วันนี้พุธที่ 11 เมษายน วันสำคัญที่คนไทยทั่วประเทศจำนวนมากรอคอยมาถึงแล้วนะครับ นั่นก็คือ “วันสุดท้าย” หรือ “วันอวสาน” สำหรับละครสุดฮิต “บุพเพสันนิวาส” ของช่อง 33 HD หรือช่อง 3 ดั้งเดิม ที่จะออกอากาศตั้งแต่เวลา 20.20 น. เป็นต้นไป

จะทำสถิติใหม่ในฐานะแชมป์คนดูสูงสุดในยุคทีวีดิจิตอลอย่างไร? และเท่าไร? ไม่เกินเพลของวันพรุ่งนี้คงจะรู้ผล

ว่าไปแล้วละคร “ออเจ้า” ก็ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่เอาไว้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน ซึ่งเป็นวัน “โล้สำเภา” สามารถเอาชนะแชมป์เก่า “นาคี” ได้หลายช่วงตัวเมื่อรวมทั้งประเทศ

โดยทำได้ 17.9 เอาชนะตัวเองที่ทำไว้เมื่อวันพุธที่ 4 เมษา 17.4 ไปอย่างขาดลอย และเอาชนะ “นาคี” แชมป์เก่าที่ได้ 17.29 ในวันสุดท้ายไปอย่างราบคาบ

นอกจากนี้ก็ยังทำสถิติใน กทม. 23.9 ชนะวันพุธที่ 4 เมษายน ที่ทำไว้ 21.8 และถล่ม “นาคี” ที่ได้ใน กทม. วันจบ 20.43 ไปหลายช่วงตัว

ส่วนต่างจังหวัดในเขตตัวเมืองทำได้ 20.9 ลดลงจากวันพุธที่ 4 เมษายน ที่ทำไว้ 21.8 เล็กน้อย แต่ก็ยังชนะ “นาคี” ที่ทำได้ 17.45 วันจบหลายช่วง

ในขณะที่ในเขตนอกเมืองทำได้ 15.4 ทะลุสถิติตัวเองในวันพุธที่ 4 เม.ย. ที่ทำไว้ 14.8 แสดงว่าคืนโล้สำเภามีชาวต่างจังหวัดนอกเขตเมือง หรือที่เขาใช้คำว่า Rural หันมาดูมากขึ้น

แต่ครับยังมีแต่…เจ้าสถิตินอกเขตเมืองนี่แหละที่ “ออเจ้า” ยังเอาชนะพญานาคไม่ได้ เพราะเมื่อวันจบพญานาคทำไว้ถึง 16.50 ด้วยเหตุผลว่าชาวชนบทอีสานที่นับถือพญานาคยังชอบนาคีมากกว่า

คำถามสำหรับวันนี้ก็คือ “บุพเพสันนิวาส” ซึ่งยังไงๆ ภาพรวมก็ชนะ “นาคี” อย่างท่วมท้นอยู่แล้วนั้น เมื่อหันมามองในภาพย่อย หรือเฉพาะจุดอย่างเขต “นอกเมือง” ที่ยังพ่ายแพ้อยู่นั้นไซร้จะสามารถกลับมาเอาชนะ “นาคี” เพื่อให้ชนะได้อย่างสมบูรณ์แบบ คือ ชนะในทุกเขตที่มีการสำรวจได้หรือไม่? อย่างไร?

แต่ไม่ว่าจะเอาชนะได้ครบถ้วนทุกกระบวนท่าหรือไม่ก็ตาม…ผมคิดว่าเท่าที่ชนะอยู่ในขณะนี้ก็ถือว่าท่วมท้นพอสมควรแล้ว หากจะเหลือสถิติอะไรให้ “นาคี” ภาคภูมิใจบ้างก็น่าจะโอเค (สำนวนของแม่หญิงการะเกด) เพราะยังไงๆก็เป็นของช่อง 3 ด้วยกันอยู่แล้ว

ประเด็นสำคัญที่สุดที่ละครเรื่องนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ไว้และไม่สามารถจะนำมาวัดเป็นเรตติ้งเป็นตัวเลขได้ก็คือ คุณค่าทางสังคมและจิตใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ละครเรื่องนี้ออกอากาศ

นอกเหนือจากความสุขความสนุกสนานและความหวานๆฟินๆ ที่คนไทยได้รับตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ยังทำให้เกิดความตื่นตัวในวิชาประวัติศาสตร์ไทยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

คนไทยหันมาอ่านหันมาแสวงหาความรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ แวะไปดูไปชมสถานที่ในประวัติศาสตร์แน่นขนัดไปทั่วทั้งพระนครศรีอยุธยาและลพบุรี ดังที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

ที่สำคัญละครเรื่องนี้ยังช่วยจุดพลุทำให้คนไทยเกิดความนิยมไทย จนถึงขั้นแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดไทยย้อนยุคไปทั่วประเทศ

เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบ้านเรา และไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะ “บุพเพสันนิวาส” โดยแท้

ในฐานะคนชาตินิยมคนหนึ่งผมต้องขอขอบคุณผู้สร้างละครชุดนี้ ดาราทุกคนในเรื่องนี้ไปจนถึงผู้เขียนบทและผู้ประพันธ์เรื่องดั้งเดิม (ซึ่งทุกๆท่านผมขออนุญาตไม่เอ่ยนามในวันนี้ เพราะได้เอ่ยมาหลายครั้ง) ที่รวมพลังกันสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ชิ้นนี้ให้แก่สังคมไทย

รวมทั้งขอแสดงความยินดีกับช่อง 3 ด้วย ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีคนดูมากเป็นอันดับ 1 โดยเฉลี่ยตลอดสัปดาห์์เฉือนช่อง 7 สีได้เป็นครั้งแรก นับแต่ก่อตั้งสถานีเป็นต้นมาก็ว่าได้ เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

โดยสถิติจาก เอซีนีลเซ่น เจ้าตำรับวัดเรตติ้งระบุว่าช่อง 3 ได้ที่ 1 ด้วยเรตติ้ง 2.044 ช่อง 7 ได้ที่ 2 ด้วยเรตติ้ง 1.745 และช่อง MONO ได้ที่ 3 ด้วยเรตติ้ง 0.810 ฯลฯ

แต่ช่อง 3 จะรักษาสถิตินี้เอาไว้ได้หรือไม่คงต้องลุ้นกันต่อไป หลังจาก “บุพเพสันนิวาส” ลาจอ…ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์ดิจิตอลทีวี 7 สี 3 สี ไผจะเป็นเบอร์หนึ่ง โปรดอย่ากะพริบตานะครับ.

“ซูม”