัตุรัสรัฐสภาของเขา ซึ่งเป็นจัตุรัสกลางเมือง เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ซึ่งมีมหาวิหารของนิกายลูเธอรันอยู่ข้างๆ

ใกล้ๆ กันนั้นเอง เดินลงมาหน่อย บริเวณทะเลจะเป็นจุดที่เรียกว่า มาร์เกตสแควร์ หรือตลาดสดแผงลอยริมทะเล มีวิวสวยๆ ให้ดูด้วย ส่วนข้าวของในตลาดก็จะเป็นพวกโอทอปต่างๆ ของฟินแลนด์และผัก ผลไม้สดๆ จากฟาร์มเหมือนตลาด อตก.ย่อมๆ ว่างั้นเถอะ

เนื่องจากเมืองนี้อยู่ใกล้ทะเลและมีเกาะแก่งมาก ถ้ามีโอกาสอย่าลืมซื้อตั๋วลงเรือล่องไปรับประทานอาหารที่เกาะใดเกาะหนึ่งด้วย เพราะจะมีร้านอาหารหลายแห่งในเกาะต่างๆ โปรดไปหาข้อมูลที่โน่นละกัน อาหารอาจ ธรรมดาๆ รสชาติฟินแลนด์ที่เราไม่คุ้น แต่ทัศนียภาพและความงาม ตลอดจนความรื่นรมย์ ขณะที่เรือแล่นล่องเลียบเกาะจะอยู่ ในความ ทรงจำไปอีกนานแสนนาน

ครับ! ก็ขอแนะนำเท่าที่มีโอกาสไปดูไปเห็นพอสังเขปเพียงเท่านี้ก่อน

แต่เพียงเท่านี้ก็พอจะเป็นหนังตัวอย่างให้เห็นได้แล้วนะครับว่าเฮลซิงกิน่าจะเป็นเมืองแห่งความสุขโดยแท้ สมกับเป็นเมือง หลวงของประเทศฟินแลนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีความสุขที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน จากการจัดอันดับของสหประชาชาติ

เมื่อฉบับวันพุธหรือพฤหัสฯ ที่ผ่านมานี่เอง หัวหน้าทีมซอกแซกประกาศยืนยันไปแล้วนะครับว่า เห็นด้วยกับยูเอ็น เพราะ 4 วันที่เฮลซิงกิมีความสุข (และสงบด้วย)อย่าบอกใครเชียว.

“ซูม”