ไฉน “การศึกษา” ฟินแลนด์ จึง “ดีที่สุด” ในโลกวันนี้?

ผมได้ยินข่าวว่าระบบการศึกษาของฟินแลนด์ดีที่สุดในโลกมาสัก 3–4 ปีเห็นจะได้ จากผลการสอบ PISA ในระยะหลังๆ ที่เด็กฟินแลนด์สามารถทำคะแนนได้เป็นที่ 1 อยู่เสมอๆ

ท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำฟินแลนด์ นพพร อัจฉริยวนิช ซึ่งกรุณามาบรรยายสรุปถึงเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับฟินแลนด์ในวันแรกที่พวกเราไปถึงก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การศึกษาของเขาดีที่สุดในโลกจริงๆ

ดีจนถึงขั้น “ส่งออก” ได้คือ มีหลายๆ ประเทศมาติดต่อขอ “ซื้อ” วิธีเรียนวิธีสอน ตลอดจนยืมตัวคุณครูของฟินแลนด์ไปสอนในประเทศตนเอง

รวมทั้งไทยเราที่เริ่มมีติดต่อมาบ้างแล้ว และในปีนี้ดูเหมือนเร็วๆ นี้ด้วยซ้ำ จะมีการยกทีมมาบรรยายมาแลกเปลี่ยนความรู้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏที่ไหนสักแห่งที่ผมจดไม่ทัน และลืมถามท่านในภายหลัง

ช่างเถอะ เอาเป็นว่า “นักการศึกษาไทย” เราก็เริ่มตื่นตัวและเริ่มสนใจใคร่เรียนรู้ถึงวิธีการเรียนการสอนของเขากันบ้างละ

แต่จะหันไปใช้วิธีของเขาได้หรือเปล่าและคนไทยเราจะยอมรับได้หรือเปล่า หากรู้ว่าเหตุผลข้อแรกที่ทำให้เด็กฟินแลนด์กลายเป็นเด็กเก่งนั้น เป็นเพราะระบบของเขาจะให้เด็กๆ “เล่น” เสียมากกว่า “เรียน”

เล่นไปแอบสอนไป เป็นวิธีสอนเด็กๆ ที่ดีสุดในทัศนะของครูฟินแลนด์

ในขณะเดียวกันการบ้านก็น้อยมาก กล่าวได้เลยว่าสำหรับเด็กเล็กจะไม่มีการบ้าน และไม่มีเป้ให้แบกจนกระดูกคดเหมือนที่เป็นข่าวในบางประเทศ

เกณฑ์เข้าเรียนของฟินแลนด์คือ 7 ขวบ แต่อายุ 6 ขวบ จะเข้า Preschool ก่อนก็ได้ ทุกโรงเรียนเรียนฟรีหมด เพราะเป็นโรงเรียนรัฐบาลทั้งสิ้น และไม่ต้องห่วงว่าโรงเรียนไหนจะดีกว่ากัน เพราะเขายืนยันว่าทุกโรงเรียนของเขา “ดีเท่ากัน”

แล้วก็มาถึงจุดเด่นที่ในความเห็นของผมมองว่า เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้การศึกษาของเขาเป็นเลิศของโลกในทุกวันนี้

“คุณครู” นั่นแหละครับ…“ครู” ของฟินแลนด์มาจากกลุ่มของบุคคล “หัวกะทิ” ของประเทศเทียบเท่ากับ “แพทย์” หรือ “ทนายความ” หรือ “วิศวกร” ทุกคนจะต้องจบปริญญาโทเป็นอย่างน้อย และจะผ่านการคัดสรรมาแบบเข้มข้น

เขายืนยันด้วยว่าแม้จะเน้นคนเก่งเป็นหลัก แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นคนดี คนรักเด็ก เอาใจใส่เด็ก อันเป็นคุณสมบัติข้อแรกของครู

ครูของฟินแลนด์จะไม่ใช่คุณครูผู้สอนที่ไปยืนสอนหน้าชั้นแล้วเริ่มต้นว่า “นักเรียนฟังทางนี้” แต่จะเป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่คอยเคียงข้างคอยแนะนำ คอยกระตุ้นมากกว่าจะสอนหรือชี้นำเด็กๆ ไม่ว่าวิชาใดๆ

ท่านทูตเล่าให้พวกเราฟังตอนหนึ่งว่า เมื่อก่อนฟินแลนด์ก็เหมือนเราหรือเหมือนหลายๆ ประเทศในโลกที่ใช้วิธีให้คุณครูยืนสอนหน้าชั้น

เขาเพิ่งจะมาเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบบใหม่ที่ว่านี้ เมื่อ ค.ศ.1980 หรือ 2523 ประมาณ 40 ปีที่ผ่านมานี่เอง ปรากฏว่าได้ผลอย่างมหัศจรรย์

ผมไม่มีโอกาสแวะไปดูโรงเรียนของเขา ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่ฟังมาจากท่านทูต และหาอ่านเอง เพราะสนใจเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว

ในรายละเอียดยังมีมากกว่านี้ แต่ผมเลือกหยิบมาเฉพาะประเด็นหลักๆ ที่สวนทางกับบ้านเรา และไม่แน่ใจว่าบ้านเราจะรับได้

โดยเฉพาะกรณีเรียนไปเล่นไป และไร้การบ้าน

ช่วงนี้ผมใกล้ชิดกับเด็กๆ มาก เพราะหลานเลิฟเพิ่งจะ 5 ขวบเต็ม แต่ไปเข้าอนุบาล 3 แล้ว ผมจึงแวะไปรับบ่อยๆ

หลานผมยังแบกการบ้านกลับมาบ้านอื้อ เรียนหนักทั้งคณิตศาสตร์และภาษาไทย+ภาษาอังกฤษด้วย เพราะเป็นโรงเรียนแบบ 2 ภาษา

ถ้าไม่เรียนหนักแบบนี้ พ่อแม่เขาก็กลัวว่าจะต่อที่โรงเรียนนี้ในระดับ ประถมไม่ได้ และถ้าไม่จบจากโรงเรียนนี้เดี๋ยวจะต่อโรงเรียนรัฐบาลดังๆ แถวๆ นั้นไม่ได้ เพราะบ้านเราไม่ใช่ฟินแลนด์นี่นา ที่ทุกโรงเรียนเท่ากันหมด

ผมถึงได้บอกว่าผมไม่ค่อยแน่ใจว่าคนไทยเราจะยอมรับระบบการศึกษาแบบฟินแลนด์ เพราะทุกขั้นตอนของบ้านเรายังเต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างดุเดือดตั้งแต่ประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย

ให้เด็กๆ เรียนไปเล่นไป พ่อแม่ไทยที่กลัวว่าลูกๆ จะแพ้ตั้งแต่ต้นและมักเจ้ากี้เจ้าการในการกำหนดอนาคตลูกๆ อยู่เสมอ จะยอมรับหรือเปล่าก็ไม่รู้ซี?

“ซูม”