คิดถึง “บางปู” + “ดูนก” โควิดซาเมื่อไร? ไปทันที

เราเที่ยวทิพย์กันมาแล้ว 7 สัปดาห์เต็มๆ…ย้อนอดีตไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวในความทรงจำของหัวหน้าทีมซอกแซก รวมทั้งสิ้น 8 อันดับ

ทั้งนี้ ก็เพราะมีอยู่สัปดาห์หนึ่ง เรานำท่านผู้อ่านไปชม พระอาทิตย์ขึ้น ยามเช้าที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ควบคู่ไปกับการชม พระอาทิตย์ตกทะเล ยามใกล้ค่ำที่แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ซึมซับกับบรรยากาศของ “แสงแรก” และ “แสงสุดท้าย” ของแผ่นดินสยาม…ในสัปดาห์เดียวกัน

ดังนั้น สัปดาห์นี้แม้จะขึ้นสู่สัปดาห์ที่ 8 ของข้อเขียนชุดนี้ แต่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวในความทรงจำอันดับที่ 9 ของหัวหน้าทีมแล้วนะครับ…ซึ่งก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก กทม. ของเรามากนักขับรถไปชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้ว

นั่นก็คือ “สถานตากอากาศบางปู” ถนนสุขุมวิท กม.ที่ 37 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีสโลแกนติดปากนักท่องเที่ยวว่า “ไปบางปู ดูฝูงนก…อาทิตย์ตกเต้นรำ…ย่ำป่าชายเลน” นั่นแหละครับ

โดยเฉพาะ “ฝูงนก” จะมีทั้ง นกนางนวลหัวดำใหญ่, นกปากแอ่นหางดำ และ นกซ่อมทะเลอกแดงที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรีย มาสัมผัสความอบอุ่น ณ ตำบลบางปูใหม่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายนของแต่ละปี…ไม่ต่ำกว่า 5 พันถึง 6 พันตัวบินว่อนอย่างตื่นตา ตื่นใจ ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

สถานตากอากาศบางปู ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2480 โดยดำริของนายกรัฐมนตรี จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในยุคนั้น ขณะเดินทางไปราชการที่จังหวัดชลบุรีผ่านพื้นที่บริเวณนี้เห็นว่าสวยงามมาก เหมาะที่จะทำเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและตากอากาศ เพราะไม่ห่างจากพระนคร (กทม.) มากนัก

จากนั้นก็มีการจัดซื้อพื้นที่ 463 ไร่ ในเบื้องต้น (ปัจจุบันซื้อเพิ่มเป็น 639 ไร่) จัดสร้างที่พักบังกะโล และอาคารในทะเลเพื่อใช้เป็นร้านอาหารขึ้นอาคารหนึ่ง พร้อมกับสร้างสะพานเชื่อมยาว 500 เมตร ไปยังตัวอาคารชื่อว่า สะพานสุขใจ พร้อมกับตั้งชื่อโดยรวมว่า “สถานตากอากาศชายทะเลบางปู” มอบหมายให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ดำเนินการ และรับผิดชอบดูแลในระยะเริ่มต้น

พ.ศ.2482 การก่อสร้าง สะพานสุขใจ เสร็จเรียบร้อย เปิดให้ประชาชนเข้าไปรับประทานอาหารและเต้นรำที่ร้านอาหารในทะเลได้ ไม่นานนักก็เกิดสงครามเอเชียบูรพา ตามด้วยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้สถานตากอากาศชายทะเลบางปูต้องปิดตัวลง เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งปี 2491 จึงกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง

ต่อมา หลัง พ.ศ.2508 ประเทศไทยประสบกับปัญหาผู้ก่อการร้ายมีการสู้รบระหว่างทหารไทยกับ ผกค.ในป่าหลายแห่ง…ในหลวง ร.9 จึงมีพระราชปรารภกับเจ้ากรมแพทย์ทหารบก เมื่อ พ.ศ.2510 ว่ากองทัพบกควรมีหน่วยงานฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจทหารที่บาดเจ็บเพื่อให้กลับมารับราชการได้ตามเดิม และฝึกอาชีพให้แก่ทหารเหล่านั้นควบคู่กันไป

กรมแพทย์ทหารบกจึงเข้าดำเนินการสถานตากอากาศบางปูสืบแทนสำนักงานทรัพย์สิน และใช้เป็นสถานที่พักฟื้นของทหารที่ได้รับบาดเจ็บใน พ.ศ.ดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้ปล่องถ่ายภารกิจให้แก่กรมพลาธิการทหารบกจนถึงปัจจุบันนี้

จนถึงปี 2536 ร้านอาหารและสะพานทรุดโทรมลงมาก ทำให้ต้องปิดเพื่อก่อสร้างและปรับปรุงครั้งใหญ่ จนแล้วเสร็จใน พ.ศ.2543 จึงกลับมาเปิดให้บริการแก่ประชาชนอีกครั้งและก็เปิดเรื่อยมาจนถึงบัดนี้

ในปี 2543 นี้เองที่ได้มีการตั้งชื่ออาคารที่เป็นร้านอาหารและฟลอร์เต้นรำในทะเลอย่างเป็นทางการว่า “ศาลาสุขใจ” เพื่อให้คล้องจองกับ “สะพานสุขตา” ซึ่งมีการปรับปรุงใหม่กลายเป็นสะพานคอนกรีตที่แข็งแรง แต่ยังคงใช้ชื่อเดิมที่ประชาชนคุ้นเคย

ในส่วนของหัวหน้าทีมซอกแซกแม้จะได้ยินชื่อเสียงของสถานตากอากาศบางปูตั้งแต่เด็กๆ แต่เพิ่งจะมีโอกาสไปเยือนเมื่อ พ.ศ.2503 ในช่วงที่เป็นนักศึกษาปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ โดยอาศัยนั่งรถเก๋งของเพื่อนที่มีฐานะรายหนึ่งก็ตื่นตาตื่นใจพอสมควร แม้นกจะไม่มากเท่ายุคนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการได้เห็นทะเลครั้งแรกในชีวิตของหัวหน้าทีมซอกแซก จึงจดจำได้อย่างไม่มีวันลืม

จากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย แต่ก็ติดตามและได้ยินข่าวคราวการเปลี่ยนแปลงดังที่ลำดับไว้ในช่วงที่แล้วมาโดยตลอด

จนกระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีนี้เอง มีการตัดถนนสายสำคัญเชื่อมกับจังหวัดสมุทรปราการหลายสาย รวมถึง ถนนพัฒนาการ ที่อยู่ใกล้บ้าน หัวหน้าทีมซอกแซกประกอบกับมีการเผยแพร่ข่าวในสื่อมวลชนต่อเนื่องกันหลายปีว่ามีฝูงนกนางนวลจำนวนมากบินหนีหนาวจากไซบีเรียมาอยู่ที่สถานตากอากาศบางปู หัวหน้าทีมซอกแซกจึงชักชวนลูกๆ หลานๆ กลับไปรำลึกความหลังกันอีกครั้ง

ไปปุ๊บก็ติดใจปั๊บทันที โดยเฉพาะบรรยากาศกลาง “สะพานสุขตา” ที่ลานตาไปด้วยฝูงนกที่ค่อนข้างเชื่องบินลงมาโฉบกินอาหารที่ประชาชนป้อนให้แน่นขนัดไปหมด

รวมถึงภาพดวงอาทิตย์ตกทะเลบางปู ก็งามไปอีกแบบหนึ่ง ในขณะที่รสชาติของอาหารทะเลก็อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี บริการรวดเร็ว และสนนราคาอยู่ในระดับรับได้

จากนั้นมาสถานตากอากาศบางปูก็กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ “ใกล้บ้าน” ที่หัวหน้าทีมซอกแซกจะชักชวนสมาชิกครอบครัวแวะเวียนไปดูนก อย่างน้อยปีละครั้งเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

รวมทั้งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมายังนั่งคุยกันว่า เดือนพฤศจิกายนนี้ (อีก 4 เดือนเศษเท่านั้น) จะเข้าหน้าหนาว และ “กองทัพนก” จากไซบีเรียจะบินมา “บางปู” อีกแล้ว

เพี้ยง! ขอให้รัฐบาลจัดการกับโควิด–19 ได้สำเร็จด้วยเถิด…ประเทศไทยกลับมาเหมือนอย่างเดิมเถอะ…จะรีบขับรถจากบ้าน “ยกครัว” ไป “บางปู” ทันทีเลย.

“ซูม”

ข่าว, บางปู, สถานตากอากาศบางปู, ท่องเที่ยว, เที่ยวทิพย์, โควิด 19, ซูมซอกแซก