เรื่องเศร้าๆยังไม่หมด จากขุนเขาถึงท้องทะเล

เพื่อนผมรายหนึ่งโทร.มาหาตอนสายๆวันศุกร์ที่แล้ว ชวนคุยถึงข่าวเศร้าๆที่เกิดขึ้น และเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เช้าวันเดียวกัน

“ซูม…เมืองไทยตอนนี้ดวงไม่ดีเลยนะ เรื่องๆของเด็กๆหมูป่า 13 คนที่เชียงรายเพิ่งจะมีข่าวดีว่าเจอตัวแล้วยังมีชีวิตอยู่ครบถ้วน แต่ติดปัญหาว่าจะช่วยออกมาได้อย่างไร”

“วันนี้เองมีข่าวว่าหน่วยซีลที่ดำนํ้าไปช่วยเหลือเด็กรายหนึ่งต้องเสียชีวิตลงหลังจากดำนํ้า…เราฟังข่าวแล้วก็ใจหาย”

“นายต้องช่วยเชียร์ให้กำลังใจหน่วยซีลที่เหลืออยู่ด้วยนะ…และสำหรับท่านที่เสียชีวิตก็ขอให้เขียนขอบคุณเขาด้วย เขามีนํ้าใจเหลือเกิน เสียสละเหลือเกิน อย่าให้สังคมไทยลืมเขานะ”

“อ้อ! แล้วนี่ก็อีกเรื่อง…หนังสือพิมพ์เช้าวันนี้เอง รายงานว่าเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ตพบศพแล้ว 30 ศพ สูญหายอีก 20 คน อ่านแล้วก็เศร้าจริงๆ สงสารญาติมิตรรวมทั้งตัวผู้เสียชีวิตที่ตั้งใจจะมาหาความสุขในบ้านเรากลับมาพบกับความเศร้าที่คาดไม่ถึง”

“เรื่องนี้ก็เหมือนกัน เราเป็นห่วงว่าจะกระเทือนถึงการท่องเที่ยวที่กำลังเป็นรายได้หลักของบ้านเรา…นายจะต้องเขียนกระตุ้นรัฐบาลไทยให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยนะในเรื่องนี้”

ผมรับปากเขาว่าจะเขียนถ่ายทอดข้อปรับทุกข์ของเขาผ่านคอลัมน์นี้ เพราะในหลายช่วงหลายตอนที่เขาพูดไว้ก็พอจะถือได้ว่าเป็นข้อคิดความเห็น เป็นอารมณ์เป็นความรู้สึกที่สามารถฝากไปถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข่าวเศร้าทั้ง 2 ข่าวได้อยู่แล้ว

ผมเห็นด้วยกับคำปรารภของเพื่อนครับ และต้องยอมรับว่าเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเป็นวันที่ผมรู้สึกห่อเหี่ยวใจอยู่พอสมควรเช่นกัน

ทั้งในกรณีการเสียชีวิตของ จ.อ.สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลที่ออกจากราชการทหารเรือ ไปปฏิบัติงานอย่างอื่นแล้ว แต่ก็ยังขันอาสากลับไปใช้ความรู้ความสามารถของเขาที่จะช่วยเหลือเด็กๆที่ติดอยู่ในถ้ำ

ผมขอร่วมไว้อาลัยและขอขอบคุณจ่าเป็นอย่างยิ่งไว้ ณ ที่นี้

รวมทั้งต้องขอขอบคุณหน่วยงานต้นสังกัดปัจจุบันของจ่าด้วย…ได้แก่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่จ่าทำงานในฐานะ รปภ.พิเศษของสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในขณะนี้ที่จะมีการดูแลและเยียวยาครอบครัวของ จ.อ.สมานต่อไป

คนดีมีน้ำใจเช่นจ่าสมานสมควรที่จะได้รับการตอบแทนดังที่ต้นสังกัดของเขา และหลายๆฝ่ายได้แสดงออกในขณะนี้

ส่วนกรณีเรือล่มที่ภูเก็ตจนนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจำนวนมากนั้น ก็เป็นเรื่องเศร้าสะเทือนใจอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเสียใจที่ผู้คนจำนวนมากจะต้องมาเสียชีวิตในบ้านเราแล้ว ผมก็ยังห่วงกังวลเหมือนที่เพื่อนผมห่วงว่านักท่องเที่ยวจะหวาดกลัวไหม และจะมาเมืองไทยน้อยลงไหม?

ผมคิดว่าในระยะสั้นๆ น่าจะมีอยู่บ้าง เพราะการจะไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งแล้วมีความรู้สึกว่าที่นั่นไม่ปลอดภัย ผู้คนก็มักจะหวาดกลัวล่วงหน้า ยิ่งในช่วงที่มีข่าวเกิดขึ้น ก็จะยิ่งวิตกมากกว่าปกติ

ทางที่ดีที่สุดก็คือ เราจะต้องช่วยค้นหาผู้ประสบเหตุให้รวดเร็วที่สุด และเมื่อพบผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ควรให้การดูแลญาติมิตรของเขาที่จะมารับศพให้ดีที่สุด

ทำอะไรก็ได้ให้เขาแน่ใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ และเราเสียใจและพร้อมที่จะรับผิดชอบเท่าที่จะทำได้

ผมก็คงจะเขียนให้กำลังใจหลายๆท่านที่รู้สึกห่อเหี่ยวใจในช่วง 2-3 วันนี้ ได้เพียงเท่านี้ เพราะตัวเองก็มีความรู้สึกที่อยากจะได้กำลังใจอยู่เหมือนกัน

พระท่านสอนไว้แล้วว่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วขอให้แก้ไขให้ดีที่สุด เตรียมตัวเผชิญและตั้งรับเหตุการณ์ด้วยสติและปัญญา…ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปเอง

ต้องยอมรับว่าในแต่ละปีของบ้านเราก็มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายสลับกันไป…ช่วงนี้มีข่าวร้ายเยอะหน่อยก็ต้องทำใจ และตั้งสติอย่างที่พระสอนไว้ อีกไม่ช้าก็คงจะมีข่าวดีมาชดเชยบ้างละน่า

ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆฝ่าย ไม่ว่ารัฐบาล ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ ตลอดจนอาสาสมัคร และจิตอาสาทั้งหลาย ที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ทั้งที่ถ้ำหลวง เชียงราย และในท้องทะเลภูเก็ต จากเหนือสุดสู่ใต้เกือบสุดในขณะนี้.

“ซูม”