ถ้ารถเมล์ขึ้นค่าโดยสาร ต้องปรับบริการให้ดีกว่านี้

ผมมีความจำเป็นที่จะต้องเขียนต้นฉบับวันนี้ล่วงหน้า หากมีความเปลี่ยนแปลงบางประการทำให้ประเด็นหลักๆ หรือข้อคิดเห็นหลักๆ ของผมที่จะเขียนต่อไปนี้ไม่ตรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่าสุด คงต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ

เพราะผมกำลังจะเขียนถึงข่าวการขึ้นค่ารถเมล์-ค่าโดยสาร บขส. ตามที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับพาดหัวข่าวไว้เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว

เหตุที่ผมต้องออกตัวล่วงหน้า หรือขออภัยล่วงหน้า เพราะมติให้ขึ้นค่ารถเมล์และค่าโดยสาร บขส.ที่ว่าเป็นมติระดับกระทรวงเท่านั้น แม้จะเป็นอำนาจโดยชอบธรรมที่จะดำเนินการได้

แต่ผมยังห่วงว่าผู้ที่อยู่ในระดับหรือตำแหน่งที่สูงกว่ากระทรวงคือรัฐบาล อาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ เพราะเท่าที่ผ่านมาท่านทั้งแจกทั้งแถมอะไรต่อมิอะไรอุตลุด จนโดนพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามออกมาวิจารณ์ว่า “แจกเงินคนจนหาเสียง” ในขณะนี้

ท่านคงไม่อยากให้เสียงที่ท่านพยายาม “หา” มาต้องสูญหาย หรือ “หาย” ไปกับการขึ้นค่ารถเมล์ รถ บขส.อะไรนี่หรอกครับ

สมมติว่ารัฐบาลท่านยอมให้ คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ขึ้นราคาค่าโดยสารต่างๆในวันที่ 21 มกราคม ตามที่เป็นข่าว

ในฐานะคนที่ยังใช้รถเมล์ (สาย 8 ที่ลือกันว่าโหดซะด้วยนะ) อยู่บ่อยๆ แม้จะไม่ทุกวัน ผมกลับเห็นด้วยว่าควรขึ้นราคาบ้างตามเสนอ เพราะดูไปแล้วก็ไม่มากเท่าไรนัก

อย่างรถเมล์ร้อนที่เป็นรถร่วม ขึ้นแค่ 1 บาท จากเดิม 9 บาท เป็น 10 บาท ผมว่าพี่น้องประชาชนน่าจะยอมรับได้

ส่วนในกรณีของรถ ขสมก.รถร้อน ที่จะขึ้นจาก 6 บาท 50 สตางค์ เป็นไม่เกิน 10 บาทนั้น ต้องดูก่อนว่าไม่เกินที่จุดไหน ถ้าเป็น 7 บาท หรืออย่างเก่ง 8 บาท ก็น่าจะยอมรับได้

แต่ถ้าเป็น 10 บาทเลย ก็จะโหดเกินไป เพราะขึ้นพรวดเดียว 3 บาท 50 สตางค์ อย่างนี้ถือว่าขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หนักไปครับ

โดยความเห็นของผมการขึ้นราคาที่เหมาะสมทั้งรถร่วมและรถ ขสมก.เพื่อแก้ปัญหาการขาดทุนเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำ แต่ขอให้มีเงื่อนไขอะไรบางอย่างผูกมัดไว้ด้วย เช่น ในกรณีรถร่วม ควรจะบังคับให้หารถใหม่ๆ มาให้บริการมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็ใช้รถที่ทรุดโทรมเกือบจะเป็นซากรถอยู่มากทีเดียว

และที่ขาดไม่ได้คือการอบรม บ่มนิสัย ให้ทั้งคนขับและพนักงานเก็บตั๋ว มีนิสัยที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน ซึ่งมีการร้องเรียนอยู่เนืองๆ

สำหรับรถเมล์ ขสมก. ประเภทรถร้อน ถ้าขึ้นราคาเมื่อไรก็จะต้องปรับปรุงหลายๆ ด้านเช่นกัน เริ่มจากสภาพรถ ควรจะต้องหารถใหม่มาให้บริการให้มากขึ้น ไม่ใช่ซากรถอย่างทุกวันนี้

นอกจากนี้ก็ควรปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในรถเสียใหม่ เช่น ติดตั้งเครื่องรูดบัตรสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการให้เสร็จเรียบร้อยดูดี และมีรสนิยม อย่าให้เหมือนปัจจุบันที่ติดแบบตามใจฉัน ไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไรนัก

ขณะเดียวกัน ขอให้ถอดจอที่ดูเหมือนจะเป็นเครื่องมือบอกทาง บอกเหตุการณ์ข้างหน้า หรือให้ข้อมูลอะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง ที่ติดอยู่ด้านหลังคนขับออกซะให้หมด

ทุกวันนี้จอยักษ์ดังกล่าวเปรียบเหมือน “เพชรร่วงในสลัม” คือจอสวยมาก ทันสมัยมาก แต่ข้อมูลขยะมาก และอยู่ในซากรถที่โทรมมาก ไม่เหมาะสมเลย ถ้าเป็นไปได้ขอให้ถอดออก พร้อมให้ ขสมก.ทำสัญญาไว้เลยว่า โอกาสหน้าหลังขึ้นราคาแล้วจะไม่มีของเล่นที่สิ้นเปลืองงบประมาณเช่นนี้อีก เพื่อไม่ให้ขาดทุนโดยไม่จำเป็นอีกต่อไป

ระยะหลังผมไม่ค่อยได้ขึ้นรถเมล์แอร์ หรือรถเมล์ปรับอากาศเท่าไรนัก และไม่ได้ใช้บริการของ บขส.ไปต่างจังหวัดด้วย จึงไม่มีความเห็นอะไรกับการขึ้นราคาใน 2 ประเภทที่ว่า

แต่โดยหลักการและหลักคิดทางเศรษฐกิจ ผมเห็นว่าการขึ้นราคาที่สมเหตุผลก็ควรขึ้นได้…ขอเพียงอย่างเดียว เมื่อขึ้นราคาแล้วบริการที่ดีต่างๆ จะต้องตามมาโดยทันที

กลับมาที่ประเด็นรถเมล์อีกครั้ง แม้ผมจะไม่ขัดข้องในการขึ้นราคา แต่ผมก็ยังเดาว่ารถเมล์ หรือ บขส. อาจไม่ได้ขึ้นราคา

คราวนี้…บอกแล้วไงว่า จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ และรัฐบาลนี้ท่านก็มีพรรคตัวแทนไปหาเสียงซะด้วย ท่านคงไม่ยอมเสียคะแนนเสียงง่ายๆ หรอกน่า.

“ซูม”