ได้เวลา “เฉลิมฉลอง” เทศกาลสายน้ำทั่วไทย

ดังที่ผมเขียนเกริ่นไว้บ้างแล้วว่า ผมได้รับเอกสารและข่าวสารเกี่ยวกับการจัดงาน “ลอยกระทง” ประเพณีและวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของพวกเราชาวไทยจำนวนมากคงจะต้องขอเวลาและขอโอกาสเขียนสรุปลงสักวันหนึ่ง

วันนี้คงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพราะเป็น “วันสุกดิบ” ก่อนวันลอยกระทง ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 12 หรือวันพรุ่งนี้แล้วละครับ

ที่เปิดงานไปเรียบร้อยแล้วอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย ครับ เจ้าตำรับงาน “ประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ” ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง โดยจะมีงานไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย. เป็นวันสุดท้าย

ส่วนที่ จังหวัดตาก งาน “ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง” เริ่มแล้วตั้งแต่ 18 พ.ย. และจะมีจนถึงวันที่ 22 พ.ย. ในขณะที่งาน “ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่” ซึ่งจะมีขบวนแห่โคมยี่เป็งและกระทงล้านนาพร้อมด้วยการประกวดเทพียี่เป็ง อันเป็นงานเก่าแก่ของเชียงใหม่ จะเริ่มวันนี้ (21 พ.ย.) จนถึงวันศุกร์ (23 พ.ย.)

นอกจากจังหวัดทางภาคเหนือแล้ว ภาคอีสาน ก็มีจัดทุกจังหวัด แต่ที่ส่งข่าวมาให้ผมช่วยประชาสัมพันธ์ให้ได้แก่ ร้อยเอ็ด ที่จะจัดงาน “ประเพณีสมมานํ้าคืนเพ็ง เส็งประทีป เมืองร้อยเอ็ด” พรุ่งนี้ (22 พ.ย.) วันเดียวที่ บึงพลาญชัย

ลงมาถึงภาคกลางกันบ้าง…ซึ่งก็คงต้องแวะจังหวัดอยุธยา โดยเฉพาะที่ ศูนย์ศิลปาชีพฯ บางไทร ก่อนอะไรทั้งหมด เพราะมีการจัดงานใหญ่ทุกปี ในชื่องาน “ลอยกระทงตามประทีป” และปีนี้เริ่มมาแล้วตั้งแต่ 16 พ.ย. ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ย.

ส่วนของภาคใต้ก็จัดหลายจังหวัดอีกน่ะแหละ ขอเอ่ยถึงสั้นๆ เป็นตัวอย่างก็แล้วกัน ได้แก่ “งานลอยกระทง ม.อ.” ของอำเภอหาดใหญ่ สงขลา ที่จะเข้าไปจัดร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีวันพรุ่งนี้ 22 พ.ย. วันเดียว คนหาดใหญ่ห้ามพลาดนะครับ

ทีนี้ก็มาถึงการจัดงานใน กรุงเทพมหานคร ละครับ ซึ่งก็มีทั้งงานใหญ่และงานเล็กๆ กระจายตามสวนสาธารณะ และตามแหล่งนํ้าต่างๆ

แต่ที่ผมจะเขียนเน้นให้น้ำหนักมากหน่อย เพราะอยากให้ไปเที่ยวกันมากๆได้แก่งาน “River Festival 2018” หรืองาน “สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ที่ปีนี้จะจัดเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน หลายๆ หน่วย โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ขันอาสาเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ ก็คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นั่นเอง

งาน เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (21 พ.ย.) ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 24 พ.ย. ในชื่องานว่า “สุขแสงศิลป์…9 ท่าน้ำร่วมสมัย” สื่อความหมายว่าจะมี “ท่าน้ำ” หน้าวัดและแหล่งการค้าต่างๆ เข้าร่วมถึง 9 แห่งด้วยกัน เพิ่มขึ้นจากปีกลาย 1 หรือ 2 ท่า เป็นอย่างน้อย

เริ่มจากวัดที่เป็นหลักของโครงการ 4 วัด ยังเหมือนเดิม ได้แก่ วัดพระเชตุพนฯ, วัดอรุณราชวรารามฯ, วัดกัลยาณมิตร, วัดประยุรวงศาวาสฯ ส่วน ท่าเรือ และ ศูนย์การค้า ที่ร่วมโครงการมาตั้งแต่ปีแรกๆ 3 แห่ง ก็ยังเหมือนเดิม ได้แก่ เอเชียทีค, ท่ามหาราช และ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก

ตามมาด้วย 2 ท่าใหม่อย่าง “ล้ง 1919” และท่าใหม่เอี่ยมอ่อง ล่าสุด “ไอคอนสยาม” ที่เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อไม่นานนี่เอง

หลักการยังเหมือนเดิมครับ คือ มีการจัดแสดงทางศิลปวัฒนธรรม การจำหน่ายสินค้าชุมชน และการเปิดให้เคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดวาอารามต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการอย่างทั่วถึง

โดยทางคณะผู้จัดการงาน ซึ่งมีไทยเบฟฯ เป็นแม่งานใหญ่ จะจัด เรือโดยสารฟรี ให้บริการแก่ผู้ที่จะเดินทางไปตามท่าน้ำต่างๆ ทั้ง 9 ท่า ทุกๆ 20 นาทีบ้าง 30 นาทีบ้าง ตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 22.30 น. โปรดติดตามรายละเอียดได้ในระดับพื้นที่อีกครั้ง

ครับ! เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าจะมีการจัดงานลอยกระทงขึ้นทั่วทุกจังหวัดทุกอำเภอในประเทศไทย ที่ผมคัดลอกนำมาลงในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่สามารถจะนำลงได้ทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้จึงต้องขออนุญาตประชาสัมพันธ์แบบรวมๆโดยขอเชิญท่านผู้อ่านทั้งหลายไปร่วมงานตามที่มีการจัดขึ้นในทุกแห่งทุกที่อย่างพร้อมเพรียงกันด้วยนะครับ เพื่อจรรโลงและสืบสานวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของเราให้ยั่งยืนไปตราบนานแสนนาน.

“ซูม”