คอลัมน์ “เบื้องลึกบอลโลก” วันนี้ขอเริ่มต้นด้วยการกล่าวแสดงความยินดี หรือ Congratulation แด่ทีม “สิงโตคำราม” อังกฤษ ก่อนอื่นใดทั้งหมด
ยินดีสำหรับการผ่านเข้ารอบอย่างราบรื่นและเรียบร้อยโรงเรียนไฮสกูล ด้วยการไล่ตะปบทีม ปานามา ไปอย่างยับเยินถึง 6 ประตู ต่อ 1 ในการแข่งขันเมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย
ถือเป็นการยิงประตูได้สูงสุดถึง 6 ประตู ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ เฉือน รัสเซีย ที่ยิง ซาอุดีอาระเบีย ไป 5 ประตู (5-0) และ เบลเยียม ที่กระหน่ำตูนิเซียไป 5 ประตู (5-2) ได้ 1 ประตู
อีกทั้งยังเป็นผลการแข่งขันที่อังกฤษชนะคู่ต่อสู้ ได้มากที่สุดใน 1 แมตช์ สำหรับการแข่งขันในระดับ เมเจอร์ ทัวร์นาเมนต์ อันได้แก่ ฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก ซึ่งประกอบด้วยคู่แข่งขันสุดหิน
สำหรับพระเอกของสิงโตคำรามในค่ำคืนนี้ จะเป็นใครไปเสียมิได้ นอกจากกัปตันทีม แฮร์รี เคน ดาวซัลโวของทีมไก่เดือยทอง ที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั่นเอง
พี่เคนของน้องๆ ทำ “แฮตทริก” ซัลโวได้ 3 ประตู ในนาทีที่ 22 นาทีที่ 45 และนาทีที่ 62
แม้จะเป็นลูกโทษจุดโทษซะ 2 แต่ก็ต้องยอมรับ กันว่าการยิงลูกจุดโทษไม่ใช่ง่ายๆ ขนาด ลิโอเนล เมสซี ยังพลาดเมื่อวันก่อน
ฉะนั้น การที่พี่เคนยิงลูกโทษเข้าถึง 2 ลูก อย่างเฉียบขาดและเฉียบคมในวันนี้ จึงเป็นที่ประทับใจ แฟนสิงโตคำรามยิ่งนัก
เหนืออื่นใด แฮร์รี เคน เป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 3 เท่านั้นที่ทำแฮตทริกในบอลโลกได้คนแรก คือ เจฟฟ์ เฮิร์ส ซัลโว เยอรมันตะวันตก ในนัดชิงแชมป์โลก 1966 และคนถัดมา ได้แก่ แกรี ลินิเกอร์ ในการซัลโวโปแลนด์ ปี 1986
นี่แหละที่ทำให้ “จ่าแฉ่ง” ต้องสรุปว่าค่ำคืนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นคืนของ แฮร์รี เคน โดยแท้จริง
ผลงานของเขาและเพื่อนพ้องนำความชื่นใจมาสู่แฟนบอลทั่วเกาะอังกฤษ รวมทั้งสื่อมวลชนอังกฤษที่พาดหัวอย่างปลื้มปริ่ม และเขียนบทวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความชื่นชม แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ของสิงโตคำรามอย่าเอิกเกริก
บางฉบับถึงกับมองไกลด้วยการตั้งโจทย์ว่า ทีมชาติอังกฤษชุดนี้น่าจะไปได้ลึกมากถึงขั้นเข้ารอบ 4 ทีม เป็นอย่างน้อย
“จ่าแฉ่ง” แม้จะเป็นแฟนคลับของทีมอังกฤษคนหนึ่ง แต่ในฐานะพุทธศาสนิกชนที่เชื่อมั่นในคำสอนของพุทธองค์ ขอเตือนเพื่อนๆชาวอังกฤษว่า จงอย่าตั้งมั่นในความประมาท
ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนอนิจจังเพื่อนเอ๋ย ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจเผื่อความพ่ายแพ้เอาไว้บ้าง อะไรไม่อะไร อย่าลืมนะเพื่อนว่า 2 ทีมที่เพื่อนเจอมาน่ะเป็นทีมเกรดซีเท่านั้นเอง ยังมีทีมเกรดบีและเกรดเอรออยู่ข้างหน้าอีกเพียบ…โปรดสังวรไว้ด้วยเพื่อนเอ๋ย อย่าดีใจจนเกินเลยนะเพื่อนนะ!
สำหรับอีก 2 คู่ ประจำคืนเดียวกันนี้ขอชู 2 นิ้วให้กับนักเตะ “ซามูไร” ตัวแทนของเอเชียอีกครั้งหนึ่งที่สามารถยืนหยัดเท้าต่อเท้าสู้กับยอดนักเตะจากแอฟริกา เซเนกัล อย่างไม่ลดละ จนจบลงที่เสมอ 2-2 อย่างสุดมัน
เซเนกัลขึ้นนำก่อนลูกแรก นักเตะบูชิโดก็ไล่ตีเสมอได้…ครั้นนักเตะแอฟริกาขึ้นนำในลูกสอง ญี่ปุ่นก็ฮึดมาตีเจ๊า 2-2 ได้อีก
นำความภาคภูมิใจมาสู่พวกเราชาวเอเชียทั้งหมดทั้งมวลที่นั่งดูและเอาใจช่วยนักเตะซามูไรอย่างชนิดแทบไม่อยากลุกไปเข้าห้องน้ำว่างั้นเถอะ
ผลการเสมอทำให้ ญี่ปุ่น กับ เซเนกัล ได้คะแนนเท่ากันที่ 4 แต้ม นัดท้าย ญี่ปุ่น จะต้องไปเจอกับ โปแลนด์ ที่เล่นผิดฟอร์ม วันนี้ก็พ่ายแพ้โคลอมเบีย ไปอีกถึง 0-3
กลุ่ม เอช นี่ก็เป็นอีกกลุ่มครับที่ต้องตามดูอย่างชนิดห้ามกะพริบตา เพราะยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบถึง 3 ทีม ได้แก่ ญี่ปุ่น, เซเนกัล และ โคลอมเบีย
ยกเว้น โปแลนด์ ที่ตกรอบไปแล้วอย่างเหลือเชื่อ จากที่คาดหมายกันว่าจะเป็นที่ 1 ของกลุ่มนี้ กลายเป็นทีมที่ตกน้ำป๋อมแป๋มไปก่อนเพื่อนซะฉิบ
เชื่อแล้วว่า อนิจจังไม่เที่ยงจริงๆ สำหรับฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย.
“จ่าแฉ่ง”