วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2567) ตามปฏิทินไทยของเราก็คือ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 2 แต่ในปฏิทินจีนที่ผมและพวกเราฝ่ายข่าวกีฬาไทยรัฐได้รับแจกมาจาก “เฮียฮง” หรือสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จะพิมพ์ด้วยถ้อยคำตัวโตๆ อ่านได้ใจความว่า “วันไหว้สิ้นปี…ไหว้รับไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ”
ก่อนไปญี่ปุ่นครั้งนี้ผมนั่งทำการบ้านล่วงหน้าพบว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัวแล้ว ฟื้นอย่างรวดเร็วมากตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา พลิกความคาดหมายของกูรูเศรษฐกิจที่มองว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายจะเพิ่มไม่มากนัก รวมทั้งญี่ปุ่นด้วย
ก่อนจะเขียนถึงหัวข้อที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะเขียนในวันนี้ขอปรบมือให้แก่ทีมสืบสวนสอบสวนของท่าน ผบ.ตร.บิ๊กแป๊ะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่สามารถจับกุมคนร้ายใจเหี้ยมที่บุกชิงทองคำ และสังหารผู้เคราะห์ร้ายหลายศพที่จังหวัดลพบุรีได้แล้ว
ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับงานตรุษจีนเยาวราชเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากจะเป็นการแถลงจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเยาวราชโดยตรง ถึงกิจกรรมต่างๆ แล้ว ก็ยังมีถ้อยแถลงที่เกี่ยวกับเยาวราชโดยอ้อมๆ คือจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะมาเที่ยวประเทศไทย ทั้งที่จะมาเที่ยวเยาวราชและที่อื่นๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นของแถมให้ด้วย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์หลายฉบับว่า มีการจัดงานเลี้ยง “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่มีน้ำหนักถึง 4.5 ล้านตันให้แก่ทัวร์จีนกว่า 10,000 คน นั่งหม่ำอย่างเอร็ดอร่อย ที่ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี
หลายๆ ปีมานี้นับตั้งแต่มีประเพณีนิยม “ไหว้พระ 9 วัด” เกิดขึ้นในวันปีใหม่ ผมมักจะออกจากบ้านไปร่วมประเพณีกับเขาด้วยเสมอๆ
ผมเขียนผ่านคอลัมน์นี้ไปเมื่อ 2–3 วันก่อนว่า นักธุรกิจที่อยู่ในแวดวงท่องเที่ยวบ่นกันมากว่านักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะในช่วง “สัปดาห์ทองคำ” หรือช่วงหยุดยาวในเทศกาลฉลองวันชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ผมนั่งลุ้นนั่งรอมากว่าเดือนเต็มๆ ว่าหลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม จนทำให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตไปถึงกว่า 50 รายนั้น…สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร?
ในขณะที่ทั่วโลกต่างชื่นชมปฏิบัติการช่วยเหลือ “13 หมูป่าอะคาเดมี” ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนได้อย่างมหัศจรรย์นั่นเอง ก็มีข่าวอีกชิ้นหนึ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกันที่ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยหมองลงไปไม่น้อย