รมต.ในโควตานายกฯ เลือก “คนผิด” จะ “ติดลบ”

มีรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มาหลายวันแล้วว่า หาก “บิ๊กตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกหน ท่านจะขอโควตารัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คน เอาไว้สำหรับคนสนิทชิดเชื้อของท่าน

ได้แก่โควตาสำหรับ “บิ๊กป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ “บิ๊กป๊อก” พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ท่านแรกมีข่าวว่าจะให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบกับรัฐมนตรีกลาโหม และอีกท่านตามข่าวว่าจะให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตำแหน่งเดิม

การดึงเพื่อนมาช่วยงานในฐานะรัฐมนตรีต่างๆ ของนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหารเคยมีมาแล้วในอดีต และก็เป็นที่ยอมรับทั้งของฝ่ายการเมืองและประชาชนทั่วไปในยุคนั้น

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือในยุคของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษผู้ล่วงลับนี่แหละครับ

เพื่อนสนิทที่ท่านขอให้มาร่วมรัฐบาลของท่าน เท่าที่ผมนึกออกมีอยู่ 3 คนด้วยกัน ได้แก่ พล.อ.ประจวบ สุนทรางกูร, เรืออากาศโท ศุลี มหาสันทนะ และ ร.ต.ท.ชาญ มนูธรรม

พล.อ.ประจวบนั้น ถือเป็นเพื่อนสนิทของป๋าเปรมตั้งแต่เรียนนายร้อย เพราะเที่ยวด้วยกัน กินเหล้าด้วยกัน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันและไม่ทอดทิ้งกัน ไม่ว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งใด

ผมยังจำได้หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ไม่นานนัก พล.อ.ประจวบ สุนทรางกูร ได้รับการแต่งตั้งข้ามห้วยจากทหารเป็นอธิบดีกรมตำรวจ ถือว่าใหญ่โตมาก จัดเลี้ยงให้ท่าน ผอ.กำพล วัชรพล เพื่อนสนิทของท่าน โดยมีนักข่าวนักเขียนไทยรัฐกลุ่มใหญ่ได้รับเชิญไปด้วย ที่บ้านเอกมัย สุขุมวิท

ป๋าเปรมในขณะนั้นเพิ่งจะได้รับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 หมาดๆ มาร่วมงานเลี้ยงด้วย พล.อ.ประจวบยังพามาแนะนำให้นักข่าวไทยรัฐชุดใหญ่รู้จัก พร้อมกับกล่าวว่า “ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะครับ มีอะไรก็ช่วยเขียนแนะนำบ้าง”

ใครจะนึกว่าเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปี…มาถึง พ.ศ.2521 ป๋าเปรมกลับมาได้ไกลกว่า พล.อ.ประจวบ ได้เป็นถึงผู้บัญชาการทหารบก แล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยครั้งแรกในปี 2523

แต่ก็เป็นไปอย่างที่ผมเรียนไว้ตอนต้นว่า เพื่อนคู่นี้ไม่ทิ้งกัน ในยุคที่ใครเป็นใหญ่กว่าก็จะช่วยดูแลคนที่เล็กกว่าอยู่เสมอ ป๋าเปรมก็ตั้ง พล.อ.ประจวบมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย ในรัฐบาลของท่าน ผมจำไม่ได้ว่ากี่สมัย แต่ก็นานพอสมควรทีเดียว

พล.อ.ประจวบที่หนังสือพิมพ์มักเรียก “อาจวบ” เป็นคนเก่ง เป็นนักบริหารที่คมในฝัก ซื่อสัตย์สุจริต ลูกน้องรัก สื่อมวลชนรัก ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย

สำหรับเพื่อนอีก 2 ท่านของป๋าเปรมอันได้แก่ เรืออากาศโท ศุลี มหาสันทนะ และ ร.ต.ท.ชาญ มนูธรรม เรียนหนังสือด้วยกันมาสมัยชั้นมัธยมที่สวนกุหลาบ และยังคบค้ากันอย่างสนิทสนมมาตลอด

เรืออากาศโทศุลี เรียนวิศวะเก่งเรื่องนํ้ามัน เรื่องก๊าซ ป๋าก็ให้เป็นรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีดูแลด้านพลังงาน

ส่วน ร.ต.ท.ชาญ เก่งด้านกฎหมาย เพราะจบธรรมศาสตร์ อาจไม่ถึงขั้น คุณ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ป๋าดึงมาช่วยงานในภายหลัง แต่ก็เชื่อว่าคงจะช่วยป๋าดูแลด้านกฎหมายอยู่บ้าง และคอยช่วยเหลือป๋าในเรื่องทั่วๆ ไปในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและงานหลักคือคุมกรมประชาสัมพันธ์กับ อสมท

สรุปว่า รัฐมนตรีในโควตาเพื่อนป๋าทั้ง 3 ท่าน ตั้งแต่ “อาจวบ” คุณศุลี และ ร.ต.ท.ชาญ วางตัวได้เหมาะสม มีความสามารถในการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดียิ่ง ที่สำคัญมือสะอาด ไม่อื้อฉาว ไม่ทำอะไรให้สังคมไทยเคลือบแคลงสงสัย แต่งตั้งมาแล้วก็ทำให้ป๋าได้คะแนนบวกมากกว่าลบ

ดังนั้น หากบิ๊กตู่จะเชิญชวนพี่ๆ น้องๆ ที่ท่านไว้ใจมาช่วยงานก็คงไม่ผิดประเพณีแต่ประการใด…เพียงแต่ต้องชั่งเอาเองเท่านั้นว่ามาแล้วจะเป็นบวกหรือเป็นลบ

ถ้าจะเป็นลบก็ระวังเอาไว้ด้วย เพราะยุคนี้เป็นยุคประชาธิปไตย แม้จะไม่เต็มใบดีนัก แต่ปากคอนักการเมืองและนักวิจารณ์การเมืองล้วนจัดจ้าน เสียดแทงได้เจ็บๆ…ผมว่าเจ็บกว่ายุคป๋าเปรมเยอะเลยครับ เท่าที่ให้สัมภาษณ์และโพสต์ในโซเชียลกันอยู่เวลานี้.

“ซูม”