ข้อคิดวันทะลุ “2 แสน” ติดเชื้อ “โควิด” ไทยแลนด์

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน ที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ถือเป็นวันสำคัญที่จะต้องบันทึกไว้สำหรับการทำสงครามสู้กับโรคระบาดไวรัสร้ายโควิด-19 ของประเทศไทย

เพราะเป็นวันที่สถิติยอดติดเชื้อสะสมของเราทะลุหลัก 200,000 (2 แสน) รายพอดิบพอดีในวันนี้

ครั้น 15 มิถุนายน เวลาเที่ยงเศษๆ หลังทาง ศบค.แถลงตัวเลขอย่างเป็นทางการว่าเราติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 3,000 ราย…มหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ก็ปรับตัวเลขของเราออกเผยแพร่ทั่วโลกทันทีเป็น 202,264 ราย ทะลุ 200,000 ไปถึง 2,264 ราย

เป็นอันดับที่ 79 ของโลก ขึ้นไปจ่อหายใจรดต้นคอประเทศ บอสเนียฯ ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 204,668 ราย…ห่างกันเพียง 2,404 รายเท่านั้นเอง…โอกาสที่เราจะแซงได้อีกค่อนข้างสูงมาก

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2564 วันที่เราทะลุหลักหมื่นคือขึ้นมาอยู่ที่ตัวเลข 10,053 รายนั้น ดูเหมือนผมจะบันทึกไว้เช่นกัน

ผมยังเขียนไว้ด้วยว่าเราใช้เวลาถึง 11 เดือนเศษ นับตั้งแต่เราเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกๆ ในประเทศไทยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2563 กว่าจะมาทะลุหลักหมื่นในต้นเดือนมกราคม 2564

ก็ได้แต่หวังว่าการระบาดระลอก 2 ในบ้านเรานั้น เราจะควบคุมได้อยู่อย่างรวดเร็ว เหมือนที่เราจัดการได้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับคำชมจากทั่วโลก รวมทั้ง WHO ในระลอกแรก

ที่ไหนได้ จากวันที่เราทะลุหลักหมื่น 9 มกราคม 2564 นั้นเอง…มาถึง 16 พฤษภาคมปีเดียวกัน แค่ 4 เดือนเศษเท่านั้น เราทะลุหลักแสนเสียแล้ว คือพุ่งขึ้นเป็น 101,447 ราย อย่างเหลือเชื่อ

จากนั้นก็ยังวิ่งไม่หยุด…แค่เดือนเดียวเอง คือจาก 16 พ.ค. ถึง 15 มิ.ย. เราทะลุ 200,000 มาอยู่ที่ 202,264 เรียบร้อย

ยอมรับว่าใจหายจริงๆ ครับ ที่เห็นตัวเลขพุ่งปรู๊ดปร๊าดเช่นนี้

เพราะมันจะส่งผลไปถึงผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ต้องเข้าห้องไอซียู หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ…ซึ่งจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย

รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตซึ่งจะต้องสูงขึ้นด้วย ดังเช่นยอดล่าสุดของเราที่พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 1,485 ราย ทั้งที่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 ยอดเสียชีวิตสะสมของเราตั้งแต่ระบาดมาเกือบๆ ปีอยู่ที่ 64 รายเท่านั้นเอง

กลายเป็นว่าอีกเพียง 6 เดือนให้หลังเราต้องเสียชีวิตถึง 1,400 กว่าราย นับเป็นการสูญเสียที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง

ผมก็ขอทำหน้าที่บันทึกไว้เพื่อให้ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาได้ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้ต่อไป เพื่อชะลอยอดติดเชื้อใหม่รายวันลงให้ได้และชะลอผู้เสียชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เป็นที่ยอมรับกันแล้วละว่าหนทางเอาชนะสงครามโควิด-19 ได้ก็คือ “วัคซีน” ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตนตามกรอบของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ หลังฉีดวัคซีน

เห็นได้จากภาพรวมของโลกที่ปรากฏชัดว่าประเทศที่มีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางและปฏิบัติตามกรอบกติกาในระดับหนึ่งสามารถลดอัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้น การเร่งฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามกฎกติกาด้านสาธารณสุข จึงเป็นทางออกของชัยชนะในศึกครั้งนี้

เราเริ่มฉีดกันมาพอสมควรแล้ว มีปัญหามีอุปสรรคมากมายดังที่เป็นข่าวและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

ขออนุญาตไม่ซํ้าเติมละครับ นอกจากจะขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องน้อมรับคำติติงมาพิจารณา…พร้อมกับหาทางแก้ปัญหาอย่างจริงจังจริงใจต่อไป จนกว่าเราจะได้ชัยชนะหรือเริ่มมองเห็นแสงสว่างของชัยชนะ

ปัญหาอยู่ตรงไหนก็ขอให้บอกกันตรงๆ สื่อสารให้เป็นเรื่องเดียวกัน อย่ามั่ว อย่าว่ากันคนละเรื่องแบบทุกวันนี้

สรุปก็คืออย่าให้ผมต้องมานั่งบันทึกถึงวันทะลุหลัก 300,000 ในเร็วๆ นี้ได้จะขอบคุณเป็นที่สุด หรือไม่ถึงหลัก 300,000 เลยจะดีมากๆ ครับ

ขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้นะครับ.

“ซูม”

ข่าว, โควิด 19, ยอดผู้ติดเชื้อ, ประเทศไทย, วัคซีน,​ ฉีด, สงคราม, ซูมซอกแซก