บันทึกไว้ในความทรงจำ

ผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์เต็มๆ สำหรับวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 83 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2553 ที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานถวายอย่างยิ่งใหญ่อีกปีหนึ่ง

เป็นความยิ่งใหญ่ที่จะยืนยงคงอยู่ในหัวใจอาณาประชาราษฎร์ไปอีกนานแสนนาน

ทีมงานซอกแซกจึงใคร่ขอบันทึกบางส่วนที่มีโอกาสเข้าร่วมในงานต่างๆ ในฐานะพสกนิกรที่มีความจงรักภักดีอย่างเปี่ยมล้น และมีความภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้เกิดมาเป็นข้าแผ่นดินของพระองค์

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2553 เวลา 21.00 น. ทีมงานได้มีโอกาสไปเดิน ณ ริมถนนราชวิถี ข้างพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อดูชมนิทรรศการ “ภาพถ่ายข้างบ้านพ่อ” ที่พสกนิกรซึ่งอยู่อาศัย ณ ถนนราชวิถีได้จัดขึ้น

ทุกๆบ้านริมถนนดังกล่าวได้นำภาพถ่าย หรือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน หรือภาพที่เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริของพระองค์ท่านมาตั้งแสดงที่ริมรั้วเรียงรายจากหัวถนนถึงท้ายถนน

ใครมีภาพอะไร โดยเฉพาะภาพเก่าๆที่หาดูหาชมได้ยาก ก็จะนำมาใส่กรอบติดไว้ที่ข้างรั้ว

หลายๆ บ้านจะมีขวดน้ำดื่มแช่เย็นมาตั้งไว้พร้อมติดประกาศว่า “เชิญดื่มฟรี” นับเป็นภาพที่เห็นแล้วน่าตื้นตันใจไม่น้อย

จากราชวิถี…ทีมงานซอกแซกเดินเรื่อยๆ ไปจนถึงสี่แยก แล้วก็เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อไปดูไฟที่ประตูด้านหน้าที่จะอยู่ในความสนใจของประชาชนมาทุกๆ ปี

แม้นว่าในระยะหลังๆพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวจะเสด็จประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช แต่ประชาชนก็ยังไปถ่ายภาพ และร่วมชื่นชมที่ประตูด้านหน้าตรงข้ามกับสวนสัตว์ดุสิตอย่างเนืองแน่นเสมอๆ

ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน แม้จะใช้ดวงไฟเพียงสีเดียว คือสีเหลืองอ่อนธรรมดาๆ แต่ก็ดูโดดเด่นและสวยงามเพราะประดิดประดอยเป็นรูปหงส์บ้าง รูปฉัตรบ้าง แพรวพราวตลอดทั้งบริเวณประตู

ยังคงเป็นจุดสนใจของประชาชนที่ไปยืนถ่ายรูปกันอย่างมากมายเฉกเช่นทุกปี

ทีมงานเดินต่อไปจนสุดรั้ววัง พอถึงสี่แยกหน้าวัดเบญจมบพิตร ก็เดินข้ามผ่านหน้าวัดและสนามเสือป่า มุ่งหน้าไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

ณ จุดนี้ เป็นจุดหนึ่งของการจัดงาน มีการแสดงดนตรีวงใหญ่ มีการออกร้านของกระทรวงทบวงกรมต่างๆบริเวณหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งก็มีประชาชนไปฟังดนตรีและดูชมนิทรรศการอย่างเนืองแน่น

ทีมงานสังเกตบรรยากาศอยู่พักหนึ่งก็เดินย้อนกลับมุ่งหน้าไปยังถนนราชดำเนินนอก เพื่อไปยังสะพานมัฆวานรังสรรค์ และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะมีการออกร้านของกรมกองต่างๆ ในกระทรวงศึกษาธิการ

โดยเฉพาะบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม จะเป็นสถานที่แสดงผลงานของบรรดาสถาบันอาชีวศึกษาจากทั่วประเทศ ซึ่งตกแต่งเป็นสวน นานาชนิดประชันกันอย่างงดงาม

ทีมงานได้มีโอกาสเดินชมสวนหย่อม และสวนไม้ดอกจากวิทยาลัยเทคนิคทั่วประเทศด้วยความประทับใจ และขอปรบมือย้อนหลังให้อีกครั้งหนึ่ง

ในช่วงขากลับ ทีมงานเดินเลาะผ่านไปทางหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งก็มีการประดับไฟสวยสดงดงามเช่นกัน

จากการออกตระเวนและมีส่วนร่วมกับประชาชนนับแสนคนในการถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีนี้ นับเป็นความปลื้มปีติและความสุขใจอย่างหาที่สุดมิได้ของทีมงานซอกแซก

สำหรับงานเฉลิมฉลองและจุดเทียนถวายพระพรชัยในวันรุ่งขึ้น 5 ธันวาคมนั้น แม้ทีมงานจะมิได้มีโอกาสออกไปร่วม แต่ก็ได้ติดตามการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยตลอด

ทั้งพิธีที่บริเวณหน้าศาลฎีกา ซึ่งเป็นพิธีหลักในการร่วมใจเปล่งเสียงถวายพระพรทั้งในประเทศไทยและจากคนไทยทั่วโลก พร้อมด้วยพิธีถวายพระพรในลำน้ำเจ้าพระยาที่จัดขึ้นเป็นพิเศษในปีนี้

ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับช่อง 9 ของเคเบิลทีวีทรูวิชั่นส์ ที่ช่วยถ่ายทอดสดกิจกรรมบริเวณริมน้ำเจ้าพระยาให้ดูตั้งแต่ต้นจนจบเกือบ 5 ชั่วโมง

ทีมงานไม่ทราบมาก่อนเพราะในวันงานตามดูแต่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจที่ถ่ายเพียงประเดี๋ยว ประด๋าว ไม่เต็มอิ่มนักในช่วงถวายพระพรทางเรือ

ปรากฏว่าในตอนตี 5 หัวหน้าทีมซอกแซกตื่นมาเปิดทรูวิชั่นส์กดรีโมตไปเรื่อยๆ จึงได้ดูการบันทึกเทปที่เขาออกอากาศอีกรอบ ทำให้มีโอกาสดูชมการแสดงทั้งหมดที่หน้าเวทีลอยน้ำหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และดูขบวนเรือตลอดจนการปล่อยโคมขึ้นสู่ท้องฟ้าที่สวยสดงดงามสุดบรรยายอย่างเต็มอิ่ม

ขอบันทึกไว้ด้วยความขอบคุณ และถ้าจะนำมาออกอากาศใหม่ช่วยประกาศล่วงหน้าด้วย… ทีมงานซอกแซกเชื่อว่าผู้คนอีกหลายล้านคนที่ผิดหวังจากการถ่ายทอดของรวมการเฉพาะกิจคงอยากดูการบันทึกการถวายพระพรครั้งประวัติศาสตร์ ดังกล่าวอย่างเต็มอิ่มอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน

อนึ่ง ทีมงานซอกแซกได้รับรายละเอียดจาก บริษัทอาร์เอส ในฐานะฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโครงการเหรียญที่ระลึกในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดทำโดยโรงกษาปณ์แห่งรัฐบาลฟินแลนด์มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ตั้งใจจะช่วยประชาสัมพันธ์ต่อตั้งแต่ก่อนงาน แต่ก็พลาดจังหวะไป จึงขออนุญาตนำกล่าวถึงในท้ายคอลัมน์วันนี้

เหรียญที่ระลึกชุดนี้มีทั้งสิ้น 6 เหรียญ ผลิตจากวัสดุทองบอร์ดิกเป็นสีทองสวยงามมาก ด้านหน้าเหรียญทุกเหรียญเป็นพระบรมรูปของพระองค์ท่าน ส่วนด้านหลังก็จะเป็นผลงานที่สำคัญต่างๆ เป็นเหรียญที่ตั้งใจทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในวาระฉลองสิริราชสมบัติฯครบรอบ 60 ปี ควรค่าแก่การเก็บไว้เป็นที่ระลึกอย่างยิ่ง

ราคาจำหน่ายชุดละ 990 บาท รายได้หลังหัก ค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ติดต่อสั่งจองได้ที่ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกสาขา หรือผ่านระบบ e-commerce เว็บไซต์ www.kinginitiativemedal.com ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 25 ธันวาคม

ล่าสุด ได้รับแจ้งว่าหนังสือประมวลภาพประทับใจเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนี้ในทุกๆด้าน ได้รับการตีพิมพ์ 4 สี ด้วยกระดาษอาร์ตอย่างดี สวยสดงดงามมาก ภายใต้ชื่อเรื่อง “มวลประชาแซ่ซ้อง สดุดีพ่อของแผ่นดิน 84 พรรษา” โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์มัลติมีเดียฯ มีจำหน่ายตามแผงและร้านหนังสือทั่วไปแล้ว…เล่มละ 65 บาทเท่านั้นครับ.

“ซูม”