“มันนี่ชาแนล”+“คิวทอง” เข้าคิว “ปิดตำนาน” เรียบร้อย

ข่าวร้ายของวงการสื่อสารมวลชนยังคงทยอยเกิดขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากข่าวร้ายเล็กๆ ช่องทีวี Money channel ว่าด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ จะลาจอทรูวิชั่นส์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป

ตามมาด้วยข่าวที่ไม่เล็กนักว่า “ช่อง 3” ช่องทีวีที่เคยยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแผ่นดิน เตรียมปลดคนงานจำนวนหนึ่ง

แต่ข่าวนี้มีการชี้แจงเพิ่มเติมว่า ไม่ใช่การปลดเป็นแค่การปรับโครงสร้างเสนอทางเลือกในการเกษียณให้แก่พนักงานที่อายุเกิน 60 ปี จำนวนหนึ่งแบบจูงใจก่อนจากเสียมากกว่า

ซึ่งจะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่เถอะ ลงท้ายก็คงจะต้องมีผู้คนจำนวนหนึ่งออกจากงานอยู่ดี

แล้วก็มาถึงข่าวเล็กๆ อีกข่าว มีหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ลงเพียงไม่กี่สำนักได้แก่ข่าว “ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา? ปิดตำนาน 33 ปี นิตยสารคิวทอง”

ที่เป็นข่าวเล็ก เพราะเป็นนิตยสารเล็กๆ ฉบับหนึ่ง ซึ่งรู้จักและพูดถึงกันอยู่ในแวดวงข่าวกีฬาเท่านั้น และก็เป็นข่าวกีฬาที่มีแฟนเฉพาะกลุ่มกลุ่มหนึ่งไม่ใช่กีฬามหาชนแบบ “ฟุตบอล” หรือบาสเกตบอลหรือกรีฑา ฯลฯ…เพราะนี่คือนิตยสารของกีฬา “สนุ้กเกอร์”

แต่สำหรับผมการปิดตัวเองของ “คิวทอง” ถือเป็นข่าวใหญ่มาก เพราะเจ้าของหนังสือเป็นเพื่อนผมเอง และเป็นผู้เชี่ยวชาญกีฬาสนุ้กเกอร์ระดับ “กูรู” คนหนึ่งของประเทศไทย

ศักดา รัตนสุบรรณ คือกูรูสนุ้กเกอร์ของประเทศไทยคนที่ว่า ซึ่งผมกับเขารู้จักและคบหากันมา 48 ปีเต็มๆ เข้านี่แล้ว

เรารู้จักกันที่หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย เมื่อ พ.ศ.2513 ผมเป็นพนักงานแปลข่าวต่างประเทศ ในขณะที่เขาเป็นนักข่าวประจำหน้าข่าวกีฬา

ช่วงนั้น “สนุ้กเกอร์” ยังไม่ถือเป็นกีฬาและสำหรับสังคมไทยแล้วถือว่าเป็นแหล่งมั่วสุม แหล่งการพนัน หรือแหล่งไม่ดีไม่งามไม่เหมาะสำหรับเยาวชนจะเข้าไปในร้านสนุ้กเกอร์ด้วยซํ้า

ยังไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับใดนำเสนอข่าวสนุ้กเกอร์ รวมทั้งพิมพ์ไทยด้วย ดังนั้น แม้ ศักดา รัตนสุบรรณ จะมีความสามารถพิเศษประจำตัว คือ เล่นสนุ้กเกอร์เก่งมากระดับเซียน สามารถเดินสายกวาดเงินเดิมพันมาแล้วทั่ว กทม.และต่างจังหวัด แต่ก็มาทำหน้าที่ในการหาข่าว และรายงานข่าวกีฬาทั่วไปเช่นเดียวกับนักข่าวกีฬาคนอื่นๆ

ต่อมาพิมพ์ไทยปิดตัวเองไปพวกเราก็โยกย้ายไปทำงานตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ…ผมมาอยู่ไทยรัฐ ศักดาไปอยู่ข่าวกีฬาเดลินิวส์ และเนื่องจากผมลงไปช่วยข่าวกีฬาไทยรัฐด้วย จึงยังมีโอกาสได้พบปะศักดาอย่างสม่ำเสมอ ในสนามมวยบ้าง สนามฟุตบอลบ้าง

จนในที่สุดก็มาถึงยุคกีฬาสนุ้กเกอร์เฟื่องฟู โดย ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ไปสร้างชื่อเสียงติดอันดับโลกที่อังกฤษ คนไทยหันมาฮิตสนุ้กเกอร์ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันสนุ้กเกอร์และบิลเลียดก็ได้รับการยอมรับให้เป็นกีฬาเข้าแข่งขันในเอเชียนเกมส์ ในซีเกมส์ ทำให้หนังสือพิมพ์ต่างๆ มีการนำเสนอข่าวกีฬาสนุ้กเกอร์ด้วย

ทำให้ ศักดา รัตนสุบรรณ มีโอกาสได้ใช้ความสามารถพิเศษของเขาในฐานะนักสนุ้กระดับเซียนมาใช้ในการเขียนข่าวและเป็นผู้บรรยายการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ จนเป็นที่ยอมรับกันทั้งประเทศ

ขณะเดียวกันศักดาซึ่งใช้นามปากกา “คิวทอง” อยู่ด้วย ก็ออกนิตยสารสำหรับแฟนสนุ้กเกอร์ขึ้นฉบับหนึ่ง ใช้ชื่อ “คิวทอง” เช่นกัน เริ่มจากรายปักษ์แล้วเป็นรายเดือนจากปี 2528 จนถึงปีนี้ 2561

ได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ สนุ้กเกอร์อย่างอบอุ่น แม้จะไม่ขายดีอะไรมากนัก แต่ก็มีรายได้เลี้ยงตัวได้ จนมีโอกาสได้ฉลองอายุครบ 30 ปี เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ที่ ภัตตาคารโฮคิทเช่น

ผมยังไปร่วมฉลอง 30 ปีกับเขาด้วย ดังนั้น เมื่อได้อ่านข่าวเจอว่านิตยสาร “คิวทอง” ประกาศปิดตัวเองจากนิตยสารเล่ม แต่จะแปลงร่างไปเหลือเพียงเป็น เว็บไซต์ ทางออนไลน์เท่านั้น ก็รู้สึกใจหาย และถือเป็นข่าวใหญ่ของผม ดังได้กล่าวไว้แล้ว

ทุกวันนี้กีฬาสนุ้กเกอร์ยังสนุกอยู่เลย บ้านเรามีดาวรุ่งเกิดใหม่หลายๆ คนที่เมืองจีนก็ฮิตมากจัดแข่งขันรายการใหญ่ๆเสมอทางโทรทัศน์

แต่ก็จะไม่มีนิตยสาร “คิวทอง” คอยทำหน้าที่รายงานทำหน้าที่เสนอความเคลื่อนไหวอีกแล้ว…ผมจึงขออำลาอาลัยไว้ ณ ที่นี้

นี่จะต้องอาลัยฉบับไหนอีกก็ไม่รู้…คงไม่ใช่สุดท้ายหรอก แม้จะหายไปครึ่งแผงแล้วก็ตาม คงต้องมีมาอีกแน่ๆ เร็วๆ นี้…เฮ้อ!

“ซูม”