สิงโตหืดจับ

“จ่าแฉ่ง” กลับจากจังหวัดตรัง มานอนดูฟุตบอลโลกที่ กทม.ตามเดิมแล้วนะครับ ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เครื่องบินขึ้นจากสนามบินตรังเกือบ 1 ทุ่ม เพราะฝนตกต้องออกช้ากว่ากำหนด ทำให้มาถึงดอนเมือง 2 ทุ่มเศษๆ กว่าจะถึงบ้าน 3 ทุ่มเกินๆเข้าไปแล้ว

ชวดดูคู่ สวีเดน กับ เกาหลีใต้ ที่ถ่ายทอดตั้งแต่ 1 ทุ่ม ไปอย่างน่าเสียดาย

ก็ได้แต่ฝากความเสียใจไปถึงนักเตะพลังโสมในฐานะเพื่อนร่วมเอเชียที่ประเดิมนัดแรกด้วยการพ่ายแพ้ให้แก่นักเตะไวกิ้งทั้งๆ ที่ควรจะจบแบบเสมอ

ถ้าไม่โดนกรรมการเปิด VAR แล้วตัดสินให้นักเตะไวกิ้งได้ยิงลูกโทษที่จุดโทษอาจจะจบแบบเสมอ 0-0 แล้วก็เป็นได้

ไม่เป็นไรเพื่อน!…กัดฟันสู้เขาต่อ…แม้จะอยู่กลุ่มหินมีทั้ง เยอรมัน ทั้ง จังโก้ อยู่ด้วย แถมนัดหน้าวันเสาร์นี้จะต้องเจอ เม็กซิโก ที่ฟอร์มสวยพลิกชนะเยอรมันมาได้อย่างชนิดช็อกโลกเมื่อวันก่อน

ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นเพื่อนโสมเอ๊ย!

สำหรับคู่ที่ 2 ของค่ำคืนวันจันทร์ระหว่าง เบลเยียม กับ ปานามา ซึ่งมาตอน 4 ทุ่ม ทำให้ “จ่าแฉ่ง” ได้ดูจนจบครบทุกนาที

นึกว่าจะเกิดอาถรรพณ์ทีมเต็งถูกเชือดซะอีกแล้ว เพราะ เบลเยียม น่ะเป็นทีมเต็ง 6 แถมได้รับการคาดหมายว่า ถ้าทีมเต็งอื่นๆ ฟอร์มบู่กันเยอะๆ แบบนี้ละก็ เบลเยียมนี่แหละจะสอดแทรกไปสู่เส้นชัย

ที่ไหนได้ครึ่งแรก ระหว่างเล่นกับ ปานามา ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งได้มาบอลโลกครั้งแรก แถมเป็นทีมเต็งบ๊วยสุดคู่กับ ซาอุดีอาระเบีย ด้วยอัตราถึง 2,000 : 1

เบลเยียมกลับยิงนกตกปลา ซัดไม่เข้าประตู แม้แต่ลูกเดียว นึกว่าจะเจออาถรรพณ์บอลต่อเข้าซะอีกแล้ว

จนกระทั่งครึ่งหลังเพียง 2 นาที ดรีส์ เมอร์เทนส์ ถึงได้บรรจงวอลเลย์ลูกจากกรอบเขตโทษด้านซ้าย เข้าประตูนำ 1-0 ไปได้อย่างสุดสวย

เท่านั้นเองทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มไหลเข้าทางทีมเต็ง 6 เมื่อ โรเมลู ลูกากู ดาวซัลโวจากปิศาจแดงแมนฯยู ซัดเหน่งๆ ได้อีก 2 ประตู กลายเป็น 3-0 ในที่สุด

สำหรับคนที่ดีใจมากกว่าเพื่อนคงต้องยกให้ เอร์นาน ดาริโอ โกเมซ กุนซือของทีมปานามา

นั่นแหละครับ ที่ยอมรับในความพ่ายแพ้ และชื่นชมลูกทีมของเขาว่า “แพ้อย่างมีเกียรติ”

“ไม่มีใครอยากแพ้ แต่เมื่อพิจารณาว่าใคร คือคู่ต่อสู้ของเรา เทียบกับประวัติศาสตร์ของเราในการแข่งขันฟุตบอลละก็…ผมว่าผลแบบนี้ก็โอเคนะ”

“มีคนบอกว่าเราจะโดนยิงอย่างน้อย 7 ประตูด้วยซ้ำไป” กุนซือปานามายกเหตุผลที่ทำให้เขามองว่าทีมของเขาแพ้อย่างมีเกียรติในคืนนี้

คาดว่าจะโดน 7-0 โดนจริงๆ แค่ 3-0 ดีกว่าที่คาดไว้เยอะ…ว่างั้นเถอะ!

สำหรับคู่สุดท้ายความจริงเป็นคู่ที่น่าดูอย่างยิ่ง แต่ “จ่าแฉ่ง” ค่อนข้างเพลีย เพราะคู่นี้เตะกันดึกเริ่มตั้งแต่ตี 1 ทำให้หลับผล็อยคาจอ ไม่ได้ดูครึ่งแรกไปทั้งครึ่ง

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

แม้ครึ่งหลังก็ไม่ได้ดูอีกหลายสิบนาทีมาตื่นเอาตอนเห็นสกอร์ อังกฤษ 1 ตูนิเซีย 1 ยังนึกว่าคู่ก่อนไม่มีอาถรรพณ์ เพราะเบลเยียมเอาชนะได้… สงสัยอาถรรพณ์จะมาอยู่คู่นี้ละมั้ง เพราะกว่า 30 นาทีที่จ่าแฉ่งลืมตาขึ้นดูก็เห็นภาพทีมสิงโตคำรามบุกแหลกจะเอาชนะตูนิเซียให้จงได้

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังทำไม่สำเร็จ ขาดนิดเกินหน่อยอยู่ตลอดเวลา

จนมาถึงนาทีที่ 90+1 ทดเจ็บไปแล้ว 1 นาที สิงโตค่อยทำสำเร็จจากการโหม่งลูกเตะมุมของแฮรี เคน คนเดิม ที่ทำประตูแรกได้ในนาทีที่ 11 นั่นแหละ

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

ส่งผลให้อังกฤษชนะไป 2-1 ชนิดหืดจับและเป็นชัยชนะนัดประเดิมสนามบอลโลกครั้งแรกตั้งแต่บอลโลก 2006 เป็นต้นมา

“จ่าแฉ่ง” ในฐานะแฟนบอลของทีมสิงโตคำรามคนหนึ่ง ขอแสดงความยินดีที่อังกฤษ โดยเฉพาะ แฮรี เคน ช่วยทำประตูทำลายอาถรรพณ์ได้สำเร็จ

ยินดีล่วงหน้าด้วยก็แล้วกันกับ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือสิงโตคำรามที่มองเห็นการเข้ารอบสดใสรออยู่ ข้างหน้า เพราะนัดต่อไปจะเจอ ปานามา ทีมเต็งบ๊วย โอกาสเอาชนะคว้าอีก 3 แต้ม อยู่แค่เอื้อม

แต่ก็อย่าประมาทเชียวนาเกิดพลาดท่าแพ้ปานามาขึ้นมาละก็จะยุ่งซะเปล่าๆ เพราะนัดสุดท้ายต้องเจอกับเบลเยียม

รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีก็แล้วกัน เซาธ์เกต อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยตกรอบแรกแบบคราวที่แล้ว 2014 ไปซะล่ะ

คนรักอังกฤษเชียร์สิงโตคำรามหลายคนรวมทั้ง “จ่าแฉ่ง” ด้วย ยังปวดใจอยู่จนถึงทุกวันนี้.

“จ่าแฉ่ง”