วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2564 วัน “ปิยมหาราช” น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ผู้ทรงนำพาประเทศชาติผ่านพ้นจากการไล่ล่าของจักรวรรดินิยมในอดีต อันเป็นผลให้สยามประเทศไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก
วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564…นอกจากเป็นวันสบายๆ ได้หยุดงานได้พักผ่อนหย่อนใจกันแล้ว…เสาร์นี้ยังเป็นวัน “ความหวังแห่งชาติ” เพราะเป็นวัน “หวยออก” อีกด้วย…
วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม…วันสบายๆ ที่ควรพักผ่อนสมองพักผ่อนร่างกาย…ได้เวลา “เสาร์สารพัน” กลับมาชวนเที่ยวงาน ชวนอ่านหนังสือ ได้ทั้งความรู้ และผ่อนคลายเช่นเคย แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังผลุบๆ โผล่ๆ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงอยู่ตลอด
ได้เวลา “เสาร์สารพัน” กลับมารับใช้ท่านผู้อ่านสัปดาห์ละครั้งอีกแล้วครับท่าน…ประจำวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม เสาร์แรกของเดือนที่ 10 แห่งปี 2564 ซึ่งเหลืออีกเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นก็จะต้องโบกมืออำลา…รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มจริงๆ นะครับ
โควิด-19 ยังผลุบๆโผล่ๆทำท่าเหมือนจะซาลง แต่ก็กลับกระดกสูงขึ้นทั้งในระดับโลกและบ้านเรา…ระดับโลกยังติดใหม่เกินวันละ 500,000 บ้านเราก็ยังติดใหม่เกินวันละ 10,000 ดังนั้นจึงยังต้องยกการ์ดกันต่อไปด้วยความไม่ประมาท แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 ได้เวลา “เสาร์สารพัน” อีกแล้วครับท่าน และก็ได้เวลาที่คอลัมน์นี้จะชวนท่านผู้อ่านไปเที่ยวโน่นดูนี่แบบ “นิวนอร์มอล” และระมัดระวังตัวอย่างสุดขีดเช่นเคย
วันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564 ได้เวลา “เสาร์สาระพัน–นิวนอร์มอล” กลับมาพบท่านผู้อ่านเช่นเคย แม้บรรยากาศโควิด–19 จะเริ่มคลี่คลาย แต่ยอดติดเชื้อใหม่ก็ยังน่ากลัวและเสียชีวิตก็ยังสูงมาก เพราะฉะนั้นยังต้อง “ระวังตัว” กันอย่างสุดชีวิตเช่นเดิม
วันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2564 วันเสาร์แรกของเดือนกันยายนมาพร้อมกับข่าวดีเล็กๆ หลัง ศบค. ประกาศ “คลายล็อก” ในพื้นที่สีแดง 29 จังหวัด รวมทั้ง กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่ 1 กันยายน เป็นต้นมา…
วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 เข้าสู่โหมดวันพักผ่อนปลายสัปดาห์ รายการ “เสาร์สารพัน” ยุคสู้โควิด-19 ชวนท่านผู้อ่านหาความสุขอยู่กับบ้านตามนโยบาย “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ของรัฐบาลกลับมารับใช้ท่านผู้อ่านเช่นเคยนะครับ
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 ได้เวลาวันเบาๆ “เสาร์สารพัน” กลับมาชวนท่านผู้อ่านหาความสุขอยู่กับบ้านเท่าที่จะหากันได้ ตามนโยบายสู้โควิด–19 “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ของรัฐบาลไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย…ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไร เพราะยังหนักหน่วง ทั้งทั่วโลกและในไทยแลนด์ของเรา ณ บัดนาว