“ศาลาไทย” ติดท็อปไฟว์ งาน “เวิลด์เอ็กซ์โป” ดูไบ

เคยจั่วหัวไปตอนต้นเดือนตุลาคมว่า “ศาลาไทย” ใน “Expo ยิ่งโดนด่า ยิ่งโด่งดัง” ด้วยเหตุที่หัวหน้าทีมซอกแซก ไปงาน Expo มาแล้ว 4 ครั้ง ได้ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ (จากคนไทย) แทบทุกครั้งในขณะที่ชาวต่างชาติกลับแห่ไปชมแน่นขนัด

หลังเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา “ฤทธิ์ ศิษย์ซูม” ทีมงานซอกแซก มีภารกิจต้องเดินทางไปเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว จึงแวะชมงาน World Expo 2020 Dubai มารายงานมิตรรักแฟนคลับเหมือนเช่นเคย

ภาพรวมของงานต้องยอมรับว่า เจ้าภาพทุ่มทุนสร้างได้อลังการมาก สามารถเนรมิตพื้นที่ทะเลทรายแห้งแล้ง ให้กลายเป็นเมืองดิจิทัลแห่งโลกอนาคตได้

ก่อนลุยซอกแซกภายในงาน ดร.ภาสกร ประถมบุตร รอง ผอ.สนง.ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Depa ในฐานะ ผอ.ศาลาไทย เล่าให้ฟังว่า ประเทศไทยเข้าร่วมงานเวิลด์เอ็กซ์โป ครั้งแรกที่อังกฤษ เมื่อ พ.ศ.2405 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 ถือว่านานโขทีเดียว

สำหรับครั้งนี้ศาลาไทยถูกเนรมิตบนพื้นที่ 2.25 ไร่ ใช้งบก่อสร้างและบริหารจัดการกว่า 800 ล้านบาท จัดว่าขนาดใหญ่ ที่สุดเท่าที่ไทยเข้าร่วมงานเวิลด์เอ็กซ์โป ภายใต้คอนเซปต์ “การขับเคลื่อนสู่อนาคต”

รูปแบบอาคารเป็นซุ้มโค้งคล้ายคนประนมมือไหว้ และนำเสน่ห์ของคนไทยมาร้อยเรียงอยู่ในทุกองค์ประกอบ ผ่านดอกไม้ไทยคือ ดอกรัก 500 ดอก ประดับประดาด้านบนอาคาร ช่วงกลางคืนจะมีแสงไฟระยิบระยับสวยงาม โดยมีมาสคอต “รัก” และ “มะลิ” เป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินตรงลานด้านหน้า

ด้านในศาลาไทย มีการจัดแสดงนิทรรศการ 4 ห้องหลัก โดยห้องที่ 1 Thai Mobility จัดแสดงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์และราชรถจำลอง ให้ความรู้เกี่ยวกับการเดินทางของคนไทยในอดีต

ห้องที่ 2 Mobility Of Life นำเสนอภาพยนตร์แอนิเมชัน สะท้อนความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน

ห้องที่ 3 Mobility Of The Future นำเสนอภาพยนตร์แอนิเมชัน 360 องศา แสดงภาพในอนาคตของไทย ที่ประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ผลักดันให้เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาค

ห้องที่ 4 Heart Of Mobility นำเสนอภาพยนตร์สั้น บอกเล่าเรื่องราวเสน่ห์ของประเทศไทยหลากหลายมิติ ที่สร้างความประทับใจให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมเยือน ทำธุรกิจ หรือใช้ชีวิตในประเทศไทย

ที่น่าภูมิใจที่สุดคือศาลาไทย ติดอันดับท็อปไฟว์คนเข้าชมสูงสุด จาก 192 ประเทศที่เข้าร่วมงาน โดยวันธรรมดามีผู้เข้าชมประมาณ 7,500 คน ส่วนวันเสาร์–อาทิตย์ มีผู้เข้าชมงานประมาณ 11,000 คนเลยทีเดียว

ส่วนการแสดงด้านหน้าศาลาไทยอีกจุดไฮไลต์สำคัญ มีการโชว์มวยไทยในรูปแบบกีฬาอีสปอร์ต การแสดงไทยประยุกต์ผสมผสานประเพณีไทยกับการละเล่น 4 ภาค และการแสดงโขนผ่านมัลติมีเดียและนักแสดงจริง จุดนี้ทีมงานซอกแซกรายงานว่าได้รับเสียงปรบมือดังสนั่นทุกรอบ

อีกมุมของศาลาไทย ถูกจัดเป็นอีเวนต์เล็กๆ ให้หน่วยงานรัฐหมุนเวียนจัดกิจกรรม ทาง ททท.ประเดิมงานแรกคือเทศกาลอาหารและสัปดาห์สุขภาพ ระหว่างวันที่ 4-8 พ.ย.มี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดงาน

โดยมี นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าฯ ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว นำของดีของไทยไปนำเสนอใน ธีม Thai Scents Cafeéมีชาดอกไม้ กาแฟ ขนมไทย ให้ชิมฟรี

พร้อมนำ “เมี่ยงกลีบบัวบ้านสวน” จาก จ.นนทบุรี ที่เคยโกอินเตอร์ สร้างชื่อในหลายประเทศ ไปเสิร์ฟเรียกแขกหน้างาน เรียกเสียงว้าวกันทั้งงานว่าดอกบัวกินได้ อะเมซิ่งมากๆ

ตบท้ายด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยว สนง.ททท.ดูไบ ให้ข้อมูลว่า หลังไทยเปิดประเทศ 1 พ.ย.มีนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจากตะวันออกกลางหลายประเทศ เดินทางมาเที่ยวไทยแล้วเกือบ 1 หมื่นคน

เน้นไปเมืองยอดฮิตอย่าง กทม. เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย และรักษาพยาบาลใน รพ.ชื่อดัง ที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่ากันครึ่งต่อครึ่ง

ทั้งหมดทั้งมวลที่ไปเห็นกับตา ทีมงานซอกแซกการันตีอีกเสียงว่า ศาลาไทย

จัดได้เนี้ยบสมราคา มีคนดูไบกับคนชาติอื่น ต่อแถวเข้าชมงานกันแน่นขนัดทุกรอบ กว่าจะจบงานวันที่ 31 มี.ค.ปีหน้า ยอดเข้าชมคงทะลุหลักล้าน

หักปากกาเซียนที่เคยปรามาสอย่างแน่นอน…

“ฤทธิ์ ศิษย์ซูม”

ข่าว, ศาลาไทย, งานเวิลด์เอ็กซ์โป, World Expo 2020, ท่องเที่ยว, ดูไบ, ซูมซอกแซก