ภัตตาคารท้าความเสียว เปิดขายแล้วในเมืองไทย

เปิดบริการในประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับภัตตาคาร “ลอยฟ้าอาหารค่ำ” หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษว่า “Dinner in The Sky” ภัตตาคารแหวกแนวระดับโลกที่มีการให้บริการไปแล้วกว่า 45 ประเทศทั่วโลก

เหตุที่ได้ชื่อว่าเป็นภัตตาคารแหวกแนวก็เพราะ แทนที่จะให้ผู้บริโภค หรือลูกค้ารับประทานอาหารนั่งโต๊ะรับประทานอย่างธรรมดาๆ ในร้านอาหารธรรมดาๆ อย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เขากลับออกแบบห้องอาหารพิเศษพร้อมด้วยโต๊ะพิเศษและที่นั่งพิเศษให้แก่ผู้บริโภค หรือลูกค้าจำนวนหนึ่ง

จากนั้นก็ “ชักรอก” โดยใช้เครนขนาดใหญ่ยกร้านอาหารพิเศษที่ว่านี้ให้ขึ้นไปลอยเท้งเต้งอยู่กลางอากาศ สูงกว่าพื้นดินประมาณ 50 เมตร

จัดการเสิร์ฟอาหารให้แก่ลูกค้า ซึ่งแต่ละรอบจะมีเพียง 22 คน ให้นั่งห้อยขารับประทานไปชมวิวไป และรับลมโชยกลางอากาศไป เพราะภัตตาคารที่ว่าก็จะเป็นภัตตาคารโล่งๆ ไม่มีฝากั้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ทีมงานซอกแซกจะเขียนอธิบายให้ยืดยาวขนาดไหน ท่านผู้อ่านก็คงนึกภาพไม่ค่อยออกเท่าไรนัก เพราะฉะนั้นโปรดชำเลืองดูภาพประกอบคอลัมน์วันนี้กันเลยดีกว่าครับ จะได้จินตนาการถูกว่า ลักษณะหน้าตาของภัตตาคารลอยฟ้าสำหรับอาหารค่ำ หรือ Dinner in The Sky ที่ว่านี้เป็นอย่างไร

ภาพประกอบคอลัมน์เราวันนี้ถ่ายมาจากภัตตาคารลอยฟ้าใหม่เอี่ยมล่าสุดของประเทศไทยที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ณ บริเวณที่ว่างระหว่างห้างดิ เอ็มโพเรียม สวนเบญจสิริ และสวนไดโนเสาร์ “ไดโนซอร์ แพลเน็ต” ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมพงษ์ สุขุมวิท โน่นแหละครับ

ในแต่ละรอบจะเปิดบริการเพียง 22 เก้าอี้ หรือ 22 ท่านเท่านั้น และจะเสิร์ฟเป็นอาหารฝรั่ง เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยประเภทสลัด ตามด้วยซุป แล้วก็เมนคอร์ส ซึ่งมีปลา หรือเนื้อ หรือแกะให้เลือกตามความชอบของผู้บริโภค ตบท้ายด้วยของหวาน และกาแฟ หรือชาตามธรรมเนียม จากฝีมือของเชฟโรงแรม เชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญของโครงการในประเทศไทย

สนนราคา 4,990 บาทต่อ 1 ท่านครับ แต่ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์จะเพิ่มเป็น 5,390 บาท โดยไม่รวมอาหารพิเศษที่เขาบอกว่ามีบริการเพิ่มเติมอีก 2-3 อย่าง ทั้งคาว ทั้งหวาน เผื่อไว้สำหรับคนรับประทานจุ

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องรับประทานให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงละครับ เพราะเขาจะมีวันละ 2 รอบ…รอบแรกเรียกว่ารอบ Sunset หรือรอบดูตะวันตกดิน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 18.00 น. และรอบสองเรียกว่ารอบ City Light หรือรอบดูแสงสีแห่งตัวเมืองบริเวณสุขุมวิท เริ่มเวลา 19.30 น.

ถามว่า ด้วยสนนราคาที่ไม่ถูกเลยสำหรับอาหารดินเนอร์เซตในลักษณะนี้ แถมจะต้องไปนั่งโตงเตงด้วยความหวาดเสียว ถึง 1 ชั่วโมง จะมีคนกล้าอุดหนุนหรือไม่?

ตอบว่า กล้าซีครับ และก็อุดหนุนเพียบเลยครับ จากเว็บไซต์ www.dinnerinthesky.co.th  จะพบว่าตั้งแต่เปิดมาคนเต็มทุกรอบและทุกวัน… และขอประทานโทษ เต็มไปเกือบตลอดเดือนมกราคมแล้วละ เหลืออีกเล็กน้อยแค่วันที่ 29 มกราคม กับวันที่ 31 อีก 2 วันเท่านั้น

ข่าวบอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ที่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับภัตตาคารแหวกแนวที่เป็นของฮิตระดับโลกมาก่อนแล้ว พอมาเมืองไทยรู้ว่าในบางกอกไทยแลนด์ก็มีด้วย มักจะถือโอกาสตีตั๋วไปทดลอง เพราะไม่แน่ใจว่าไปที่บ้านตนเองจะมีโอกาสหรือเปล่า

สำหรับที่มาที่ไปของภัตตาคารแหวกแนวสไตล์นี้ แหล่งข่าวระบุว่า ความคิดริเริ่มในการสร้างภัตตาคารเป็นของบริษัทประชาสัมพันธ์ ชื่อ ฮานูกา มาตาตา ของเบลเยียม ซึ่งถนัดด้านการประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร โดยเมื่อปี 2006 ทดลองจัด โดยร่วมมือกับบริษัทที่เชี่ยวชาญในการสร้างธีมพาร์ค ให้สร้างภัตตาคารลอยฟ้า และใช้เครนยกขึ้นสูงเป็นแห่งแรกที่เบลเยียม

ปรากฏว่า ฮิตติดลมทำให้ต้องขยายไปสร้างในประเทศอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ในเอเชียของเรามีไปแล้วหลายประเทศแต่ถ้านับเฉพาะอาเซียน ปรากฏว่า มาเลเซีย เร็วกว่าเรา มีไปเรียบร้อยแล้ว และอีกไม่นานนัก เวียดนามก็จะมีขึ้นบ้างเพราะออกข่าวมาแล้ว

สำหรับของประเทศไทยเราเป็นการร่วมมือของ บริษัทดินเนอร์อินเดอะสกายเอเชีย (DITS-Asia) กับ ดิ เอ็มโพเรียม กรุ๊ป และ โรงแรม เชอราตัน แกรนด์ กรุงเทพ

ท่านผู้อ่านท่านใดที่สนใจจะนั่งห้อยขากลางอากาศรับประทานไปเสียววาบไป ก็ลองหารายละเอียดได้จาก www.dinnerinthesky.co.th  ตามอัธยาศัย แต่สำหรับหัวหน้าทีมซอกแซก กราบเรียนตรงๆว่า ขอบายพันเปอร์เซ็นต์ครับ

แม้ทางผู้บริหารภัตตาคารจะยืนยันระบบความปลอดภัยระดับมาตรฐานสากลและดำเนินการมากว่า 10 ปีไม่เคยมีอุบัติเหตุ แต่หัวหน้าทีมมีโรคประจำตัวอีกโรค คือ “โรคกลัวความสูง” น่ะซีครับ นึกว่าจะหายไปแล้ว แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนทดลองข้ามสะพานลอยที่ซอยเฉยพ่วง ใกล้ๆ โรงพิมพ์ไทยรัฐนี่เอง กว่าจะเดินข้ามไปลงอีกด้านของถนนวิภาวดีฯได้ ขาสั่นพั่บๆ หลายหน…ทำให้ทราบว่าโรคกลัวความสูงยังอยู่

ขึ้นเครื่องบินได้…ไปนั่งกระเช้าลอนดอนอายส์ที่อังกฤษ เสียวนิดเดียวตอนขาขึ้น จากนั้นก็นั่งสบายเพราะเป็นกระเช้าที่ห่อหุ้มมิดชิดและด้านล่างเป็นพื้นทึบ ความกลัวที่สูงไม่เกิดขึ้น

เช่นเดียวกับกระเช้าไปไหว้หลวงพ่อโตที่ฮ่องกงก็นั่งได้ แม้จะกระเช้าเล็กกว่าที่ลอนดอนครึ่งหนึ่ง แต่ก็เป็นพื้นทึบ ทำให้คนกลัวความสูงสบายใจและไม่กลัว

แต่สำหรับภัตตาคารลอยฟ้าชุดนี้ นอกจากไม่มีพื้นแล้ว ตอนนั่งรับประทานขายังลอยๆ ยังไงก็ไม่รู้…คนกลัวความสูงขอบ๊ายบายนะครับ… ไปกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาพิษณุโลกดีกว่า ห้อยเท้าลงแม่นํ้ายมไม่เสียวจ้า!

“ซูม”