โควิด “โลก” ยังหนักมาก ห่วง “สงครามโรค” ยืดเยื้อ

ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ ในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 วันที่มีการประกาศล่วงหน้าว่าม็อบบางกลุ่มจะนัดชุมนุมกันตอนบ่ายโมง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปสู่พระบรมมหาราชวังนั่นแหละครับ

ก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาประนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจงช่วยดลบันดาลขอให้เหตุการณ์ต่างๆผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนที่ผมเขียนทิ้งท้ายไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

พร้อมกับขอเอาใจช่วยฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ทำหน้าที่ในการรักษากฎหมาย และความสงบเรียบร้อย จงสามารถควบคุมเหตุการณ์ต่างๆหากจะมีการบานปลายไปสู่ความร้ายแรงเอาไว้ให้ได้ในที่สุด

โดยเฉพาะพระบรมมหาราชวังศูนย์รวมใจอันทรงคุณค่ายิ่งของปวงชนชาวไทย และเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศชาตินั้น จะต้องปกป้องเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

ฝากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเสร็จสรรพก็ขอกลับมาที่เรื่องที่ตั้งใจไว้ว่า จะเขียนถึงในวันนี้…ซึ่งก็คือ เรื่องสถานการณ์โควิด-19 นั่นเอง

เพราะดูๆ แล้วน่าจะเป็น “ปัญหาใหญ่” ของโลกที่คงไม่จบง่ายๆ เสียแล้วละ เนื่องจากยอดระบาดรวมของโลกกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวลใจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ยอดรวมในวันเสาร์นี้ ก็ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่รวมกันทั่วโลกถึง 697,010 ราย ซึ่งยังคงเป็นสถิติที่ถือว่าสูงมาก

โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา ยอดติดเชื้อใหม่เมื่อวันเสาร์ ซึ่งน่าจะเป็นค่ำวันศุกร์ของเขาสูงถึง 130,706 ราย และดูเหมือนจะเกิน 100,000 รายมา 3-4 วันติดๆ กันแล้ว

ของสหราชอาณาจักรก็กลับมาเกิน 31,000 ราย ฝรั่งเศสเกิน 25,000 ราย สเปนเกิน 20,000 ราย รัสเซียเกิน 20,000 ราย…ถือว่าเป็นตัวเลขในเกณฑ์สูงทั้งสิ้น

แม้ประเทศเหล่านี้จะฉีดวัคซีนแล้วเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งเป็นวัคซีนที่ร่ำลือกันว่าเป็นวัคซีนคุณภาพช่วยปกป้องผู้ป่วยไม่ให้เสียชีวิตได้ค่อนข้างสูง

แต่เอาเข้าจริงๆ ผู้ที่ฉีดแล้วก็มีบ้างที่เสียชีวิตและที่เสียชีวิตมากที่สุดก็คือผู้ไม่ได้ฉีดนั่นเอง ดังเช่นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะฉีดได้อย่างน้อย 1 เข็ม ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรผู้ใหญ่ แต่ผู้ที่ไม่ฉีด อีก 30 เปอร์เซ็นต์ ต่างก็ติดเชื้อและล้มตายลงอย่างน่าตระหนก…รวมทั้งในวันเสาร์ที่แล้วก็เสียชีวิตไปถึง 750 คน

ร้อนถึงสหรัฐฯ ต้องหันมาปัดฝุ่นนโยบายสวมหน้ากากอีกครั้ง และต้องหาทางจูงใจให้ประชาชนของเขาหันไปฉีดวัคซีนมากขึ้น และล่าสุดก็อาจออกประกาศไม่ให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจากต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศในเร็วๆ นี้

แสดงว่าสายพันธุ์เดลตานั้นน่ากลัวจริงๆ และต้องมาดูว่าสหรัฐฯ จะเอาชนะด้วยวิธีใด…โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน แม้จะช่วยได้มากก็จริง แต่ถ้าเชื้อเกิดกลายพันธุ์อีกก็อาจจะเอาไม่อยู่กันอีก…กลายเป็นสงครามยืดเยื้อที่ไม่รู้จบในที่สุด

ส่วนที่ จีน ก็มีข่าวเรื่องโควิด-19 กลับมาอาละวาดใหม่เช่นกัน แม้จะน้อยมาก วันละ 80-90 ราย อย่างล่าสุดก็ 124 ราย แต่เขาก็วิตก เพราะของเขาศูนย์หรือเป็นตัวเลขหลักเดียวมานานมากแล้ว ร้อนถึงทางการจีนต้องเร่งระดมตรวจเชิงรุกเป็นการใหญ่ และหันมาเตรียมที่จะใช้มาตรการเข้มๆกันอีกครั้ง

มองไปในอาเซียนเราก็หนักอึ้งกันอยู่ทุกประเทศ อินโดนีเซียวันละเกือบ 40,000 ฟิลิปปินส์เมื่อเช้านี้ 10,000 กว่าๆ มาเลเซีย 20,000 กว่า แต่น้อยกว่าเราหน่อย เพราะของเราวันที่เขียนพุ่งไปที่ 21,838 และเสียชีวิตถึง 212 คน

เห็นตัวเลขการระบาดแล้วก็ท้อใจเลยครับ และยิ่งในบ้านเรายังมีเหตุการณ์อื่นๆที่นอกเหนือจากโควิด-19 เข้ามามะรุมมะตุ้มทำให้การแก้ปัญหายากขึ้นไปอีก

ที่สำคัญคุณหมอท่านบอกว่าจุดพีกจริงๆของเรายังมาไม่ถึงด้วยซํ้า…เฮ้อ…นึกภาพไม่ออกจริงๆครับว่าเมื่อถึงจุดที่ว่า…จำนวนผู้ติดเชื้อจะเป็นเท่าไร? ผู้เสียชีวิตจะเป็นเท่าไร?
แล้วความเสียหายทางเศรษฐกิจล่ะ จะเป็นเท่าไร? ไม่อยากคิด ไม่อยากมองออกไปข้างหน้าเลยครับ.

“ซูม”

ข่าว, โควิด 19, สถานการณ์, ผู้ติดเชื้อ, ซูมซอกแซก