ต้อนรับ “ไทยลีก” ฤดูใหม่ อย่าลืมคำว่า “แฟร์เพลย์”

ศึกบาสเกตบอล NBA ช่วงที่ 2 เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากพักเบรกให้แฟนๆ ได้สนุกกับออลสตาร์เกม และการแข่งขันเพื่อแสดงความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นอยู่ 4–5 วัน

ก่อนเบรกทีมส่วนใหญ่จะแข่งมาประมาณ 57-58 ครั้ง จึงเหลือเกมที่จะแข่งอีกประมาณทีมละ 24-25 ครั้ง จึงจะครบ 82 ครั้งตามกำหนดการแข่งขันในฤดูกาลปกติ

“จ่าแฉ่ง” คงไม่ลงลึกในรายละเอียดแบบเกาะติดทุกสัปดาห์นะครับในช่วงนี้ เพราะแข่งกันสัปดาห์ละหลายๆ คู่ แถมแข่งกันทุกวัน ไม่ใช่สัปดาห์ละหนเดียวอย่างอเมริกันฟุตบอล

เราจะตามกันไปห่างๆ นะครับ ไว้นานๆ ค่อยสรุปสถานการณ์กันเสียทีนึง แล้วค่อยมาลุยกันอย่างเข้มข้นในช่วง “เพลย์ออฟ” หรือรอบ 2 ดังที่เคยปฏิบัติมาทุกๆ ปี

สำหรับวันนี้ “จ่าแฉ่ง” ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเขียนต้อนรับฟุตบอล “ไทยลีก 1” หรือ โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก…ลีกสูงสุดของฟุตบอลไทย ที่จะเริ่มเปิดฤดูกาล 2019 ในสัปดาห์นี้

คู่ประเดิมสนามเมื่อค่ำวันศุกร์ระหว่าง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ ตราด เอฟซี น่าจะผ่านไปเรียบร้อย ผลเป็นอย่างไรท่านผู้อ่านคงทราบแล้ว

ส่วนการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 23 ก.พ. และวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. ซึ่งจะมีคู่มันๆ หลายคู่ “จ่าแฉ่ง” ก็ถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ติดตามกันตามอัธยาศัย

ใกล้สนามไหนไปดูสนามนั้นนะครับ ไปดูกันให้แยะๆ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทุกๆ ทีม ซึ่งทุ่มเทกันอย่างเหลือเกิน

ข่าวว่าแต่ละทีมจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และสำหรับทีมเอกๆ ประเภท “ท็อป 5” นั้น ข่าวว่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทขึ้นไป

มากที่สุดคือ SCG เมืองทอง ยูไนเต็ดที่มีข่าวว่าใช้เม็ดเงินถึง 400 ล้านบาท

รองลงมาคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี่ก็ประมาณ 300 ล้านบาท

เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมดังของภาคเหนือ มีข่าวว่าใช้ 250 ล้านบาท ใกล้ๆ กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งจะใช้ 250 ล้านบาทเช่นกัน

การท่าเรือ เอฟซี ช่วงแรกมีข่าวว่าจะใช้ประมาณ 200 ล้านบาท แต่ล่าสุดก็มีข่าวเพิ่มเติมว่า “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ พร้อมจะควักสู้ถึง 300 ล้านบาท เพื่อล่าถ้วยให้ได้สักถ้วยในปีนี้

คิดอย่างเร็วๆ แค่ 5 ทีมนี้ ก็ 2,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว รวมที่เหลือทีมละกว่าร้อยล้านบ้าง เฉียดร้อยล้านบ้าง คงไม่ต่ำกว่าอีก 1,000 ล้านบาท รวมทั้งลีกน่าจะ 3,000 ล้านบาทโดยประมาณ

ครับ! ใช้เงินมากมายขนาดนี้เพื่อแลกรางวัลค่าเตะบ้าง ส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ทีวีบ้าง รวมทั้งค่าตั๋วบ้าง ค่าขายเสื้อขายของที่ระลึกบ้าง

ยังไงๆ ก็ขาดทุน

ถามว่าขาดทุนแล้วทุ่มทุนกันทำไม? คำตอบก็เห็นจะมีเพียงคำตอบเดียวว่า เพื่อ “ชื่อเสียง” และ “หน้าตา” ของคนทำทีมนั่นเอง ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้

เข้าทำนอง “ฉิบหายขายตัวไม่ว่า อย่าให้เสียหน้า หรือเสียเกียรติยศชื่อเสียงก็แล้วกัน”

คนทำทีมบอลเกือบทุกคน (คนไทยนะครับ ฝรั่งไม่แน่ใจ) เท่าที่คุยมาเป็นอย่างนี้หมด

เมื่อคนทำบอล หรือนายทุนเจ้าของทีมเขาทุ่มเทขนาดนี้แล้ว พวกเราแฟนบอลก็อย่าลืมเอาใจช่วย หรือสนับสนุนเขาบ้างทั้งทางตรง ทางอ้อมเท่าที่จะสนับสนุนกันได้

ไปดูไปเชียร์ ไปซื้อตั๋ว ไปซื้อเสื้อ ซื้อของที่ระลึกพอให้เขาขาดทุนน้อยหน่อย จะได้อยู่ได้นานๆ ว่างั้นเหอะ

“จ่าแฉ่ง” ขอต้อนรับฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2019 อีกครั้ง…ขอให้เตะกันให้สนุก ขอให้เล่นกันตามกฎกติกามารยาทอย่างเคร่งครัด

จะเอาชนะกันด้วยการใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะคงไม่มีใครว่า ขออย่าใช้วิธีอันไม่ชอบมา พากลสารพัดวิธี โดยเฉพาะวิธีใต้ดินต่างๆ ที่คนไทยถนัดนัก…ก็แล้วกัน.

“จ่าแฉ่ง”