บันทึกตำรวจ “หลงยุค” จาก “ขุขันธ์” ถึง “ปากน้ำโพ”

ในเดือนสิงหาคมที่กำลังจะผ่านไปอีกเพียงไม่กี่วันข้างหน้านี้ มีเรื่องราวเกี่ยวกับตำรวจไทยจาก 2 โรงพักต่างจังหวัดขึ้นมาเป็นข่าวใหญ่พาดหัวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ ถึง 2 ข่าวด้วยกัน

ข่าวแรกถือเป็นข่าวดีมาก คนไทยทั่วประเทศได้อ่านข่าวหรือ “ดูคลิป” แล้วต่างก็ปรบมือให้แก่ตำรวจด้วยความชื่นชม

เหตุเกิดที่ สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 แต่มีการเผยแพร่คลิปเมื่อวันที่ 17-18 สิงหาคม…

สืบเนื่องมาจาก ร.ต.อ.อาภากร โสภา รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ขุขันธ์ ได้จับกุมวัยรุ่นคนหนึ่งที่ขี่รถจักรยานยนต์มาแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายประการ เช่น ไม่ติดป้ายทะเบียน ดัดแปลงสภาพรถ อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ ฯลฯ

ปรากฏว่า วัยรุ่นดังกล่าว เมื่อขึ้นมาบนสถานีตำรวจแล้วกลับแสดงกิริยาไม่สุภาพต่อผู้จับกุม หรือ ร.ต.อ.อาภากร มีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมไปถึงการชี้หน้าท้าทายติดต่อกันไม่หยุด

ท่านรองสารวัตรผู้จับกุมและนั่งสอบปากคำอยู่กับโต๊ะทำงานก็ทนฟังคำด่าทอทั้งหลายโดยไม่ตอบโต้ และแม้เมื่อนำไปเข้าห้องขัง ซึ่งผู้ต้องหาก็ยังใช้โทรศัพท์เขวี้ยงใส่ลูกกรงและด่าทออีกชุดใหญ่ส่งท้าย ร.ต.อ.อาภากรก็ยังคงนิ่งเงียบดังเดิม

จากนั้นอีก 1 วันต่อมาก็ได้มีท่านอาจารย์ของโรงเรียนอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง ที่วัยรุ่นรายนี้เป็นนักเรียนอยู่…นำตัววัยรุ่นซึ่งดูจะสำนึกตัวได้นำดอกไม้ใส่พานมาไหว้ขอขมาถึงโรงพัก ซึ่งท่านรองสารวัตรก็รับดอกไม้ไว้ และให้อภัยแก่วัยรุ่นโดยไม่อิดออดแม้แต่น้อย

สื่อมวลชนจึงตั้งฉายาให้ ร.ต.อ.อาภากร ว่า “ตำรวจใจน้ำแข็ง” และต่อมา ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้นำประกาศนียบัตรยกย่องชมเชยในฐานะตำรวจตัวอย่างไปมอบให้แก่รองสารวัตรท่านนี้

มาที่ข่าวที่สองซึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่วางจำหน่ายใน กทม. เช้าตรู่วันพุธที่ 25 สิงหาคม ต่างพาดหัวคล้ายๆ กันถึงข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้น ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

กรณี “ตำรวจ” จำนวนหนึ่ง ภายใต้การนำของ “ผู้กำกับ” โรงพักดังกล่าว ได้จับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ จนต่อมาผู้ต้องหาเสียชีวิตไปคาถุง

มี “คลิป” ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมของตำรวจชุดนี้ให้ดูตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงตอนที่มีการใช้พลาสติกคลุมหัว มีความยาว 1.19 นาที

หนังสือพิมพ์รายงานตรงกันว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากการร้องเรียนของตำรวจชั้นผู้น้อย กรณีมีการจับกุมสามีภรรยาคู่หนึ่งในคดียาเสพติด และนำมาสอบสวนที่โรงพัก พร้อมกับมีการเรียกเงิน 1 ล้านบาท แต่ “ผู้กำกับ” ไม่ยอม จะเรียก 2 ล้านบาท และมีการเอาถุงดำมาครอบศีรษะจนผู้ต้องหาเสียชีวิตในที่สุด

คดีจะไปลงเอยอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งข่าวว่าท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ดำเนินการให้ถึงที่สุด

ผมดูคลิปข่าวนี้แล้วก็เกิดความหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

นึกถึงเมื่อ 30-40 ปีก่อน ที่การซ้อมผู้ต้องหาด้วยกลวิธีอันโหดร้ายทารุณต่างๆ จนแทบจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ของตำรวจไทย แต่ต่อมาก็ค่อยๆ เงียบหายไป…จนนึกว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว

กลับยังหลงเหลืออยู่อีกจนได้ซีน่ะ

อะไรไม่อะไร ตำรวจกำลังได้คะแนนดีทีเดียวช่วงนี้ ทั้งจากกรณี “ตำรวจใจน้ำแข็ง” ที่ศรีสะเกษ และความอดทนของตำรวจโรงพักในกรุงและชานกรุงหลายแห่งที่โดน “ม็อบ” ไปรุมล้อมและด่าทอต่างๆ นานาถึงขนาดโดนสาดสีใส่โรงพัก ก็ไม่ได้ตอบโต้รุนแรงอะไรมาก

มาเจอคดี “ตำรวจใจโหด” ที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ เข้าเท่านั้นคะแนนดีๆ แทบจะหายเกลี้ยงเลย

ก็คงต้องปลอบใจว่า…เอาน่า ส่วนใหญ่คงดีขึ้นแล้วละ เหลือเพียง ส่วนน้อยที่ยังย่ำแย่ “หลงยุค” อยู่บ้าง คงต้องหาทางแก้ไขกันไป

แต่มันก็น่าน้อยใจอยู่หน่อยๆ ตรงที่กรณี “หลงยุค” ที่เหลือเป็น ส่วนน้อยนั้นไซร้ ไปเกิดที่ไหนไม่เกิด…ดันเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซะนี่

จะไม่ให้คนมีเชื้อสายนครสวรรค์หรือปากน้ำโพอย่างผมรู้สึกหงุดหงิดได้ยังไงล่ะท่าน ผบ.ตร. …อายคนขุขันธ์เขาน่ะครับ.

“ซูม”

ข่าว, ตำรวจ, นครสวรรค์, ศรีสะเกษ, คลิป, ซูมซอกแซก