10 ร้านอาหารแนะนำจากหนังสือ “ถูกและฟรีมีที่โตเกียว”

ทีมงานฯ ได้รับหนังสือคู่มือเที่ยวญี่ปุ่นมาจากสำนักพิมพ์อมรินทร์ท่องโลก ชื่อหนังสือ ถูกและฟรีมีที่โตเกียวเห็นชื่อว่าน่าสนใจแล้วพอเห็นนามปากกาคนเขียนนี่น่าสนใจกว่าค่ะ เพราะใช้ชื่อว่า ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ของถูกในโตเกียวซึ่งมาจากเพจเฟซบุ๊กชื่อเดียวกันที่มีกลุ่มสาวๆ ออฟฟิศ 6 คนที่ใช้ชีวิตสุดติสท์อยู่กลางโตเกียวดูแลอยู่นั่นเอง

สาวๆ ทั้ง 6 คนคือ นานะ, ดาว, ออยลี่, เมย์, พัตโตะ และโซระ โดยในหนังสือเล่มนี้มีการแนะนำทั้งแหล่งช็อปปิ้งราคาถูก แหล่งของกินราคาถูก วิธีการใช้จ่ายถูกลงในโตเกียว และปิดท้ายด้วยคูปองส่วนลดตามร้านค้าต่างๆ

และล่าสุดทางทีมงานอมรินทร์ท่องโลกได้ส่งสกู๊ป “10 ร้านอาหารแนะนำ” ที่คัดสรรโดย “คุณดาว” หนึ่งในแอดมินเพจ ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ของถูกในโตเกียว มาฝากท่านผู้อ่านที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยค่ะ มีร้านอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย…

ร้านที่ 1 ราเมนเลิศรสที่ร้าน Bankara Ramen

หลายคนอาจจะคุ้นหูหรือเคยได้ยินมาบ้าง เพราะว่าร้านนี้ก็มีสาขาที่เมืองไทยนะคะ ที่ซอยสุขุมวิท 39 แอดดาวอยากจะร้องตะโกนว่า ใครรักหมูชาชูนุ่มๆ ที่พอตักเข้าปากแล้วเหมือนละลายได้ ตามแอดมาเจ้าข้า!! เพราะเมนูเด็ดของร้านนี้เน้นหมูชาชูชิ้นโตๆ นุ่มๆ น้ำซุปรสชาติเข้มข้น

3 เมนูเด็ดที่ต้องลองคือเมนูเบสิกประจำร้าน “ราเมนหมูสามชั้น” เมนูที่ร้านแนะนำถ้วยสีแดงคือ “ราเมนหมูสามชั้นน้ำซุปคอลลาเจน” ปิดท้ายด้วยเมนู “ซึเคะเมน” คือเส้นหมี่เย็นเส้นนุ่มๆ ให้มาจิ้มจุ่มคู่กับน้ำซุปเข้มข้นที่เสิร์ฟพร้อมเนื้อหมูชาชูชิ้นโต

ยัง..ยัง ไม่จบค่ะ ยังมี เกี๊ยวซ่าอร่อยเด็ด หนึ่งจานมีห้าชิ้นใหญ่ๆ การเขียนรีวิวนี่เหมือนทำร้ายตัวเองทางอ้อมนะคะเนี๊ยะ ตอนนี้หิวมากเลยค่ะ!

ร้านนี้มีหลายสาขา แต่สาขาที่แอดมินไปจัดมาอยู่ที่ Ikebukuro Station ค่ะ วิธีไปก็ง่ายมากจากสถานีรถไฟใต้ดิน Ikebukuro Station เดินออกทาง East Exit พอออกจากสถานีก็ตรงดิ่งไปเส้นทางที่จะไปตึก Sunshine City มีป้ายบอกตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ พอเดินเข้ามาเส้น Sunshine แล้วจะเจอแยกร้าน Uniqlo อยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยจะเจอร้านอยู่ติดกับ Family Mart เลย แถมให้อีกสาขาที่ JR Akihabara ทางออก Electric Town เดิน 5 นาทีค่ะ

ร้านที่ 2 เฟรนซ์ฟรายหลากหลายรสชาติที่ First Kitchen

ร้านนี้คนไทยไม่ค่อยรู้จักร้านนี้เท่าไหร่แต่วัยรุ่นญี่ปุ่นเค้าฮิตร้านนี้กันมากๆ เลยนะคะ เมนูเด่นจุดแข็งของร้านนี้ต้องยกให้ เฟรนซ์ฟรายทอดใหม่ๆ กรอบนอกนุ่มใน ที่สำคัญที่นี่มีรสชาติให้คุณลูกค้าเลือกได้ตามใจชอบ งงใช่มั้ยว่าเฟรนซ์ฟรายมันจะมีหลายรสชาติได้ยังไง ง่ายมากค่ะ ทางร้านเค้าจะให้ผงรสชาติที่ลูกค้าต้องการ เราก็แค่เอามาโรยใส่บนมันฝรั่งร้อนๆ แล้วทำการเขย่าๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย ได้รสชาติตามใจเราเลย รสชาติที่มีให้เลือกคือ รสเนย รสโชยุ รสหอยเชลล์ย่างเนย รสซุปไก่ รสชีสและรสบาร์บีคิว

นอกจากนี้เมนูอาหารอื่นๆ อย่างแฮมเบอร์เกอร์ ซุป พาสต้า สลัด ของหวาน และแพนเค้ก นางก็มีนะคะ อร่อย ราคาไม่แพง และอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือซอฟท์ดริ้งค์ค่ะ ไอติมโฟลท์ของที่นี่ก็อร่อยดีงาม มีทั้งโฟลท์ใส่น้ำอัดลมธรรมดาหรือโฟลท์โยเกิร์ต กาแฟ โกโก้ ก็เริ่ดเช่นกัน

ร้านมีสาขาทั่วประเทศนะคะ แต่สาขาที่แอดมินไปมาอยู่ที่ชิบุย่าค่ะ หาง่ายๆ อยู่แหล่งช็อปเลย จาก Shibuya Station ออกประตู Hachiko ข้ามถนนมาฝั่งสตาร์บัค เดินเข้าตรอกนั้นแหละ เดินตรงมาๆ เจอเลย ร้านอยู่ใกล้ๆ ABC MART ก่อนถึง Mc Donald ค่ะ ดูเมนูเพิ่มเติมได้ที่ first-kitchen.co.jp เลยคร้า

ร้านที่ 3 เกี๊ยวซ่ารสชาติเด็ดดวงที่ร้าน Gyoza no Osho

ถามว่าร้านนี้นางดังแค่ไหน เอาง่ายๆ แค่เราพิมพ์คำว่า เกี๊ย…ลงไปในกูเกิล.jp แค่นั้น (นี่ขนาดยังสะกดไม่ครบคำว่าเกี๊ยวเลยนะคะ) ชื่อร้านนางก็จะเด้งขึ้นมาเป็นอันดับแรกอ่ะคิดดู๊ !!!! เป็นร้านอาหารจีนแต่ปรับรสชาติให้เป็นสไตล์เจแปนนีส อาจฟังดูสับสนหน่อยแต่อร่อยมากนะคะ คอนเฟิร์ม!

 เมนูเด็ดก็คือเกี๊ยวซ่าและข้าวผัดหมูในตำนาน รสชาติอร่อยสุดๆ สมคำร่ำลือ เป็นเมนูธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา ถ้าไม่ได้ลิ้มลองจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน

ต่อด้วยผัดผักรวมมิตร หมูผัดกิมจิ กุ้งผัดเผ็ด ราเมนขนมจีบ และของหวาน
 
จริงๆ แล้วร้านนี้มีสาขามากมายทั่วโตเกียวนะคะ แต่ถ้าใครสนใจอยากมาลองทาน แอดก็ขอแนะนำสาขาที่อยู่ในย่านแหล่งช็อปปิ้งให้ค่ะ

สาขาที่ Shibuya Station ออกประตู Hachikoข้ ามถนนมาที่ฝั่ง 109 Mens ร้านจะอยู่ตรงซอยขวามือ (ซอยทางด้านซ้ายคือซอยใหญ่ๆ ที่เราชอบเดินช็อปปิ้งกัน) เดินเข้าซอยไปปุ๊บ จะเจอร้านทันทีเลยค่ะ ร้านอยู่ใต้ทางรถไฟ จากสถานีเดินไปไม่เกิน 5 นาที

สาขาที่ Kawasaki Station ออกประตู East Exit มาแล้วก็เดินเลี้ยวขวาลงบันไดออกมาจากตึก เสร็จปุ๊บเลี้ยวขวาอีกที ร้านจะติดกับร้านสะดวกซื้อ Newsday เลยค่ะ เดินประมาณ 5 นาทีเหมือนกัน

ร้านที่ 4 Hibiya Matsumotoro ร้านอาหารตะวันตกสไตล์ญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาด

ร้านนี้บรรยากาศดีมาก ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เพราะว่าร้านอยู่ในสวนสาธารณะ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการนั่งรับลมธรรมชาติสูดโอโซนที่โซนสวนด้านนอก หรือว่านั่งตากแอร์ชิลล์ๆ ในร้าน

อาหารจานเด็ดของที่นี่คือข้าวห่อไข่ที่มีซอสสองชนิด แอดมินเลือกซอสซีฟู๊ดและแกงกะหรี่ค่ะ ข้าวห่อไข่รสชาตินุ่มละมุนลิ้น ทานคู่กันกับซอสซีฟู๊ดรสชาติเข้มข้นและแกงกะหรี่ที่เคี่ยวมาเป็นอย่างดี จานนี้ทานหมดแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ อร่อยมากๆ ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อบอุ่นเหมือนทานอาหารโฮมเมดฝีมือคุณแม่เลยค่ะ อีกจานที่ยอดเยี่ยมมากๆ ก็คือกราแตงค์ คือแอดไม่รู้จะอธิบายว่าอร่อยยังไงดี เอาเป็นว่าเป็นกราแตงค์ที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยทานมาเลยค่ะ เขียนรีวิวไป นึกถึงรสชาติไป หิวขึ้นมาทันที

และอีกจานที่มาถึงแล้วไม่ลองไม่ได้ก็คือสปาเก็ตตี้ซีฟู๊ดค่ะ ของทะเลสดๆ กับเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม คลุกเคล้าซอสสูตรเฉพาะของทางร้านที่รสชาติกลมกล่อม อร่อยจนหยุดไม่ได้เลยทีเดียว

การเดินทาง นั่งรถไฟสาย Hibiya Line หรือ Chiyoda Line ลงที่ Hibiya Station เดินออกที่ทางออก A14 Exit เมื่อออกมาจากสถานี เห็นสวนสาธารณะ Hibiya Park ให้เดินเข้าไปในสวนเลยค่ะ ร้านตั้งอยู่ตรงกลางของสวนสาธารณะ เดินไปเพียงแค่ 1-2 นาทีเท่านั้นค่ะ หรือหากมาจากสถานี JR Yurakucho โดยรถไฟสาย Yamanote Line หรือ Keihintohoku Line เดินออกที่ทางออก Hibiya Gate Exit แล้วเดินต่อไปประมาณ 4-5 นาทีค่ะ

ร้านที่ 5 Irokawa

ร้านข้าวหน้าปลาไหลในตำนานเปิดกิจการมานานกว่า 100 ปี ไม่ใกล้ ไม่ไกลค่ะอยู่แถววัดเซนโซจิ หรือวัดอะซะกุสะที่คนไทยเรียกกันติดปากนั่นเอง ข้าวหน้าปลาไหลที่ร่ำลือกันเรื่องความอร่อยระดับเทพ ร้านเล็กๆ แต่เปิดกิจการร้านข้าวปลาไหลต่อเนื่องกันมาถึง 6 รุ่นแล้ว อั๊ยยะ!! นักชิมต่างยกนิ้วให้เรื่องความอร่อย ปลาไหลย่างกำลังดี ชุ่มไปด้วยน้ำซอสสูตรเฉพาะ ข้างนอกเกรียม เนื้อปลาข้างในนุ่ม ชุ่มซอส เรียกว่าเป็นรสชาติที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียวค่ะ

แอดยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองข้างเลยคร้า 

ข้าวหน้าปลาไหลหนึ่งเซ็ทจะมีข้าวปลาไหลหนึ่งกล่อง น้ำซุป และผักดอง มีให้เลือกสองขนาดคือขนาดปรกติ หรือขนาดใหญ่พิเศษ ถ้าเราเลือกขนาดปรกติจะได้ปลาไหล 2 ชิ้น แต่กล่องข้าวขนาดใหญ่จะได้ปลา 3 ชิ้นค่ะ ราคาขนาดปรกติอยู่ที่ 3,000 เยน ส่วนขนาดใหญ่ 4,100 เยนค่ะ สำหรับแอดเลือกขนาดปรกตินะคะ เพราะว่าต้องเผื่อพื้นที่ในท้องไปเก็บอาหารอร่อยร้านอื่นๆ ต่อด้วยค่ะ อิ อิ

ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวที่วัดอะซะกุสะ ก็แค่เดินมาทางประตูคามินาริมงแล้วก็หันหลังให้โคมแดง ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม แล้วเดินไปทางขวามือ สังเกตว่าจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อ Ozeki อยู่หน้าปากซอย พอเห็นซุปเปอร์นี้ปุ๊บ อย่ารอช้าค่ะ เลี้ยวเข้าซอยไปเลย พอเข้าซอยมาแล้ว ก็เดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร สังเกตบ้านสีเขียวๆ ด้านขวามือ มีป้ายร้านติดอยู่ แอดว่าหาง่ายมากๆ ค่ะ แค่เดินตามกลิ่นปลาไหลย่างหอมๆ ที่ลอยโชยมาตามลมก็เจอแล้วค่ะ

แต่ถ้าตั้งใจมาทานโดยที่ไม่ได้มาวัด ก็แค่นั่งรถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line มาลงที่ Asakusa Station เดินออกมาทาง Exit 2 แล้วข้ามถนนไปทางด้านซ้ายมือ เส้นทางที่เราต้องเดินจะขนานไปกับวัดอะซะกุสะ (เราเดินไป วัดอะสะกุซะอยู่ด้านขวามือของเราค่ะ)

ร้านที่ 6 Sushi no Midori ซูชิเทพ ราคาคนเดินดิน

ถ้าอยากทานซูชิที่สด ใหม่ ปลายาวกว่าข้าวปั้น แต่ราคาไม่แรง ใครๆ ก็ทานได้ ต้องร้านนี้เลยค่ะ ซูชิโนะมิโดริ ร้านนี้ถ้าเราไปเหยียบโตเกียวแล้วไม่ได้แวะไป กลับมาแล้วจะเสียใจหนักมากนะคะ เชื่อแอดค่ะ เป็นร้านที่คู่ควรแก่การแวะอย่างยิ่ง

ถ้าไปช่วงกลางวันเราอาจจะต้องรอคิวนานเป็นชั่วโมงๆ แนะนำให้ไปก่อนมื้อเที่ยงหรือไม่ก็หลังมื้อเที่ยงไปเลยจะดีกว่านะคะ สาขาในห้างคนแน่นเอี๊ยด วันนี้แอดขอแว่บมาที่สาขากินซ่า ช่วงบ่ายๆ คนไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าโชคดีรออย่างเร็วก็ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น ถ้าโชคร้ายคนเยอะ รออย่างช้าก็เป็นชั่วโมงเหมือนกันค่ะ ดังนั้นไปตามเวลาที่แอดบอกนะคะ

แอดเลือกสั่งเซ็ทเมนูคัดสรรมาเป็นพิเศษ ขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดเท่านั้น ราคาอยู่ที่เซ็ทละ 2,500 เยน คุ้มค่ามหาศาล ประกอบด้วยซูชิเน้นๆ 10 คำ ไข่ตุ๋นไซส์มินิ และสลัดปูมิโซะไซส์มินิ (เป็นสลัดที่อร่อยมาก มันปูทำให้ทานเพลินเลยค่ะ) ซูชิแต่ละชิ้นเต็มปากเต็มคำมากๆ โดยเฉพาะปลาไหลที่มาตัวยาวๆ ชุ่มซอส เนื้อนกเป็ดน้ำที่ละลายในปาก หอยเชลล์ตัวบิ๊กบึ้ม กุ้งสดหวานอร่อยไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน โอโทโร่ โอ๊ย..มันอร่อยสุดๆ ทานหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว เรียกว่าที่นี่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลยค่ะ อร่อยสมคำร่ำลือ

การเดินทางไปยังสาขากินซ่า ถ้าเดินทางมาด้วย JR YamanoteLine ลงที่ Shimbashi Station ทางออก Ginza Exit ยิ่งถ้าเดินเล่นอยู่แถวกินซ่าที่ถนน Chuo Dori ซึ่งเค้าจัดให้เป็นถนนคนเดินในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เดินเล่นเสร็จแล้วหิวๆ ก็แค่เดินไปที่แยกกินซ่า รคคุ โชวเมะ หรือ กินซ่า แยก 6 ดูตามป้ายที่แยกของถนนนะคะ จะเขียนว่า Ginza 6 Chome จุดสังเกตคือข้างหน้าปากซอยทั้งสองฝั่ง ทั้งซ้ายและขวาจะเป็นร้านชิเซโด้ (Shiseido) ซึ่งเป็นร้านสีแดงๆ เราเลี้ยวเข้าซอยนั้นแล้วเดินตรงไปให้สุดทาง พอมาเจอถนนใหญ่ก็ข้ามถนนไปอีก เดินต่อไปให้สุดทางเลยนะคะก็จะเจอมิโดริซูชิทันทีเลยค่ะ

ร้านที่ 7 Tokyo Station Buffet บุฟเฟต์ปูสถานีโตเกียว

ร้านที่เราทานปูได้แบบไม่อั้น ปูจ้ะปู ปูเนื้อๆ ปูเน้นๆ เป็นบุฟเฟต์ปูที่อยู่ในเมือง ไม่ต้องไปไกลถึงฮอกไกโด ร้านก็หาไม่ยาก ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด คุณค่าที่คุณคู่ควร
แน่นอนจุดเด่นของร้านนี้คือขาปูที่สามารถทานได้ไม่อั้น เนื้อปูแน่นๆ พร้อมเสิร์ฟ ทานได้มากเท่าที่ต้องการ

นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารอื่นๆ ให้บริการด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่คัดสรรมาบริการหลากหลายเมนู หอยเชลล์ กุ้งหวาน เทมปุระ หรือหากใครชอบอาหารตะวันตก พิซซ่าที่นี่ก็อร่อยมากเช่นกัน มีหลายหน้าให้เลือก พาสต้า สลัด ซอฟท์ดริ๊งค์ที่เลือกดื่มได้ตามใจชอบ

ไฮไลท์ที่แอดมินชอบมากๆ ก็คือ เค้กของที่นี่อร่อยเกินคาดนะคะ ทั้งเค้ก ทั้งเยลลี่ และยังมีขนมญี่ปุ่นอีก เรียกว่าเป็นร้านที่เหมาะกับคนทุกวัยในครอบครัว มาที่นี่ที่เดียว เลือกทานได้ตามใจชอบ อิ่มอร่อยถูกใจกันทุกคนแน่นอนค่ะ

ส่วนราคาระหว่างวันธรรมดาและวันหยุด ราคาจะต่างกัน วันหยุดราคาอาหารต่อหัวจะแพงกว่าวันธรรมดาเล็กน้อย วันธรรมดา มื้อกลางวันราคา 1,890 เยน มื้อเย็น 2,730 เยน ส่วนวันหยุด มื้อกลางวันราคา 2,100 เยน มื้อเย็นราคา 2,940 เยน

การเดินทาง นั่ง JR Yamanote Line หรือ รถใต้ดินสาย Tokyo Metro Marunouchi Line ลงที่ Tokyo Station ออกมาที่ทางออก North Yaesu Exit เดินตรงเข้าไปในห้าง Daimaru แล้วขึ้นไปที่ชั้น 12 ค่ะ

ร้านที่ 8 Ichiran Ramen ราเมนข้อสอบ

ร้านนี้เป็นร้านราเมนเก่าแก่แต่มีความแปลกกว่าร้านราเมนอื่นๆ อยู่สองอย่าง อย่างแรกลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งหมดว่าต้องการอะไรบ้างหรือไม่ต้องการอะไรบ้าง เช่น ระดับความแข็งหรือนุ่มของเส้น อยากกินแบบเส้นแข็งแบบที่โยนใส่หมอปุ๊บ ตักขึ้นมาเลยก็ได้ หรือจะกินเส้นแบบนุ่มๆ เลยก็เลือกได้ตามต้องการ

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบที่อาเจ๊ร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านเราหงุดหงิด ถ้าเอานู่น ไม่เอานี่ อะไรแบบนี้ แต่ว่าที่นี่ไม่หงุดหงิดค่ะ เค้าอยากให้ราเมนทุกชามถูกใจลูกค้าทุกคน ใส่ต้นหอมมั้ย ใส่กระเทียมเจียวหรือเปล่า หมูชาชูล่ะต้องการมั้ยเลือกได้จร้า เรียกว่าถ้ามาทานราเมนที่ร้านนี้ ไม่ต้องเขี่ยอะไรออก ไม่ต้องเขี่ยอะไรทิ้ง เพราะว่าเราจะใส่หรือไม่ใส่อะไรเลือกได้ตามใจ ทั้งอร่อยถูกปากและมีแต่ของที่เราชอบถูกใจทั้งนั้น

น้ำซุปสูตรต้นตำรับเฉพาะของอิจิรันราเมนที่มัดใจลูกค้าทั้งชาวญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ลูกค้าแน่นร้านพิสูจน์ได้ว่ารสชาติราเมนและน้ำซุปของเค้านี่อร่อยจริงไม่อิงนิยาย และไม่ใช่อร่อยอย่างเดียวนะคะ ทางร้านเค้าโฆษณาว่าราเมนของเค้านั้นมีคอลลาเจนธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้โดยง่าย เรียกว่าอิ่มด้วย สวยด้วยกันเลยทีเดียว

อย่างที่สองที่แปลกก็คือเก้าอี้ของร้านนี้เป็นแบบตอนเดียว ลูกค้าแต่ละคนจะมีฉากเล็กๆ กั้นอยู่ เพื่อความเป็นส่วนตัว เวลาที่พ่อครัวทำราเมนของเราเสร็จ เค้าก็จะเสิร์ฟให้ที่หน้าต่างที่มีอยู่ที่แต่ละโต๊ะ หลังจากส่งราเมนเสร็จก็ปิดม่านลง เรียกว่าส่วนตัวกันแบบที่สุดของที่สุดเลยค่ะ

การเดินทาง ร้านนี้มีหลายสาขาทั่วโตเกียว แต่แอดขอแนะนำสาขาชิบุยะ ซึ่งเป็นย่านที่คนไทยรู้จักดี และร้านสาขานี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่นั่งรถไฟมาลงที่ Shibuya Station เดินมาที่ทางออก Hachiko Exit แล้วมองไปฝั่งตรงข้าม ซอยที่มีร้านสตาร์บัคอยู่ชั้น 2 นั่นแหละค่ะ เดินข้ามถนนแล้วเดินไปในซอยนั้นเลย เดินไปสักพักประมาณ 3 นาที ร้านอิจิรันจะอยู่ทางด้านขวามือนะคะ สังเกตป้ายร้านสีเขียวแดงนะคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ichiran.co.jp/english/

ร้านที่ 9 Marion Crapes Harajuku

ร้านเครปเก่าแก่เปิดกิจการมากว่า 39 ปี หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าถ้าอยากหาเครปอร่อยๆ ให้มาที่ฮาราจูกุ สวรรค์ของวัยรุ่นแห่งแดนปลาดิบ แต่ว่าร้านเครปในฮาราจูกุก็มีมากมายหลายร้านมากๆ จะเลือกร้านไหนดี แอดขอให้สังเกตป้ายสีน้ำเงินของร้านไว้ให้ดี ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ ขายมาตั้งแต่ปี 1976 แรกเริ่มเดิมทีร้านเครปร้านนี้เป็นร้านรถเข็น ตระเวนขายไปตามที่ต่างๆ จนตอนนี้ได้กลายเป็นร้านที่ครองแชมป์เครปขวัญใจวัยรุ่นญี่ปุ่นไปแล้ว มีสาขามากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ

เครปร้านนี้มีให้เลือกสองแบบคือเครปร้อนและเครปเย็น แบบร้อนก็อย่างเช่นหน้าช็อกโกแลต หน้าแอปเปิ้ลชินนาม่อน หน้าสตอเบอร์รี่แยมชีส ส่วนแบบเย็นก็เช่น หน้าสตอเบอรี่ ครีมคัสตาร์ด ครีมสด หน้าของเครปนั้นมีให้เลือกหลากหลายมากๆ ดูแบบได้ที่ตู้กระจกหน้าร้าน

นอกจากนี้ยังมีเครปพิเศษ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลอีกด้วย เช่น เครปฟักทอง เครปส้มและเครปผลไม้อื่นๆ อย่างที่แอดมินได้ลองเครปฟักทอง อร่อยมาก ไอศครีมรสฟักทอง ท็อปปิ้งเป็นครีมฟักทองรสนุ่มนวล หวานแบบธรรมชาติ เวลาที่ทานพร้อมๆ กับครีมสดของทางร้าน ที่มีรสไม่หวานเกินไป แป้งเครปก็บางและนุ่ม จัดว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกันเป็นอย่างดี อร่อยที่สุดเลยค่ะ และแน่นอนเมนูแนะนำแบบไม่ใช่กรูรูแต่กรูรูของถูกในโตเกียวนั้น ไม่ใช่ว่าอร่อยอย่างเดียว ราคาก็ต้องดีงามเช่นกันไม่แพงค่ะไม่แพง จ่ายได้แบบสบายกระเป๋าเลยค่ะ

การเดินทาง นั่ง JR Yamanote Line ลงที่ Harajuku Station ทางออก Takeshita แล้วเดินเข้ามาในถนนทาเกะชิตะ เส้นช็อปปิ้งของวัยรุ่นฮาราจูกุ จุดสังเกตคืออยู่ตรงกันข้ามกับร้านขายยา Matsumoto Kiyoshi ค่ะ

ร้านที่ 10 Saizeriya อาหารฝรั่งรสชาติแบบญี่ปุ่น ราคาสบายกระเป๋า

บางทีพอทานอาหารญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็อาจจะมีเบื่อๆ เลี่ยนๆ กันได้ เปลี่ยนรสชาติมาลองทานอาหารฝรั่งดูบ้างก็ดีนะคะ แต่ว่าก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอยู่นะคะที่ร้านไซซีริยะ

เมนูเด็ดคือฟิซซ่าแป้งบางๆ และปีกไก่ทอดรสบาร์บีคิว หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำซอส ร้านนี้เป็นร้านแบบครอบครัวที่กำลังได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นอย่างมาก เรียกร้านแบบนี้ว่า Family Restaurant เหมาะกับคนทุกวัย รวมทั้งวัยรุ่นที่เป็นนักเรียน นักศึกษาก็นิยมร้านนี้เช่นกันนะคะ เพราะว่าอาหารราคาไม่แพง อร่อย ได้ปริมาณเยอะ และอาหารมีคุณภาพคุ้มราคา จนร้านนี้ติด 1 ใน 10 ของร้านที่อาหารมีความคุ้มค่ากับราคา และรับประกันเรื่องรสชาติว่าอร่อยถูกปากแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีอาหารพิเศษที่มีเฉพาะฤดูกาล ตัวอย่างเช่นช่วงเดือน 12 มีสปาเก็ตตี้เห็ดคิโนโกะ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี เส้นสปาเก็ตตี้ที่ต้มมาสุกกำลังดี คลุกเคล้ากับซอสเห็ดคิโนโกะและหมูสามชั้นสไลด์ชิ้นเล็กๆ และหอมเครื่องเทศอีกด้วย เป็นเมนูที่เลอค่ามากค่ะ

ในร้านหากลูกค้าต้องการดื่มเครื่องดื่มแบบเติมได้ไม่อั้น สามารถแจ้งพนักงานและเพิ่มเงินอีกเพียง 180 เยนเท่านั้น ก็สามารถดื่มเครื่องดื่มที่ดริงค์บาร์ได้ทุกชนิด เมนูแนะนำอื่นๆ ก็อย่างเช่น พิซซ่าหน้าปลาแอนโชวี สปาเก็ตตี้เมนไทโกะและสเต็กไก่ชีส

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทีมงานฯเองแค่ได้อ่านรีวิวของคุณดาวก็หิวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ต้องขอฝากเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นลองไปแวะพิสูจน์ความเจ๋งของแต่ละร้านกันด้วยนะคะ

ส่วนใครที่อยากรู้ว่าในโตเกียวมีแหล่งช้อปปิ้งราคาถูก วิธีการใช้จ่ายถูกลงในโตเกียว และจะหาจะใช้คูปองส่วนลดตามร้านค้าต่างๆ ได้อย่างไร ไปซื้อหนังสือ หรือกดติดตามเพจกันได้เลยค่ะ

ทีมงานซูมซอกแซกดอทคอม