ออนเซนเข็นกระเป๋า “เที่ยวงานวันเด็ก เอ็มควอเทียร์ ZOOVENTURE”

คุณแม่ทำเซอร์ไพรส์พาออนเซนไปเที่ยวงานวันเด็กล่วงหน้าถึง 2 วันติด วันนี้คุณแม่พาไปชมแมลงและสัตว์ในงาน Emporium & Emquatier in Wonderland “ZOOVENTURE” มาค่ะ ออนเซนบอกว่าชอบม๊ากมาก และอยากจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง

งานนี้จัด ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น 5 โซน Helix เพื่อเอาใจเด็กๆ โดยเฉพาะ ไฮไลท์ของงานอยู่ที่การทุ่มทุนสร้างโดมเพื่อนำผีเสื้อตัวจริงหลากหลายสายพันธุ์มาให้ชาวกรุงได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญคือฟรีตลอดงาน (ยกเว้นการให้อาหารสัตว์ จะมีกล่องรับบริจาควางอยู่ค่ะ)

เมื่อมาถึงสวนลอยฟ้า ให้ไปลงทะเบียนบริเวณใกล้ทางเชื่อมไปยังตึกด้านข้าง เพื่อรอเข้าชมโดมนกและผีเสื้อ

โดมแรกคือ “โดมนก” จะมีนกแก้วหลากสีสันรอต้อนรับอยู่ สามารถขอให้เจ้าหน้าที่นำนกมาเกาะที่มือ ไหล่ หรือแขน เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ค่ะ แต่เจ้านกจะชอบบินไปเกาะที่หัวซะมากกว่า โดยเฉพาะเจ้า love bird ที่ชอบจะบินมาเป็นนายแบบให้ เพราะเขาเชื่องและชินกับคนค่ะ

ถัดไปเป็นโซน “Bug a boo dome” ที่จัดแสดงหนอนผีเสื้อและดักแด้ตัวจริงให้เราได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยมีพี่วิทยากรคอยอธิบายรายละเอียด ให้เราเข้าใจถึงวงจรชีวิตของผีเสื้อ ใครอยากจับหนอนผีเสื้อ ดักแด้ หรือแม้กระทั่งตัวผีเสื้อก็ลองจับได้จริงๆ ค่ะ แต่ขอเบามือหน่อยนะคะ

ออนเซนโชคดีมากที่ไปถูกเวลา เพราะเจ้าหน้าที่กำลังนำผีเสื้อมาจัดแสดงเพิ่ม โดยวิธีขนย้ายแบบพิเศษที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง นั่นคือ การพับผีเสื้อไว้ในกระดาษบางๆ แล้วห่อใส่กล่องมาปล่อย ซึ่งออนเซนก็ได้ช่วยพี่ๆ ปล่อยผีเสื้อด้วยค่ะ ระหว่างนั้นก็แอบคิดว่าตัวเองเล่นมายากลอยู่แน่เลย เพราะสามารถเสกกระดาษให้กลายเป็นผีเสื้อได้ด้วย 55

อาจารย์โจ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมลงจากคณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เล่าว่า วงจรชีวิตจากหนอนเป็นดักแด้ใช้เวลาราว 15 – 20 วัน และจากดักแด้กลายเป็นผีเสื้อก็อีก 15 – 20 วัน โดยให้สังเกตว่าตัวหนอนจะถ่ายเหลว ส่วนดักแด้จะหดตัวลง

พอได้ฟังดังนั้นก็อยากจะเห็นโมเม้นท์พิเศษ จังหวะที่หนอนและดักแด้กลายร่าง ซึ่งอาจารย์โจก็ใจดีให้หนอนผีเสื้อมาให้จำนวนหนึ่ง ออนเซนดีใจและตื่นเต้นมากๆ รีบโทรกลับไปหาคุณพ่อ เพื่อเตรียมหาอุปกรณ์ทำบ้านให้ผีเสื้อทันที

พอเข้าไปในโดมก็จะได้เห็นผีเสื้อหลากสายพันธุ์บินไปมาอย่างอิสระ โดยมากจะชอบบินไปเกาะกรง บ้างก็อยู่ตามดอกไม้และต้นไม้ บางตัวบินต่ำจนแทบจะโดนคนเหยียบก็มี เราต้องคอยสังเกตดีๆ นะคะ

ส่วนบนต้นไม้สูงก็จะมีตั๊กแตนรูปแบบต่างๆ จัดแสดงอยู่ด้วย ซึ่งบางตัวก็จับได้ อาทิ ตั๊กแตนกิ่งไม้ออสเตรเลีย (ตัวสีน้ำตาลแห้งๆ) ออนเซนเดินวนเวียนในโดมอยู่หลายรอบเลยค่ะ เพราะชอบมาก

จากนั้นก็ไปชมแมลงในตู้สตาฟ ซึ่งมีทั้งผีเสื้อ ด้วง กว่าง และตั๊กแตน ออนเซนต้องขอให้คุณแม่อุ้มเดินชมถึงจะเห็นค่ะ เพราะจัดแสดงไว้สูงมากจริงๆ

ตรงด้านหน้าลิฟท์แก้วจะเป็นโซน “Exotic Pet Jungle” ที่จัดแสดงสัตว์พิเศษ อาทิ เฟนเน็คฟ็อกซ์ แพรี่ด๊อก หนูเควี หมูแคระ กิ้งก่าเตกู บลูทั้งสกิ้ง (กิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน) กระต่าย เต่า นกแก้ว ไก่ซิลกี้ ไก่โปแลนด์ งู และสล็อตสองนิ้ว เป็นต้น โซนนี้ก็น่าสนใจค่ะ เพราะสัตว์หลายๆ ประเภทก็ไม่ค่อยมีให้ได้เห็นได้ทั่วๆ ไป ก็ได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ เยอะเลยค่ะ

งานดีๆ แบบนี้ออนเซนอยากให้เพื่อนๆ ตามรอยมาเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ จะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม นี้ค่ะ

เกือบลืมบอกไปว่าส่วนอื่นๆ ของห้างก็ยังมีกิจกรรมมากมายเพื่อต้อนรับวันเด็กแห่งชาตินะคะ อาทิ กิจกรรมเรียนรู้ผ่านการเล่นจากหลากหลายแบรนด์ดัง ณ ควอเทียร์ แกลอรี่ และ คิว สเปซ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, สนุกกับการเพ้นท์หน้าและแจกขนม ลูกโป่ง กับขบวนแมสคอท บริเวณ ฮีลิกซ์ ไดนิ่ง ชั้น 9 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ (12:30 น., 14:30 น., 16:30 น. 18:30 น.)

ชมขบวนพาเหรดเหล่าสัตว์และผีเสื้อโดยแสดงเป็นรอบ (เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ 12:00 น., 14:00 น., 17:00 น.) กิจกรรมการกุศล “โครงการพาน้องดูหนัง” ได้ทั้งบัตรดูภาพยนตร์และได้บริจาคเงินให้สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าอีกด้วย

ป.ล. ก่อนกลับบ้านอย่าลืมแวะไปโฉบชมวิวมุมสูงแบบ Bird eye view ที่พื้นกระจกใส ตรงทางเชื่อมไป Escape Bangkok Emquatier ด้วยนะคะ ใครกลัวความสูงก็จะขาสั่นนิดๆ เพราะกระจกใสมากค่ะ

ออนเซนเข็นกระเป๋า