เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากเป็นประธานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 34 และแถลงข่าวในวันอาทิตย์เป็นที่เรียบร้อย “บิ๊กตู่” ก็ไปเป็นประธานกล่าวเปิด “CLMVT Forum 2019 : CLMVT as the New Value Chain Hub of Asia” ที่โรงแรมเรเนซองส์ พร้อมกับแสดงปาฐกถาพิเศษให้ด้วย 1 เรื่อง

ชื่อการประชุมครั้งนี้แปลความเป็นไทยๆได้ว่า “CLMVT : ศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่าใหม่แห่งเอเชีย” แสดงถึงความสำคัญของ 5 ประเทศ ตามอักษรย่อดังกล่าวได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ซึ่งจะกลายเป็นฮับ หรือศูนย์รวมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคนี้

กระทรวงพาณิชย์ของไทยเราได้เล็งเห็นความสำคัญของการค้าขาย และการลงทุนในกลุ่ม 5 ประเทศ มานานแล้ว และได้จัดการประชุมในเรื่องที่เกี่ยวกับ CLMVT มาอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3

ในการประชุมสัมมนาครั้งที่ 3 เมื่อวันจันทร์ มีระดับรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นวิทยากรให้หลายท่าน

อย่างของ สปป.ลาว ก็ได้ท่าน เข็มมะนี พลเสนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ มาเป็นผู้บอกกล่าวเล่าสิบถึงศักยภาพและโอกาสของ สปป.ลาว ในยุคนี้และในอนาคต

ของกัมพูชา ก็มีท่าน แพน สรศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้กล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านด้านตะวันออกของเรา ซึ่งก็กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ของไทยเรานั้นก็ได้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการ รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ขึ้นกล่าวแสดงถึงความเติบโตในย่านนี้ และบทบาทของไทยที่จะเดินต่อไปในวันข้างหน้า

ผมไม่ทราบว่าในการรวมตัวจะออกมาในรูปใด เพราะหากจะเป็นองค์กรอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างเป็นทางการเดี๋ยวก็จะไปซ้ำซ้อนกับ อาเซียน หรือไม่? จะกลายเป็นกลุ่มใหม่ซ่อนอยู่ในอาเซียนไปหรือเปล่า?

ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้รวมกันอย่างหลวมๆอย่างรู้ๆกันอยู่ในทีว่า เรา 5 ชาติมีดินแดนติดกัน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานร่วมกัน ความจริงก็ค้าขายกันมาตั้งแต่โบราณกาลโน่นแล้ว ไปมาหาสู่กันตลอด

อาจมีการกระทบกระทั่งโชว์พลังโชว์แสนยานุภาพของผู้นำในอดีตยกพวกเข้าสู้รบกันบ้าง แต่ลงท้ายแล้วก็ต้องหันหน้ามาคบกัน และหาทางช่วยเหลือเจือจานต่อกันอยู่เสมอๆ

ผมโชคดีที่ได้ไปเห็นมาหมดทั้ง 5 ชาติ จากการอนุเคราะห์ของสถานทูตในประเทศนั้นๆ บ้าง จากน้องชายร่วมคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ คุณ สุภชัย วีระภุชงค์ เจ้าของยาแก้หวัด ทิฟฟี่ ที่เข้าไปบุกตลาดอินโดจีน โดยเฉพาะเขมรมากว่า 40 ปีแล้วบ้าง

รวมทั้ง ธนาคารกรุงเทพ ที่ชวนผมไปทอดกฐินและเปิดสำนักงานสาขาที่ย่างกุ้ง และ บริษัท ซีเค.พาวเวอร์ ในเครือ ช.การช่าง ที่ชวนผมไปดูเขื่อน ไชยะบุรี ที่หลวงพระบาง และเขื่อน น้ำงึม ของลาว

ก่อนหน้านี้ก็เคยไป เวียดนาม กับคุณ ประกิต อภิสารธนรักษ์ ที่ไปเปิดบริษัทโฆษณาที่โฮจิมินห์ซิตี้ และมีโอกาสร่วมคณะชุดใหญ่ของ คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล ที่ไปเยือนโฮจิมินห์ซิตี้ เช่นกัน

ได้เห็นภาพ ได้พบกับความประทับใจและดีใจแทนพี่น้องเพื่อนบ้านของเราที่กำลังเจริญเติบโต

ขอสนับสนุนให้ CLMVT เป็นศูนย์รวมของการร่วมค้าร่วมขาย ร่วมเปิดตลาดและการลงทุนระหว่างกันต่อไป โดยยึดหลักโตด้วยกัน เจริญด้วยกัน อย่าไปเอาเปรียบ อย่าไปขูดรีดอะไรเขาเป็นอันขาด

อยู่ที่ไหนก็ให้เขารักอย่างคุณ สุภชัย วีระภุชงค์ ที่คนกัมพูชารักทั้งเมือง และนี่ก็กำลังจะทำให้คนรักประเทศไทย ทั้ง CLMVT ด้วยการจัดโครงการ “ธรรมยาตรา” ไปยังทั้ง 5 ประเทศมา 2 ครั้ง 2 หนแล้ว ในฐานะประเทศเหล่านี้มีประชากรส่วนใหญ่เป็น ชาวพุทธ

ใช้พุทธศาสนาหล่อหลอมผู้คนทั้ง 5 ประเทศเข้าด้วยกัน ประสบความสำเร็จสูงมาก แม้แต่ในเวียดนามซึ่งแม้จะเป็นสังคมนิยม แต่ประชากรของเขาส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาพุทธถึงกว่า 10 ล้านคน

เราเดินมาถูกทางแล้ว ไม่ว่ารัฐบาลหรือภาคเอกชน ในการที่จะร่วมมือกัน 5 ประเทศของกลุ่มเราเหมือนตอนจับมือเพื่อแข่ง “กีฬาแหลมทอง” ในอดีต แต่คราวนี้จะเป็น “ศูนย์กลางห่วงโซ่ คุณค่าใหม่” ของทวีปอาเซียนและเอเชีย ฟังดูขลังกว่ากีฬาแหลมทองหลายเท่า

จับมือให้มั่นไว้และระวังให้ดีๆ อย่าให้คนแดนไกลจาก “ตะวันตก” มายุให้เราแตกแยกทะเลาะเบาะแว้งเหมือนในอดีตก็แล้วกันครับ.

“ซูม”