คณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงตัวเลขเปอร์เซ็นต์การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม ออกมาเรียบร้อยแล้วว่า ทั้งประเทศไทยมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิล่วงหน้ากว่า 2.6 ล้านคน ออกมาใช้สิทธิถึง 86.98 เปอร์เซ็นต์ หรือปัดเศษให้จำง่ายๆ ก็คือ 87 เปอร์เซ็นต์

น่าจะเป็นการออกมาใช้สิทธิใช้เสียงสูงสุด นับแต่เรามีการเลือกตั้งล่วงหน้ากันมาก็เห็นจะได้

ที่ผมใช้คำว่า “น่าจะ” ก็เพราะพยายามค้นหาเปอร์เซ็นต์การออกมาเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งก่อนๆ แล้ว ปรากฏว่าไม่พบข้อมูลที่มีการรวบรวมไว้อย่างเป็นหลักเป็นฐานแต่อย่างใด

แต่จากประสบการณ์ของผมเองเท่าที่ติดตามการเลือกตั้งล่วงหน้ามาตลอดไม่พบว่า จะมีครั้งใดที่จะมีผู้คนแห่แหนกันไปเข้าคิวตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ มากมายเหมือนกับครั้งนี้

บ้านผมอยู่ใกล้หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิของเขตบางกะปิ เคยไปสังเกตการณ์เมื่อครั้งก่อน พบว่าที่หน่วยนี้จะมีผู้คนไปขอใช้สิทธิล่วงหน้าในจำนวนที่หนาตา และคึกคักมาตลอด

แต่ไม่ว่าหนาตาหรือคึกคักแค่ไหนก็ไม่มีวันเทียบได้กับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่มีผู้ไปใช้สิทธิล่วงหน้ากว่า 5 หมื่นคน ยืนเบียดเสียดเข้าคิวแน่นเอี้ยดที่หน่วยนี้ ตั้งแต่เช้าไปจนถึงเวลาปิดหีบ

ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งชั่วคราวของเขตอื่นๆ ก็แน่นขนัดเช่นเดียวกัน เห็นได้จากภาพถ่ายของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

ทำให้ผมมั่นใจว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้น่าจะเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีผู้ไปใช้สิทธิมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในบ้านเรา เป็นต้นมา

แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากระแส “ความต้องการ” ที่จะเลือกตั้งหรือพูดกันแบบชาวบ้านๆ คือ “ความอยาก” เลือกตั้งของประชาชนชาวไทยงวดนี้มาแรงจริงๆ

หากความแรงของกระแส “ความอยากเลือกตั้ง” ยังไม่ตกเราคงจะได้เห็นคลื่นมนุษย์ชาวไทยแห่ไปใช้สิทธิใช้เสียงในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้อย่างล้นหลามอีกครั้ง

และถ้าหากเปอร์เซ็นต์การไปใช้สิทธิออกมาที่ 87 เปอร์เซ็นต์ เหมือนตอนไปออกล่วงหน้าละก็จะเป็นเปอร์เซ็นต์การใช้สิทธิเลือกตั้งที่สูงที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่เราก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเป็นต้นมาเลยทีเดียว

ในประเด็นนี้ผมมีตัวเลขยืนยันจากที่บันทึกไว้ใน วิกิพีเดีย พบว่า ปีที่คนไทยไปใช้สิทธิมากที่สุดก็คือ พ.ศ.2554 จากผู้มีสิทธิ 46 ล้าน 9 แสนเศษ ออกมาใช้สิทธิถึง 35 ล้าน 2 แสนเศษ คิดเป็น 75.03 เปอร์เซ็นต์

75.03 เปอร์เซ็นต์ที่ว่านี้สูงสุดแล้วครับ ครั้งแรกๆ ตอนมีเลือกตั้งใหม่ๆ แค่ 40-50 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ เท่านั้น เพิ่งจะมาขึ้นหลัก 60 เปอร์เซ็นต์กว่าเมื่อปี 2529 และมาเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปี 2548 นี่เอง แล้วก็อยู่ที่ 70 กว่าๆเรื่อยมาจนถึง 2554 ที่ทำได้สูงสุด 75 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้หากผลการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของคนไทย ในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ออกมาเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ จะเกินเท่าไรก็เถอะ จะเป็น สถิติใหม่ ของประเทศไทยทันที

ดูจากโพลต่างๆ เท่าที่ทำกันมาส่วนใหญ่ประเมินว่า คนไทยจะไปใช้เสียงเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ บางโพลไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์กว่าด้วยซํ้า

คงต้องมาลุ้นกันละครับว่าของจริงจะออกมาอย่างไร? จะเป็นอย่างที่คาดกันไว้หรือไม่? ใจผมน่ะอยากให้เป็นอย่างที่คาดครับ เพราะอยากจะเห็นเปอร์เซ็นต์ทะลุ 80 มานานแล้ว ไม่ต้องถึง 90 อย่างบางโพลหรอก ขอให้ผ่านหลัก 80 เปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน 80 เท่าไร ก็พอใจเท่านั้น

ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไปลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้า แล้วท่านก็ไปลงกันจริงๆ จนได้ 87 เปอร์เซ็นต์อีกครั้ง

เพราะ 87 เปอร์เซ็นต์ที่ท่านทำไว้เนี่ยบวกกับภาพถ่ายคิวยาว ตามหน้า 1 ทุกฉบับและข่าวทีวีทุกช่อง ถือเป็นแรงกระตุ้นที่ดีที่สุดยิ่งกว่าการประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น

ทำให้คนที่ยังไม่ถึงเวลาใช้สิทธิรู้สึกตื่นตัว ตื่นเต้น กระตือรือร้นและรอคอยวันที่ 24 มีนาคม ด้วยความอยากจะไปใช้สิทธิ เช่นพวกท่านทั้งหลายบ้าง ขอบคุณครับ ขอบคุณหลายๆ จริงๆ.

“ซูม”