เมื่อวานผมบอกว่า ผมไม่ (ค่อย) ชอบท่านนายกฯมหาธีร์ นายกรัฐมนตรี วัย 92 ปีของมาเลเซีย ที่รีเทิร์นกลับมาได้อีกหน…วันนี้คงต้องเฉลยแล้วล่ะว่า “ไม่ค่อย” ชอบท่านเรื่องอะไร

เรื่องแรกเลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับกีฬาครับ ผมไม่ชอบท่านเพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในปีที่วงการกีฬามาเลเซียเกิดความบาดหมางกับวงการกีฬาไทยอย่างใหญ่หลวงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การกีฬาของทั้ง 2 ประเทศ

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 15 เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2532 ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพนั่นเอง…แฟนกีฬารุ่นเก่าคงจะพอจำได้

ผมกับฝ่ายข่าวกีฬาไทยรัฐได้รับมอบหมายให้ไปเก็บบรรยากาศก่อนการแข่งขันประมาณเดือนเศษๆ ได้รับรายงานว่า มาเลเซียตั้งใจจะล้มทัพนักกีฬาไทยให้ได้ในการแข่งขันครั้งนี้

เขาไม่คิดจะล้ม อินโดนีเซีย ที่ได้เหรียญทองเป็นที่ 1 ของซีเกมส์มาตลอดนับตั้งแต่เปลี่ยนจากกีฬาแหลมทอง (เซียพเกมส์) มาเป็นซีเกมส์ แต่ประกาศเจตนารมณ์ที่จะแซงประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ 2 ให้จงได้

แม้ท่านนายกรัฐมนตรี ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นนายกฯมาแล้ว 8 ปีเต็มๆใน พ.ศ.นั้น จะมิได้ออกมาประกาศเป็นนโยบายชัดแจ้ง แต่ก็เป็นที่รู้ๆกันว่าท่าน “แบ็กอัพ” อยู่ข้างหลังเต็มที่

และก็เพราะ “เจตนารมณ์” ที่จะเอาชนะไทยให้ได้นี่เอง ทำให้สมาคมกีฬาต่างๆของมาเลเซียในกีฬาซีเกมส์ครั้งดังกล่าว “ทำทุกอย่าง” ที่จะให้ได้เหรียญทองชนะไทย

ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่เอารัดเอาเปรียบจากรายงานของสื่อมวลชนไทยทุกสำนัก

ท้ายที่สุด มาเลเซียแซงไทยขึ้นเป็นที่ 2 ได้จริงๆ ทำได้ 67 เหรียญทอง ชนะไทยที่ได้ 62 เหรียญทองไปอย่างเด็ดขาด

ผมเองช่วงนั้นเลือดลมยังแรง รู้สึกเหมือนกับว่า สมาคมกีฬาเสือเหลืองเล่นงานเราจริงๆ ยังพลอยโกรธไปด้วยและเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ค่อยชอบ ท่านมหาธีร์ ตั้งแต่นั้น

เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจครับ…เกิดขึ้นในสมัยป๋าเปรมเข้ามาเป็นนายกฯได้ไม่นาน เกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ จนประเทศไทยต้องประกาศลดค่าเงินบาทครั้งใหญ่

จากนั้นก็มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวตามมา โดยการประกาศนโยบาย “Visit Thailand Year ปี 1987 (2530)”

การท่องเที่ยวไทยสามารถทำรายได้เข้าประเทศไทยอย่างเห็นหน้าเห็นหนังและกลายเป็นพระเอกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจปีดังกล่าว

มาเลเซียก็ประกาศนโยบายท่องเที่ยวมาเลเซียบ้าง โดยประกาศให้ปี 1990 หรือปี 2533 เป็นปี “Visit Malasia Year” แต่ได้เริ่มทดลองเซิร์ฟๆตั้งแต่ 1989 ในปีที่จัดซีเกมส์นั้นแล้ว

ผมไปดูกับพรรคพวกที่ไทยรัฐยังบอกว่าจะไปรอดไหมหนอ เพราะจัดเลียนแบบไทยทั้งที แต่ดูไม่มีอะไรน่าสนใจเลย

ที่ไหนได้พอเขาเอาจริงปี 1990 และเอาจริงมาตลอดทำให้การท่องเที่ยวมาเลเซียบูมยกใหญ่จนเขากลายเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวสูงกว่าประเทศไทยอยู่หลายปี

เป็นฝีมือของท่านมหาธีร์โดยตรง เพราะลงมาเล่นนโยบายเรื่องนี้เอง และทำเองหลายเรื่อง ตั้งแต่คิดสร้างตึกแฝดสูงสุดในโลก “เปโตรนาส” และไปขอให้มาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถสูตร 1

กรณีนี้ผมไม่ค่อยชอบท่าน เพราะรู้สึกอิจฉาท่าน…ทำตามหลังประเทศตูแท้ๆ แต่ดันเก่งกว่าประเทศตู…ดีว่าประเทศตูก็ฮึดสู้และไม่แพ้มาเลเซียมากนักในช่วงหลังๆ ก็เลยไม่ได้อิจฉาท่านไปมากกว่านี้

เหตุผลที่ 3 ก็มาจากเหตุที่ท่านมหาธีร์เคยรังแกตัดแข้งตัดขาแจ้งข้อหาจนคุณ อันวาร์ อับราฮิม เข้าคุกนั่นแหละครับ

ผมชื่นชมคุณอันวาร์ตั้งแต่ทราบว่า คุณอันวาร์เป็นเพื่อนกับนักเรียนวชิราวุธของเราหลายคนก็นึกรักและเอาใจช่วยมาตลอด

เมื่อจู่ๆคนที่ผมรักและเอาใจช่วยโดนมหาธีร์แกล้ง ผมจึงเกิดความรู้สึกในทางลบต่อท่านมหาธีร์ขึ้นอีกกระทงหนึ่ง

ถึงหลังสุดนี้จะหันกลับมารักใคร่กันเป็นอย่างดียิ่ง ถึงขนาดบอกจะยกตำแหน่งให้ในอีก 2 ปีข้างหน้าก็ยังไม่ค่อยไว้ใจอยู่ดี

กลัวจริงๆครับว่า คนอายุ 92 ปี อาจจะกลับมาหลงใหลตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซะจนลืมคำมั่นสัญญาน่ะซีครับ.

“ซูม”