อำลา–อาลัย “ทมยันตี” หนึ่งใน “นักเขียน” อมตะ

สำนักข่าวออนไลน์ทุกสำนักรายงานข่าวอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อช่วงบ่ายๆ ของวันจันทร์ที่ 13 กันยายน ว่านักเขียนชื่อดังระดับศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2555 เจ้าของนามปากกา “ทมยันตี” ได้อำลาจากไปแล้วอย่างสงบด้วยวัย 85 ปี

ข่าว, ทมยันตรี, เสียชีวิต, คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์, คู่กรรม, ทวิภพ, นวนิยาย, โกโบริ, ซูมซอกแซก

ในเบื้องต้นยังไม่มีสำนักข่าวใดแจ้งถึงสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ก็มีบางสำนักที่กล่าวไว้สั้นๆ โดยอ้างแหล่งข่าวจากครอบครัวว่า “ทมยันตี” นอนหลับไปเฉยๆ แล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

แม้ผมจะไม่เคยรู้จักหรือสนิทสนมกับท่านเป็นการส่วนตัว แต่ก็ถือว่ามีความสนิทสนมทางใจ เพราะเป็นแฟนติดตามอ่านผลงานของท่านมาตั้งแต่ผมยังนุ่งกางเกงขาสั้นไปเรียนหนังสือด้วยซ้ำ

จำได้ว่าบทประพันธ์เรื่องแรกของท่านที่ผมอ่านคือเรื่อง “ในฝัน” ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหญิงเจ้าชายที่นำเสนอในรูปของจดหมายบรรยายถึงเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งความรัก ระหว่างพระเอก นางเอกในนวนิยายเรื่องนี้ได้อย่างละเมียดละไมแฝงด้วยคติธรรมต่างๆ

ท่านใช้นามปากกาว่า “โรสลาเรน” เขียนเรื่องนี้ตอนที่ท่านอายุแค่ 19 ขวบเท่านั้น อ่านแล้วยังแทบไม่อยากเชื่อว่าด้วยอายุเพียงเท่านี้ท่านจะเขียนหนังสือได้ยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้

ที่โด่งดังมากและแฟนๆ ติดตามอ่านกันมากก็คือเรื่อง “คู่กรรม” ที่ท่านใช้นามปากกา “ทมยันตี” แต่งลงเป็นตอนๆ ในนิตยสารรายสัปดาห์

ผมไม่ชอบนายทหารญี่ปุ่นที่ชื่อ “โกโบริ” ที่มาติดพัน อังศุมาลิน นางเอก…แต่เชียร์หนุ่มไทยที่ชื่อ พนัส หรือ วนัส อะไรนี่แหละ

อ่านไปก็ลุ้นไปขอให้ท่านหักมุมให้หนุ่มไทยเราได้เป็นพระเอก…แต่ท่านก็ยังยืนหยัดให้โกโบริเป็นพระเอก และบรรยายฉากจบตอนโกโบริเสียชีวิตเพราะโดนระเบิด โดยมีอังศุมาลินมาพิรี้พิไรจนผู้คนร้องไห้ทั้งเมือง

ผมไม่ยอมอ่านบทนี้ เพราะก็อย่างที่ว่าในฐานะชายไทยก็แอบเอาใจช่วยหนุ่มไทยและรู้สึกเคืองนิดๆ ที่สาวไทยไปรักหนุ่มญี่ปุ่น

แต่ในเชิงศิลปะของการประพันธ์ต้องถือว่าท่านประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งที่ทำให้ผู้อ่านหญิงชาวไทยร้องไห้ได้ทั้งประเทศ และทำให้ผู้อ่านที่เป็นชายไทยเคืองและอิจฉานายโกโบริหากจะไม่ใช่ทั้งประเทศก็คงจะหลายคนอยู่และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือผมเอง

บทประพันธ์ล่าสุดของท่าน ที่ผมชอบมากๆ ก็คือเรื่อง “ทวิภพ” ซึ่งแม้จะมิได้อ่านจากหนังสือเล่มแต่ก็ได้ดูทั้งจากภาพยนตร์ของเชิด ทรงศรี เมื่อปี 2533 และละครเวทีของคุณ บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่เรียกว่า “ทวิภพ เดอะมิวสิคัล” และนำมาแสดงถึง 2 ครั้ง ที่ศูนย์ วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยและโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย

ที่ผมชอบเรื่อง “ทวิภพ” อย่างมาก และดูได้ดูดีหลายครั้งก็เพราะชอบพล็อตที่ท่านแต่งให้นางเอกสาวนักเรียนนอกในยุคปัจจุบันเข้าสู่บานกระจกแบบไทม์แมชชีนไปช่วยพระเอกที่เป็นข้าราชการในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และรับหน้าที่ในการค้นหาเอกสารต่างๆ เพื่อต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นในยุคโน้น

มีการจดบันทึกไว้ว่าท่านได้แต่งนวนิยายในนามปากกา “ทมยันตี” เอาไว้ถึง 69 เรื่อง, ในนามปากกา โรสลาเรน 17 เรื่อง, ในนามปากกา “กนกเรขา” 10 เรื่อง, ในนามปากกา “ลักษณวดี” 16 เรื่อง และในนามปากกา “มายาวดี” อีก 17 เรื่อง

ไม่รวมเรื่องสั้นหรือข้อเขียนสั้นๆ แบบบทความอีกจำนวนมาก

ทมยันตี มีนามจริงว่า คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ เป็นชาวกรุงเทพมหานคร เรียนชั้นประถมและมัธยมจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ จากนั้นเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ก็เปลี่ยนไปเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จนจบชั้นอนุปริญญา

แม้จะตระหนักในสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้ว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นเป็นธรรมดาของโลก…แต่ผมก็รู้สึกใจหายอย่างยิ่ง เมื่ออ่านข่าวพบว่าท่านได้จากพวกเราคนรักหนังสือไปเสียแล้วดังกล่าว

ขอขอบคุณผลงานอันทรงคุณค่าของท่านที่สร้างความสุขความสำราญและหลายๆ เรื่องได้ มอบข้อคิดดีๆ ให้แก่คนไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ที่ท่านเขียนนวนิยายเรื่องต่างๆ

เป็นที่มั่นใจได้ว่าผลงานอันทรงคุณค่าทุกๆ เรื่องของท่านจะยังคงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไปอีกนานแสนนาน…ยังสามารถอ่านได้และนำมาพิมพ์ใหม่ได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน

เป็นสุขเถอะครับ “โรสลาเรน”…เรียนแล้วว่าผมอ่านเรื่อง “ในฝัน” ของท่านเป็นเรื่องแรก…ขออำลาอาลัยส่งท่านสู่สวรรค์ ด้วยนามปากกานี้ ก็แล้วกันนะครับ.

“ซูม”