เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองที่ควรต้องไปสักครั้ง

ดังที่ผมเขียนเกริ่นไว้ในคอลัมน์เหะหะพาทีแล้วว่าผมแว่บไปรัสเซียมา 7 วัน โดยพักอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 4 วัน และมอสโก 3 วัน ถือว่าไปถึงเมืองรัสเซียเรียบร้อยแล้ว

เหตุเพราะผมได้ดูทั้งวังและวัด หรือโบสถ์จำนวนมาก โดยเฉพาะวัง หรือพระราชวัง รวมแล้ว 4 วัง ส่วนวัด หรือโบสถ์ประมาณ 6-7 แห่ง

ที่รัสเซียไม่มีอะไรอย่างอื่นจะให้ “ถึง” เหมือนประเทศอื่นๆ นอกจากวังและวัดอย่างที่ว่า ฉะนั้น การที่ผมได้ไปดูวัดดูวังเป็นจำนวนมาก ดังที่เล่าไว้แล้วจึงถือว่าเป็นการไป “ถึง” รัสเซียโดยสมบูรณ์ทุกประการ

เมืองแรกที่คณะของผมไปพักก็คือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ครับ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย มีประชากรประมาณ 5 ล้านคน เป็นเมืองหลวงเก่าของรัสเซีย อยู่ติดกับทะเลบอลติก จึงเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ทะเลคล้ายๆกรุงเทพมหานครของเรานี่แหละ

แรกเริ่มเดิมทีรัสเซียเขาก็ก่อร่างสร้างตัวและเริ่มต้นสร้างประเทศโดยมีมอสโกเป็นเมืองหลวงแรก และเป็นมาหลายร้อยปี จนถึงราวๆ ค.ศ.1700 โดยประมาณ พระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช กษัตริย์สำคัญพระองค์หนึ่งจึงได้ขยับขยายย้ายเมืองหลวง มาอยู่ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งอยู่ติดกับทะเลเพื่อให้รัสเซียมีทางออกทางทะเลอีกทางหนึ่ง

จากนั้นเป็นต้นมา เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็กลายเป็นเมืองหลวงใหม่ของรัสเซีย และเป็นมาถึงกว่า 200 ปี มีพระมหากษัตริย์ปกครองอีกหลายพระองค์ จนถึง พระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 ที่ทรงเป็นพระสหายของในหลวงรัชกาลที่ 5 และมีพระมหากรุณาธิคุณทางอ้อมแก่สยาม ด้วยการฉายภาพคู่กับรัชกาลที่ 5 ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ในยุโรป เป็นผลให้เราสามารถเอาตัวรอดจากนักล่าเมืองขึ้นมาได้ ดังที่ผมเล่าไว้แล้ว

ด้วยเหตุที่มีพระมหากษัตริย์มาปกครองที่เมืองนี้หลายพระองค์และเป็นยุคที่รัสเซียรุ่งเรืองเต็มที่ จึงมีการสร้างเมือง สร้างวัง และสร้างโบสถ์ต่างๆ มากมายหลายแห่ง

มีทั้ง พระราชวังฤดูหนาว อันยิ่งใหญ่อลังการที่มีห้องต่างๆ ถึง 1,050 ห้อง และมีการเก็บสะสมงานศิลปะ ต่างๆ เอาไว้มากมาย จนมีคำกล่าวกันว่า หากเดินดูทุกห้อง และชมศิลปะทุกรูป รูปละ 1 นาที อาจต้องใช้เวลานานถึง 5 ปีจึงจะดูครบทุกรูป และทุกชิ้น

พระราชวังฤดูหนาวที่ว่านี้ตั้งอยู่ในใจกลางเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเลยทีเดียว คณะของผมไปพักที่โรงแรมใกล้ๆพอดิบพอดี สามารถเดินมาดูชมด้านนอกได้ด้วยระยะเดินไม่เกิน 5 นาทีเป็นอย่างมาก รวมทั้งในวันก่อนกลับก็เข้ามาแวะเดินดูบางส่วนของพระราชวัง ต้องยอมรับว่า ยิ่งใหญ่อลังการสมคำร่ำลือทุกประการ

นอกจากนี้ ก็ยังมีพระราชวังฤดูร้อนที่เรียกว่า Ekaterina Palace ซึ่งอยู่ที่เมืองพุชกิน ห่างจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไปสัก 30 กิโลเมตร เห็นจะได้ เป็นพระราชวังที่สร้างโดยพระนางแคทเทอรีน มหาราช ใช้ทองคำกว่า 100 กิโลกรัมในการตกแต่งจนได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นพระราชวังที่หรูหราที่สุดในรัสเซีย

อีกหนึ่งพระราชวังที่คณะของผมไปเยือนก็คือ พระราชวัง เปโตร โวเรทส์ (Petrod vorets) หรือพระราชวัง ปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof) ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของ พระเจ้าปีเตอร์ มหาราช ตั้งอยู่ในอุทยานริมแม่น้ำเนวา และด้านหนึ่งติดกับชายทะเลบอลติก

เป็นพระราชวังที่นักท่องเที่ยวไทยต้องไปเยือนให้ได้ เพราะนอกจากจะสวยงามทั้งบริเวณพระราชวังและการประดับประดาด้วยน้ำพุรอบๆ พระราชวังที่งดงามอย่างมากแล้ว…นี่ยังเป็นวังที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ของเราประทับเมื่อครั้งเสด็จเยือนรัสเซีย เมื่อ พ.ศ.2440 และได้รับการต้อนรับจากพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 อย่างสมพระเกียรติ ในพระราชวังแห่งนี้

ผมไปถึงพระราชวังแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ เพราะมีทัวร์จีนนับพัน (ที่มีข่าวว่าหายไปจากเมืองไทยแต่ไปโผล่ที่โน่นแทน) ยืนเข้าคิวรออยู่ ขณะเดียวกันก็มีพิธีการอะไรบางอย่างในพระราชวังในวันนั้นด้วย ทำให้พวกเราจะต้องรอเป็น 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

แม้ผมจะมิได้เข้าชมในวังแห่งนี้ แต่ก็ได้เดินชมรอบๆ และเดินลงบันไดอันสวยงามไปยังสวนปีเตอร์ฮอฟ ที่อยู่ด้านล่างยาวเหยียดไปถึงชายทะเล นับเป็นสวนชายทะเลที่งดงามมากอีกสวนหนึ่ง

ระหว่างเดินไปผมก็นึกภาพจินตนาการย้อนอดีตไปว่า บริเวณต่างๆ รอบๆ นี้คงจะเป็นบริเวณที่ในหลวง ร.5 ของเราและข้าราชบริพารที่ตามเสด็จยุคโน้นได้เสด็จผ่าน หรือเดินผ่านมาแล้วอย่างแน่นอน

สำหรับงานเลี้ยงต้อนรับในหลวง ร.5 ของเราที่นี่มีบันทึกว่า เป็นงานพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่มาก สมพระเกียรติมาก และมีบันทึกด้วยว่า พระพุทธเจ้าหลวงประทับอยู่ที่นี่ถึง 11 วัน

นอกจากพระราชวังทั้ง 3 แห่งนี้แล้วระหว่างนั่งรถไปตามที่ต่างๆ ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คณะของผมก็ยังผ่านตึกสำคัญแห่งหนึ่งใกล้ๆ พระราชวังฤดูหนาว หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งได้รับการบรรยายจากไกด์ว่า ส่วนหนึ่งของอาคารแห่งนี้แหละที่เป็นสถานที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ พระราชโอรสของในหลวงรัชกาลที่ 5 ระหว่างเสด็จไปศึกษาวิชาการทหาร ณ ประเทศรัสเซีย ตามคำทูลเชิญของพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2441

ทำให้ตลอด 3 วันเต็มๆ ที่ผมอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีโอกาสได้นึกถึงประวัติศาสตร์เก่าๆ นึกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระมหากษัตริย์ไทยกับกษัตริย์รัสเซียเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา

ใครไปรัสเซียอย่าพลาดเมืองนี้เป็น อันขาด…เป็นเมืองที่สวยงามมาก ตึกสูงไม่เกิน 5 ชั้น เพราะอนุรักษ์ของเก่าไว้ตามพระประสงค์ของกษัตริย์รัสเซียโบราณ

นั่งรถไปรอบๆ เมืองอย่างเดียวเห็นพระราชวัง เก่าๆ เห็นตึกเก่าๆ เห็นแม่นํ้าอยู่รอบๆ และไปไกลหน่อยก็เห็นทะเล และหากอ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ไปบ้าง ก็จะทำให้นึกภาพตามไปด้วยว่า “เจ้านาย” ของเราเคยเสด็จหรือเคยประทับ ณ จุดนั้น จุดนี้ ทำให้การเที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น

ก็เลยต้องขอแนะนำว่า ไปรัสเซียทั้งทีต้องไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กให้ได้…เพื่อให้ถึงรัสเซียอย่างสมบูรณ์.

“ซูม”