ไปปลอบใจ “สำเพ็ง” เหงาสุด ในรอบ 50 ปี?

อ่านข่าวบ้างดูทีวีบ้าง กรณีสำเพ็งเหงาสุดในรอบ 50 ปี แล้วก็ใจหาย…ในฐานะที่เคยอยู่อาศัยในบริเวณนั้นมาเกือบปี ช่วงมาอยู่กรุงเทพฯ ใหม่ๆ เมื่อ 60 กว่าปีก่อนโน้นเดินทะลุปรุโปร่งตั้งแต่ทรงวาด สำเพ็ง เยาวราช ทะลุไปถึงสะพานหันอยู่เป็นประจำ

ก่อนหน้านี้สัก 2-3 อาทิตย์ได้กระมัง มีพ่อค้าแม่ขายในสำเพ็งโพสต์ภาพคนขายของนั่งหลับลงโซเชียลมีเดียพร้อมกับบรรยายภาพว่า สำเพ็งแย่แล้ว แทบไม่มีคนเดินเลย

กลายเป็นข่าวใหญ่พอสมควรขึ้นมาทันที มีสำนักข่าวหลายสำนักทั้งออนไลน์ สิ่งพิมพ์ และทีวีหลายช่อง ลงไปเจาะข่าวกันใหญ่

อย่ากระนั้นเลยต้องแวะไปดูอาการของ “เพื่อนเก่า” กันซะหน่อยแล้วละ…ว่าพลางผมก็กระโดดลงรถใต้ดินหลังโรงพิมพ์พรวดเดียวไปหัวลำโพงแล้วก็ต่อไปตลาดเก่าเยาวราชปากทางเข้าสู่สำเพ็งในไม่ชักช้า

เที่ยงครึ่งวันอังคารที่ผ่านมานี้เอง บริเวณตลาดเก่าไม่เหงานัก ยังมีผู้คนเดินคึกคัก แม้จะไม่เนืองแน่นเหมือนเมื่อก่อนก็ตาม

เดินเข้าไปในสำเพ็งสำรวจอยู่ 2 รอบ พบว่าก็ยังมีผู้คนเดินไปมาไม่ถึงกับว่างโล่งโจ้ง จนคนขายนั่งหลับเหมือนภาพที่โพสต์ไว้

ฝรั่งมังค่าก็มากันเยอะนับดูด้วยสายตาน่าจะเกิน 40-50 คนเห็นจะได้ในช่วงเวลาที่ผมไปสำรวจ

แต่ในทัศนะของคนสำเพ็งแล้วผู้คนขนาดนี้เขาถือว่าแย่ เพราะในยุครุ่งเรืองนั้น หลังเที่ยงเช่นนี้ผู้คนจะเบียดเสียดกันจนไม่มีที่เดิน

“อาเจ็กดูซีว่าผู้คนน้อยขนาดไหน จากเบียดเสียดเดินแทบไม่ได้เมื่อก่อน ตอนนี้อย่าว่าแต่เดินเลย ถึงจะวิ่งเหยาะๆผ่านไปก็ยังวิ่งได้สบาย”

เด็กหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟทันสมัย ที่ตั้งอยู่หน้าร้านขายของร้านหนึ่งใจกลางสำเพ็งพอดิบพอดี อธิบายถึงภาพที่ผมเห็นอยู่ข้างหน้า

เขาเรียกผมว่า “อาเจ็ก” ซึ่งแปลว่า “คุณอา”

“อะไรไม่อะไร…นอกจากคนน้อยลงแล้ว ส่วนมากที่ยังมาเดินก็มาเดินดูเฉยๆ เสียอีก ไม่ซื้ออะไรเลย คงเป็นเพราะช่วงนี้สำเพ็งเป็นข่าวใหญ่ ผู้คนก็เลยแวะมาดูใจกระมัง” แม่ค้าขายผ้าร้านข้างๆ ที่มาร่วมวงสนทนาด้วย ออกความเห็น

จากการพูดคุยกับเด็กหนุ่มที่มาอาศัยหน้าร้านเตี่ยเปิดขายกาแฟทันสมัย รวมทั้ง “อาเตี่ย” กับแม่ค้าข้างๆ ที่ร่วมวงสนทนาด้วยดังกล่าว ยืนยันชัดเจนว่า สำเพ็งอยู่ในสภาพเหงาที่สุดในรอบ 50 ปีจริงๆ

เสื้อผ้าข้าวของกระจุกกระจิกประเภทที่ระลึกต่างๆ เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ไปจนถึงสมุดดินสอดูขายอืดไปหมด…อืดมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาชัดเจน และอืดมากขึ้นหลังปีใหม่เป็นต้นมา

“ดีว่าเป็นร้านของผมเอง ไม่ต้องเสียค่าเช่า..ไม่งั้นคงอยู่ไม่ได้หรอก” อาเต่ียบิดาของเด็กหนุ่มคนขายกาแฟกล่าวส่งท้าย

กลับมาถึงโรงพิมพ์ผมลองเข้ากูเกิลดูบทวิเคราะห์ต่างๆ ทั้งในเว็บและเฟซบุ๊ก พบว่ามีไม่น้อยทีเดียวที่สันนิษฐานว่า เป็นไปได้ที่สำเพ็ง กำลังเจอ “สึนามิ” จากโลกยุคออนไลน์ เหมือนอย่างห้างใหญ่ทั่วโลกเจอมาแล้ว…นั่นก็คือคนไทยหันมาสั่งของออนไลน์มากขึ้น และออกจากบ้านไปเดินสำเพ็งน้อยลง

แต่ก็มีหลายๆ รายที่เชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่ “รากหญ้า” ไม่มีเงินจะใช้จ่าย…“สำเพ็ง” เป็นต้นธารของ ตลาดนัด สำหรับคนรากหญ้าทั่วประเทศ ซึ่งทุกวันนี้คนขายของตลาดนัดก็บ่นอุบว่าขายไม่ออก

เมื่อตลาดนัดขายไม่ได้ ย่อมกระเทือนมาถึงสำเพ็งซึ่งเป็นแหล่งขายส่งแน่นอน

เหตุผลที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรคงต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป และหวังว่า “รัฐบาลใหม่” ของบิ๊กตู่ จะลงมาหาคำตอบด้วย

ผมละห่วงจริงๆ เพราะทีมเศรษฐกิจเก่าของ “บิ๊กตู่ 1” หลายๆ คนตามมาอยู่กับ “บิ๊กตู่ 2” ด้วย ท่านอาจจะมองแบบเก่าๆ ใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบเก่า ซึ่งก็เห็นแล้วว่าสิ่งที่เกิดก็คือ “รวยกระจุก…จนกระจาย”

เพราะฉะนั้นต้องฝากรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองให้ช่วย “แนะนำ” ทีมงานเศรษฐกิจของบิ๊กตู่ด้วย…ในฐานะที่ท่านมาจากประชาชน และรู้ดีว่าเศรษฐกิจประชาชน เศรษฐกิจรากหญ้า ทุกวันนี้เป็นอย่างไร

อ้อ! ยังไงๆ ก็อย่าลืมมาคุยกับชาวสำเพ็งด้วยนะครับ ท่าน รัฐมนตรีใหม่ทั้งหลายหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่กันเรียบร้อยแล้ว.

“ซูม”