“50 ปี” แห่งความหลัง “อพอลโล 11” ลงดวงจันทร์

วันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการส่งยานอวกาศอพอลโล 11 ไปลงดวงจันทร์ ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันทั่วโลกในนามของนาซานั่นเอง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีการจัดพิธีฉลองอย่างเป็นทางการทั้งที่นาซาและในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และอวกาศหลายแห่ง พร้อมๆ กับมีการจัดคอนเสิร์ต จัดปาร์ตี้ และการจัดเดินวิ่งมาราธอนเฉลิมฉลองด้วยในหลายๆ รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา

50 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ ช่วงนั้นผมอายุ 28 ปีเศษๆ เรียนโทอยู่ที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด ใกล้จบแล้วละ

จำได้ว่าคนอเมริกันตื่นเต้นกันทั้งประเทศ เพราะตามลุ้นยานอวกาศอพอลโล 11 ที่ขึ้นจากฐานยิงจรวดที่แหลมเคนเนดี้ ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมของปีเดียวกัน (ค.ศ.1969 หรือ พ.ศ.2512) และเดินทางไปถึงดวงจันทร์โดยวนเวียนไปรอบๆ เรียบร้อย

มีกำหนดการจะส่งยานลูกลงสู่ดวงจันทร์ในบริเวณที่เรียกว่า “ทะเลแห่งความเงียบสงบ” ในวันที่ 20 กรกฎาคมของปีดังกล่าว

ผมจำได้เลาๆ ว่า ยานอวกาศอพอลโล 11 สามารถลงจอดบนพื้นดวงจันทร์ได้ ในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม และจอดอยู่นานหลายชั่วโมง จนกระทั่งดึกพอสมควร นักบินอวกาศ นีล อาร์มสตรอง จึงได้ออกจากยานลูกลงมาย่ำพื้นดวงจันทร์พร้อมกับปักธงชาติสหรัฐฯ เอาไว้

จากนั้นนักบินอวกาศอีกคน เอ็ดวิน “บัซซ” อัลดริน ก็ก้าวตามมาประมาณ 20 นาทีให้หลัง แล้วก็ช่วยกันติดตั้งเครื่องมือสำรวจทางวิทยาศาสตร์อีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะช่วยกันเก็บตัวอย่างหินและดินหนักประมาณ 20 กก.จากดวงจันทร์มาด้วย แล้วขนกลับขึ้นยานลูกไปสมทบยานแม่กลับคืนสู่โลกในที่สุด

รวมเวลาอยู่บนดวงจันทร์ 21 ชั่วโมง 36 นาที

ผมจำได้ว่าตลอดเวลาที่ถ่ายทอดสดมีรายงานข่าวว่าคนอเมริกัน ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทั้งประเทศ ภูมิใจในความสำเร็จครั้งนี้

สำหรับในบ้านเรานั้น ผมมาทราบในช่วงหลังเมื่อมีนักเรียนไทยไปเรียนที่โน่นแล้วคุยให้ฟังว่า พลอยตื่นเต้นไปทั้งประเทศ เช่นเดียวกัน หนังสือพิมพ์พาดหัวยักษ์ทุกฉบับ และมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ด้วย

แต่หลังจากนั้นก็มีการถกเถียงกันอยู่ตลอดว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่? มนุษย์อวกาศสหรัฐฯ ไปเหยียบดวงจันทร์จริงหรือ? หรือที่แท้ก็คือการสร้างภาพยนตร์ในโรงถ่ายแล้วไปออกอากาศทางโทรทัศน์ ทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องจริงจัง

มีการจับผิดต่างๆ เป็นข้อๆ เผยแพร่ไปทั่วโลก มีการตั้งประเด็นเรื่องนั้นเรื่องนี้มาโดยตลอด

ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มจับผิดคนจับผิด โดยงัดหลักฐานออกมาตอบโต้ เพื่อเป็นการยืนยันว่ามนุษย์ได้ไปเหยียบดวงจันทร์มาแล้วจริงๆ

เผอิญผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก็เลยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงตั้งแต่แรก เพราะนาซาคงไม่สามารถโกหกคนอเมริกันทั้งชาติได้แน่นอน

วันนั้นคนอเมริกันดูเหมือนจะนั่งดูการถ่ายทอดสดเกือบทุกครัวเรือน รวมทั้งท่านประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่งในต้นปี 2512 และในวันเดินทางกลับบ้าน ระหว่างมนุษย์อวกาศทั้ง 3 ถูกขังอยู่ในแคปซูลพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่นำเชื้อโรคอะไรกลับมาจากดวงจันทร์ด้วยนั้น ท่านประธานาธิบดีนิกสันได้ไปเยี่ยมทักทายถึงรถกักตัวด้วยซ้ำไป

นักบินอวกาศของอพอลโล 11 นอกจาก นีล อาร์มสตรอง และ บัซซ อัลดริน ที่ลงไปเหยียบดวงจันทร์แล้ว กัปตันที่คุมยานแม่รออยู่ก็คือ ไมเคิล คอลลินส์

บัซซ อายุ 89 ปี กับไมเคิล อายุ 88 ปี ยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน ส่วนนีล อาร์มสตรอง เสียชีวิตไปเมื่อ 7 ปีก่อน

หลังจากอพอลโล 11 แล้ว สหรัฐฯ ได้ส่งอพอลโล 12 ไปลงดวงจันทร์อีกครั้ง แต่พอถึงอพอลโล 13 ก็เกิดเหตุใหญ่ นอกจากลงเหยียบดวงจันทร์ไม่สำเร็จ 3 นักบินอวกาศยังเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ช่วงนี้ผมกลับมาเมืองไทยแล้ว มานั่งแปลข่าวแล้วด้วย มีโอกาสบันทึกประวัติศาสตร์อพอลโล 13 กับเขาด้วยคนหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นประวัติศาสตร์ในการเดินทางไปดวงจันทร์ของมนุษย์แล้ว ยังมีประวัติศาสตร์การทำหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยมาเกี่ยวด้วย

คนแก่ก็งี้แหละ เขียนเรื่องความหลังทีไรมักจบไม่ค่อยลง…ขอต่อพรุ่งนี้อีกวันนะครับ.

“ซูม”