ฤาคนไทยบุญน้อย? มีทางเลือกอยู่แค่นี้เอง

เสียงปี่เสียงกลองทางการเมืองเริ่มดังขึ้นแล้วนะครับช่วงนี้ ทั้งๆที่ยังมิได้มีการปลดล็อกทางการเมืองแต่อย่างใด

สืบเนื่องมาจากการแห่ไปจองคิวจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กับ กกต. แล้วถึง 97 พรรค และขณะเดียวกันก็มีการออกมาประกาศยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคของพรรคเก่าๆ กันแทบทุกพรรคตลอดสัปดาห์ที่แล้ว

รวมทั้งล่าสุดก็มีข่าวว่า ท่านรองนายกฯ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อาจจะตั้งพรรคใหม่ โดยเชื้อเชิญ “บิ๊กตู่” มาเป็นนายกฯคนนอก หากพรรคของท่านได้เสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้ง

มองในแง่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ แสดงถึงความกระตือรือร้นของสังคมไทยที่จะกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง

เป็นความกระตือรือร้นที่ถูกต้องและควรแก่การสนับสนุน เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า ระบอบการเมืองการปกครองที่ดีที่สุดของโลกนี้ คือ ระบอบประชาธิปไตย แม้จะเป็นประชาธิปไตยแค่ครึ่งใบก็ยังดีกว่ามิใช่ประชาธิปไตย

โดยส่วนตัวของผมซึ่งมีความนิยมและชื่นชมในระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด จึงรู้สึกปีติยินดีในระดับหนึ่ง

ที่ใช้คำว่า ปีติยินดีในระดับหนึ่ง ก็เพราะว่ายังไม่ปีติถึงที่สุดว่าอย่างนั้นเถิด

เนื่องจากในขณะที่นั่งอ่านข่าวความเคลื่อนไหวเรื่องการจะตั้งพรรคใหม่ก็ดี หรือการออกมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคของพรรคเก่าๆก็ดี ผมพบว่า “ตัวบุคคล” ต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ยังไม่ค่อยมีคนใหม่ๆ ที่ผมพอจะฝากผีฝากไข้ได้ในอนาคตเท่าที่ควร

ในส่วนของพรรคการเมืองเก่าๆ แทบจะบอกได้เลยว่า “ผิดหวัง”

เนื่องจากเป็นตัวละครหน้าเดิมๆ ที่เราเคยเห็นบทบาท เห็นลีลา และรับรู้รับทราบถึงความสามารถในการทำงาน ตลอดจนความประพฤติและอุปนิสัยมาแล้วทั้งสิ้น

หลายๆคนที่ปรากฏตัวล้วนมีส่วนมากบ้าง น้อยบ้าง ในการทำให้บ้านเมืองของเราถอยหลังเข้าคลองเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ในขณะที่พรรคที่มีข่าวว่าจะไปจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ ผมก็ยังอ่านข่าวไม่เจอว่า มีใครที่โดดเด่น หรือมีประวัติที่ทำงานประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ พอที่จะเป็นความหวังของผมเลยสักคนเดียว

มีบางคนบางพรรคที่เป็นคนหนุ่มกระแสแรง แต่พอเปิดตัวมาก็สร้างความขัดแย้งให้แก่สังคมซะแล้ว

ล่าสุด ที่ร่ำลือว่าจะเป็นท่านรอง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แต่ท่านก็ยังให้การภาคเสธอยู่ ยังไม่ตอบรับโดยตรง แต่ก็มิได้ตอบปฏิเสธแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เท่าที่อ่านข่าวเมื่อวันวาน

แต่ถึงหากว่าท่านรองสมคิดจะไม่ปฏิเสธและมีการตั้งพรรคจริง ความพึงพอใจของผมก็ยังไม่มากนักอยู่นั่นเอง

ท่านรองสมคิดอาจจะเป็นคนเก่ง ทันสมัย มีความคิดก้าวหน้า แต่ท่านไม่ใช่ “สเปก” ผมครับ ผมชอบคนเก่งระดับกลางๆ มองปัญหาเศรษฐกิจไทยแบบรอบด้านและครบถ้วน ยอมรับในความเป็นจริงบางอย่างของคนไทยและประเทศไทย ที่สำคัญผมไม่ชอบคนใจใหญ่มือเติบ ชอบลงทุนใหญ่ๆ ซึ่งหลายโครงการน่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงทั้งหลาย

นอกจากนี้ ท่านสมคิดเองก็บอกว่า ท่านอยากได้บิ๊กตู่เป็นนายกฯ เพราะฉะนั้นหากสมมติว่า ท่านตั้งพรรคจริง ท่านก็คงจะเชิญ “บิ๊กตู่” มาเป็นนายกฯในที่สุด

ผมไม่รังเกียจบิ๊กตู่ แต่ก็ยังมีอะไรงอนๆท่านอยู่ ผมไม่ชอบคนดุครับ เพราะผมเป็นพวกโคนันทะวิศาล ชอบคนพูดจาไพเราะ หรือไม่งั้นก็ไม่พูดเลยอย่างป๋าเปรม

แต่เมื่อหยิบตัวบุคคลทั้งหมดที่เป็นข่าวในขณะนี้มาลองให้คะแนนในทัศนะของผม (ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเหมือนใครและมีใครเหมือน) ปรากฏว่า คะแนนประมาณ C ซึ่งแปลว่า สอบผ่านในกรณีเรียนปริญญาตรี ก็ยังเป็นของ “ดร.สมคิด” และคณะอยู่ดี

ในขณะที่นักการเมืองเก่าๆ นั้นได้ D ซึ่งแปลว่า แย่ หรือไม่ก็ F ที่แปลว่า สอบตกเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรายที่เปรียบคนอื่นว่าเป็น ไส้เดือนโดนขี้เถ้านั้น…ผมให้ F+ เลย (แปลว่า แย่กว่า F ซะอีก)

ลงท้ายก็คงต้องจำใจเลือกกลุ่มคะแนน C นั่นแหละครับ…

ทำไงได้ คนไทยเราวาสนาน้อย ไม่มีทางเลือกมากนัก คงเป็นชาติก่อน เราทำบุญมาแค่นี้เอง.

“ซูม”