นี่คือ…มนุษย์พันธุ์พิเศษ พบมากในประเทศไทย

ท่านผู้อ่านอย่างน้อย 2 ท่าน เขียนจดหมายมาถึงผมในทำนอง “บ่นให้ฟัง” ว่ารู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อถอย และสิ้นหวังในการทำหน้าที่ในสภาของท่าน ส.ส.ชุดนี้

ได้เห็นลีลาการอภิปราย ได้ฟังคำอภิปราย ได้ดูการประท้วงการยกมือค้าน ซึ่งบางครั้งก็ไร้เหตุผล เพราะค้านทุกเรื่องเอาเป็นเอาตายทุกเรื่องพอๆ กับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งบ่อยครั้งก็ไร้สาระพอๆ กัน

ดูแล้วเห็นแล้วท่านก็เกิดอาการดังที่กล่าวไว้ข้างต้น จนเกิดความวิตกว่าขืนดูต่อไปเรื่อยๆ อาจจะเป็น “โรคซึมเศร้า” ไปเสียอีกคนกระมัง?

ผมโชคดีที่มีโอกาสสัมผัสกับท่าน ส.ส. มาหลายยุคหลายสมัย ทั้งในฐานะข้าราชการที่ต้องไปทำงานร่วมกับนักการเมืองและ ส.ส. รวมทั้งในฐานะของสื่อมวลชนที่จะต้องสัมภาษณ์พูดคุย และคบหานักการเมืองเพื่อประโยชน์ในการทำงานด้านข่าวและบทความที่ผมรับผิดชอบอยู่

ทำให้พอจะเรียนรู้ “เบื้องลึก” ของ ส.ส.แต่ละท่าน จนพอที่จะสรุปได้ว่า ส.ส.ส่วนมากมักจะเป็น “มนุษย์พันธุ์พิเศษ” ที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วๆ ไปโดยเฉลี่ยของประเทศไทย

จึงขออนุญาตที่เขียนเป็นเชิงปลอบใจท่านผู้อ่านทั้ง 2 ท่านนี้และอาจจะเป็นการปลอบใจท่านผู้อ่านจำนวนมากที่เกิดอาการเดียวกัน หลังจากได้ติดตามการประชุมสภานับตั้งแต่เปิดสภาเป็นต้นมา

เหตุที่ผมปักใจเชื่อว่าท่าน ส.ส.ทุกท่านและทุกยุคสมัยเป็น “มนุษย์พันธุ์พิเศษ” ก็เพราะอากัปกิริยา, ลักษณะวิสัย, วิสัยทัศน์, ตลอดจนความประพฤติต่างๆ ของท่านนั่นเอง

เกือบทุกคนจะเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมใครง่ายๆ รวมทั้งเป็นคนที่มีความดุดันและก้าวร้าวอยู่ในตัว ไม่เว้นแม้แต่ ส.ส.สุภาพสตรี ที่โดยทั่วไปดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมไม่พูดไม่จา

แต่พอมีจังหวะมีโอกาสเธอจะใส่อย่างไฟแลบ

สมัยรับราชการผมเคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญไปร่วมพิจารณางบประมาณอยู่ปีหนึ่งและพบว่า ส.ส.หญิงที่สวยงามพูดจาน่ารักมาก เธอหนึ่งออกอารมณ์กราดเกรี้ยว ตอบโต้ ส.ส.อีกฝ่ายที่เข้ามาแตะต้องงบประมาณที่จะลงสู่พื้นที่ของเธออย่างดุเดือด

จ้องตาฝ่ายตรงข้ามแบบถมึงทึงในทำนองเป็นไงเป็นกัน งบฯ ของข้านายอย่าแตะ จนอีกฝ่ายไม่กล้ายุ่งและถอยไปในที่สุด

จากประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ผมเชื่อในทฤษฎีที่ว่าสัตว์โลกต่างๆ แม้ในพันธุ์เดียวกันก็ย่อมจะมีอุปนิสัย และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน

บางตัวดุมาก บางตัวดุน้อย บางตัวไม่ดุเลย บางตัวเห็นคนต้องไล่กัด บางตัวเห็นคนก็แค่เห่า บางตัวเห็นคนแล้วก็วิ่งหนีหางจุกก้น เป็นไปตามธรรมชาติ โดยทั่วไปของสัตว์โลกทุกชนิด

มนุษย์เราก็เป็นสัตว์ประเภทหนึ่งแม้จะเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ก็ย่อมจะมีอุปนิสัยหรือพฤติกรรมของสัตว์ติดตัวมาบ้างไม่มากก็น้อย จึงมีทั้งดุ ไม่ดุ ดุมาก ดุน้อย และขี้กลัว ขี้แยปะปนกันไป

ผมจึงเชื่อว่าใครก็ตามที่ไปเล่นการเมืองไปเป็น ส.ส. น่าจะเป็น “มนุษย์พันธุ์พิเศษ” อีกพันธุ์หนึ่งที่ค่อนข้างดุและไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น

รวมทั้ง ส.ส.ยุคนี้ด้วย ไม่ว่ารุ่นเก๋าหรือรุ่นใหม่ พอเข้าไปเป็น ส.ส. ก็เหมือนกันหมด แสดงความเป็น “พันธุ์พิเศษ” ให้เห็นแทบทุกคน

แม้แต่ ส.ส.เลือดใหม่ๆ ก็แสดงได้อย่างเหลือเชื่อ จนน่าจะสรุปได้ว่าไม่ใช่เป็นโรคติดต่อแน่นอน แต่น่าจะเป็นอุปนิสัยที่อยู่ในตัวเองของแต่ละคนมาแต่กำเนิดดังได้กล่าวไว้แล้ว

แต่ไม่ว่าเขาและเธอเหล่านี้จะมีพฤติกรรมที่น่ารำคาญเพียงไร เราก็ต้องยอมรับว่านี่คือส่วนหนึ่งของความเป็นประชาธิปไตย

เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะเหนื่อยหน่ายขนาดไหนเราก็ควรต้องทำใจยอมอดทนอดกลั้นและยอมรับ “มนุษย์พันธุ์พิเศษ” เหล่านี้

ผมคนหนึ่งละที่จะอดทนอดกลั้นพยายามจะไม่ถือสาพฤติกรรมในสภาของท่าน ส.ส.ทั้งหลาย

แต่ก็คงต้องฝากท่านเอาไว้ด้วยว่า คนที่ไม่อดทน ไม่อดกลั้นและขี้รำคาญนั้นมีมากในประเทศนี้…ยังไงๆ ก็ลดดีกรีในความเป็นสายพันธุ์พิเศษของท่านลงบ้างเด้อ…เราจะได้เป็นประชาธิปไตยกันต่อไปนานๆ.

“ซูม”